web stats

ข่าว

 


Ghost Writer - บทที่ 18 A Sky Full Of Stars

โพสต์โดย: anhann วันที่: 25 มกราคม 2019 เวลา 22:01:37 อ่าน: 170





"Ghost Writer (เลิกเป็นผี มาเป็นแฟนกันดีไหม) "

เปิดให้จองและชำระเงินได้ตั้งแต่ วันนี้ - 10 กุมภาพันธ์ 2562 กำหนดส่งหนังสือประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2562

ในราคา เล่มละ 350 บาท ส่งฟรีพัสดุธรรมดา (เฉพาะช่วงจอง) ส่งลงทะเบียน 400 บาท และ 420 บาท EMS

สนใจติดต่อ anhann5@gmail.com , Inbox หรือ ไลน์ anhann

หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ --->>> http://bit.ly/2RmpYRR





บทที่ 18 A Sky Full Of Stars





ลิซซี  นักกายภาพบำบัดของคาเร็นกำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างขันแข็งเหมือนทุกเช้าอยู่ในห้องชั้นล่างที่จูนเคยใช้เป็นฟิตเนสส่วนตัว  ตอนนี้เธอเลื่อนเครื่องออกกำลังกายให้กระชับพื้นที่มากขึ้นเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับอุปกรณ์ที่ลิซซีต้องใช้ในการทำกายภาพให้คาเร็น 

จูนยืนกอดอกมองแฟนสาวอยู่หน้าประตูห้อง  ดูเหมือนลิซซีจะนวดให้คาเร็นเสร็จแล้ว  กำลังช่วยพยุงคาเร็นอยู่ในลู่หัดเดิน  คาเร็นทำท่าทางให้ลิซซีปล่อยให้ตนเดินเอง  ดูตั้งใจมาก  แต่ยังไม่วายย่นจมูกและค้อนให้เธอตอนหันมาเห็นว่าเธอมองอยู่ 

"จูน  ห้ามแกล้งคนไข้ของฉันค่ะ"  ลิซซีร้องทักขึ้นมา  จูนยักไหล่

"ไม่ได้แกล้งค่ะ  แค่ให้กำลังใจเฉยๆ"

"โอเคค่ะ  แต่ฉันว่าคุณไปจากตรงนี้ดีกว่า  ฉันไม่อยากให้คนไข้ต้องไขว้เขว  เข้าใจไหมคะ"

จูนเลิกคิ้ว  มองคาเร็นอย่างขอความเป็นธรรม  แต่คุณว่าที่ภรรยากลับส่ายหน้า  ไม่เห็นใจกันบ้าง  ไม่เห็นเหมือนเมื่อคืนเลย

"อืม  หรือว่าจะดีกว่า  ถ้าให้คุณมาพยุงเธอแทนฉัน"  ลิซซีพูดขึ้นด้วยท่าทางครุ่นคิด  จูนยิ้มชอบใจ  ต่างจากคาเร็นที่รีบส่ายหน้าพรืด  "อยากลองอะไรใหม่ๆ ดูไหม  คาเร็น"

คาเร็นทำหน้างง  หันไปขมวดคิ้วให้จูนที่ทำท่ารื่นเริงเกินเหตุสลับกับลิซซีที่ปล่อยให้เธอยืนเกาะราวหัดเดินอยู่ลำพังทั้งที่ขาเธอสั่นพับๆ และแขนใกล้จะหมดแรง

"โอ้  ขอโทษ  คาเร็น"  ลิซซีอุทาน  เข้ามาพยุงตัวคาเร็นก่อนที่คนไข้ของเธอจะทรุดฮวบไป  เธอพยักหน้ากับขยิบตาให้จูนแต่ทางนั้นก็ดันซื่อบื้อได้ไม่รู้เวลา  ร้อนถึงเจ้าแบร์ที่นอนหมอบดูเหตุการณ์มานานแล้วต้องมาดึงขากางเกงลากให้เจ้านายเข้ามาในห้องด้วยกัน

"ทำได้ดีมาก  แบร์"  นักกายภาพบำบัดสาวชมสุนัขแสนรู้  พลางพยักหน้าเรียกให้จูนมาช่วยเป็นหลักให้คาเร็นแทนตน  "คุณให้เธอเกาะไว้แบบนั้นก่อน  เดี๋ยวฉันมา"

"แล้วจะให้ยืนเฉยๆ แบบนี้เหรอ  ลิซ"

"ค่ะ  หรือคุณจะพาเธอเต้นรำก็ได้นะ"

"จะบ้าเหรอ"  จูนว่าไล่หลังลิซซีที่ทำหน้าตาล้อเลียนเธอ  "ยายนั่นต้องอู้ไปกินช็อกโกแลตในครัวแน่ๆ เลย"

คาเร็นยิ้ม  รู้เหมือนกันว่าลิซซีชอบเบรกไปแอบกินช็อกโกแลตที่จูนซื้อมาใส่ไว้ในตู้เย็นในครัว  จริงๆ จูนก็ซื้อมาฝากลิซซีนั่นแหละ  แค่ไม่ชอบให้ไปเลย  ต้องแกล้งซ่อนไว้ในนั้น  แล้วให้ลิซซีไปรื้อหากินเอง  เรื่องแกล้งคนนี่ถนัดจริงๆ  น่าตีนักเชียว

"เมื่อยไหม  เอนตัวมาหาฉันก็ได้นะ"  จูนบอก  แปลกใจที่คาเร็นหน้าแดงขึ้นมาเฉยๆ  "เอ่อ  คุณ...โอเคหรือเปล่า"

คาเร็นจ้องหน้าจูนเขม็ง  ข่มขู่ไม่ให้พูดถึงเรื่องนั้น  เธออายจะตายอยู่แล้ว  เมื่อเช้าเธอแทบจะกรี๊ดตอนตื่นขึ้นมาแล้วเจอตัวเองนอนโป๊ทับอยู่บนตัวจูนที่ไม่ได้ใส่อะไรเลยเหมือนกัน

"คุณเจ็บตรง  --  โอ๊ย  คาเร็น  กัดฉันทำไม!"  จูนดึงบ่าหลบฟันคมๆ

คนตัวเล็กกว่าคำรามขู่  เธอยังพูดไม่ได้เยอะนัก  ยิ่งเหนื่อยๆ แบบนี้ยิ่งลำบาก  แต่เธอขยับตัวได้คล่องขึ้น  ไม่ได้หมายถึงโยกสะโพกยั่วจูนนะ

"โธ่  ไม่ต้องอายหรอกค่ะ  เรื่องธรรมชาติ  ยังไงคุณก็เป็นภรรยาฉัน  เราจะแต่งงานกัน  คุณจะได้บ้านหลังนี้คืน  แต่ฉันขออยู่ด้วยคนนะ  แบร์ด้วย  ได้ไหมคะ"

คาเร็นกัดปากตัวเอง  เขินจนต้องหลบตาจูนที่จ้องเธอตาหวานจนเธอแทบจะละลายกองลงพื้น  แต่พอจูนจูบเธอ  เธอก็กลับจูบตอบง่ายๆ 

มันดีมากจริงๆ  เวลาได้รักและถูกรักแบบนี้

"เฮ้  นี่มันห้องกายภาพบำบัดหรือห้องนอน"  ฟลิคทัก  "ลิซซี  คนไข้คุณ  เหมือนจะหายแล้วนะคะ"

"โอ้  นั่นสิ"  ลิซซีว่า  กัดช็อคโกแลตแท่งกิน  พลางยิ้มล้อๆ สองคนในห้องที่หน้าแดงเถือก  คาเร็นเบือนหน้าหนีไปอีกด้าน  แต่สองแขนยังคล้องคอจูนอยู่  ก็มันขยับเองไม่ได้นี่นา  "ท่าทางฉันคงต้องปล่อยให้พวกเขาอยู่ด้วยกันบ่อยๆ แล้วละ  หายเร็วดี  แต่เอ๊ะ  หายเร็ว  ฉันก็ไม่มีงานทำสิ"

"ลิซซี  อยากตกงานตอนนี้เลยไหม"  จูนขู่  พยุงเอวคาเร็นไว้ระหว่างรอให้ลิซซีกินช็อคโกแลตเสร็จแล้วเข้ามารับช่วงต่อพาคาเร็นไปเข้าลู่หัดเดินอีกครั้ง  เธอก็ช่วยประคองไปด้วย

"ฉันจัดการต่อเองค่ะ  คุณมีธุระอะไรก็ไปทำเถอะ" 

"นี่ไล่ใช่ไหม"

ลิซซีไม่ตอบจูน  แต่ยักคิ้วให้ฟลิคที่เดินตามเข้ามาด้วย  เดวิสคนพี่จึงชวนน้องออกไปจากห้อง  "เดี๋ยวเสร็จแล้วจะพาออกไปส่งค่ะ"

จูนทำหน้างอแงไม่อยากไป  ฟลิคต้องล็อกคอน้องลาก  คาเร็นยิ้มขำๆ  ความสดใสนั้นทำให้จูนยิ้มได้และสบายใจพอที่จะปล่อยให้แฟนสาวอยู่กับนักกายภาพบำบัดสาวตามลำพัง  แต่เธอก็ทิ้งเจ้าแบร์ไว้เป็นเพื่อนด้วย

"ดูโอเคขึ้นนี่"  ฟลิคถาม  กอดคอน้องระหว่างเดินไปห้องโถงที่ดิ๊พซี่กับแม่นมนั่งดูทีวีกันอยู่  คงจะเป็นแม่นมดูคนเดียว  เพราะดิ๊พซี่คงเลือกอ่านหนังสือมากกว่า  ฮารุนะขอไปเดินเล่นในตลาดนานแล้ว

"ดีขึ้นกว่าเดิมมาก"  จูนตอบ  อดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงเมื่อคืน  เธอมีความสุขมากจนคิดว่าฝันไป  การได้เข้านอนพร้อมคาเร็นว่าดีอยู่แล้ว  แต่เมื่อคืนดีกว่ามาก  ตอนตื่นมาแล้วเจอคาเร็นตอนยังเป็นวิญญาณทุกๆ เช้าก็ว่ามีความสุขแล้วนะ  เมื่อเช้ามียิ่งกว่า...

เสียงการหายใจเข้าออกของคุณเป็นสิ่งวิเศษสำหรับฉัน

"แต่ฉันว่าคงไม่ใช่แค่คาเร็นที่ดีขึ้น"  ฟลิคแซวน้อง  อาการจูนน่ะอ่านไม่ยากหรอก  แม้จะเก๊กแค่ไหน  ภายในดวงตาคมก็บอกความจริงเสมอ  เพราะแบบนั้นดิ๊พซี่ถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่เป็นที่ต้องการ

โอ้  ดิ๊พซี่ผู้น่าสงสาร...  สงสารตัวเองก่อนเถอะ  ฟลิค

"นม  น่าเบื่อหน่อยนะคะ  ที่นี่ไม่มีอะไรให้ทำ"  จูนทักแม่นม  ชิ่งหนีจากพี่สาว  เดี๋ยวจะถูกซักให้อายเพิ่มขึ้นอีก  เธอไปนั่งเบียดแม่นมบนโซฟา  ยกแขนกอดอ้อนหญิงชราโดยมีดิ๊พซี่เบะปากมองอยู่ในโซฟาเดี่ยวเยื้องกัน

"นมไม่รำคาญบ้างเหรอคะ"

"ไม่หรอกค่ะ  ถ้าคุณจูนไม่อ้อนนมแบบนี้  นมจะเสียใจมากกว่า"

"มิน่า  ให้ท้ายกันอย่างนี้นี่เอง"  ดิ๊พซี่พึมพำ  ก้มลงอ่านหนังสือต่อ  เธอสามารถนั่งอ่านมันได้เป็นวันๆ ถ้าเป็นหนังสือที่สนใจ

"ถ้าเธอเบื่อ  ทำไมไม่ไปเดินเล่นกับฮารุนะล่ะ"  จูนถาม  สังเกตหนังสือในมือดิ๊พซี่  มันเป็นหนังสือของคาเร็น  แต่ไม่ใช่สาวน้อยโดโนแวน 

น่าจะเป็นเล่มแรกๆ ที่ได้ตีพิมพ์  ตอนนั้นคาเร็นยังไม่ดังเลย  เธอรู้  เพราะเห็นมันอยู่ในห้องหนังสือชั้นล่างนี่แหละ  เธอคิดหลายรอบว่าจะหยิบมาอ่าน  แต่มัววุ่นวายกับงานของตัวเอง  แล้วทำไมดิ๊พซี่ถึงเอามาอ่าน...

"ไม่ละ  ฉันจะอ่านหนังสือ  เธอไม่ต้องสนใจฉันหรอก  มีอะไรก็ไปทำเถอะ"  ดิ๊พซี่ตอบ  ไม่ได้ละสายตาจากหนังสือในมือ 

"โอเค  แล้วมื้อเที่ยง --"

"เธอจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับเขาไหม"

จูนเลิกคิ้วชำเลืองมองฟลิค  พี่สาวยักไหล่  ท่าทางจะไม่มีความเห็น

"เธอเคยบ่นว่าแรกๆ มีคนแทบทั้งเมืองมาที่นี่เพื่อจะขอเยี่ยมเขา  ถ้าฉันจำไม่ผิด"  ดิ๊พซี่เอ่ย  เงยหน้าจากหนังสือมาจ้องจูนที่เป็นไอ้บื้อไปเลยเวลาพูดถึงเรื่องนี้  "เราจะให้พวกเขาเห็นว่า 'คาเร็น คีแกน' กลับมาแล้วจริงๆ  จะได้ไม่ต้องมีเจ้างั่งที่ไหนมาซุ่มแอบถ่ายรูปเขาไปขายอีก  ฉันแปลกใจมากที่เจ้าหมาโง่ของเธอมันไม่กัดตูดเจ้าพวกสอดรู้นั่นซะบ้าง  มันกัดใครไม่เป็นหรือไง  อืม  ฉันลืมไปว่ามันเป็นหมาต๊อง"

"แบร์แค่มนุษย์สัมพันธ์ดี"  จูนแก้ตัวให้สุนัขที่เธอรักเหมือนเพื่อนเหมือนครอบครัว  "แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่ามีคนทำแบบนั้น"

ดิ๊พซี่หยิบหนังสือพิมพ์ที่พับวางอยู่ในซอกเก้าอี้นวมมาโยนให้จูนที่คว้ามันไว้ได้ทันก่อนจะโดนหน้า  เธอเปิดหามันและดิ๊พซี่ก็ช่วยสงเคราะห์ให้ 

"คอลัมน์กอสซิป  และถ้าเธอจะหัดอ่านทวิตเตอร์หรือเฟซบุ๊กบ้าง  เธอจะเห็นว่ามีใครพูดถึงแฟนเธอมากขนาดไหน  โดยเฉพาะแม่เลขาของคุณ  ใช่ไหม  ฟลิค"

"เอ่อ  โจซี่เป็นแฟนคลับคาเร็น"  ฟลิคออกตัวให้เลขาส่วนตัว  ยิ้มแห้งๆ ให้น้องตัวเอง  "เขารักคาเร็น"

"ไม่เป็นไร  ฟลิค  คาเร็นรู้แล้วเรื่องโจซี่  เขาฝากขอบคุณด้วย  ฉันบอกโจซี่แล้วละ  คาเร็นอนุญาตให้โจซี่เขียนเรื่องเกี่ยวกับเขาได้  แต่อย่าให้โอเวอร์จนเกินไป"

"แม่พระอะไรอย่างนี้"  ดิ๊พซี่พูดเรียบๆ  ปราศจากการเหน็บแนม

จูนมองแม่นมและมองฟลิค  ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับแฟนเก่าจอมเหยียดชาวบ้านของเธอ  จริงๆ ดิ๊พซี่ก็น่ารักแหละ  แค่เชิดๆ เกินไปนิด  และรู้ว่าตัวเองมีค่าพอจนไม่ง้อใครเลยจนเหมือนหยิ่ง  และเป็นนังตัวแสบ

"จริงๆ ฉันนึกถึงเรื่องการเสวนาเกี่ยวกับหนังสือด้วย  แบบคล้ายๆ งานดนตรีในสวนที่เธอเคยเล่นตอนอยู่เกาหลีน่ะจูน  แต่อันนี้จะเป็นการคุยเรื่องหนังสือแทน  และจัดในสวน  ในร้านหนังสือที่มีสวน  อะไรทำนองนั้น  พอจะเข้าใจใช่ไหม"

"เข้าใจ  แต่ที่ไม่เข้าใจคือเธอคิดยังไงถึงสนใจเรื่องนี้ขึ้นมา"

ดิ๊พซี่ทำหน้านึกนิดหนึ่งแล้วยักไหล่  "ฉันอาจหลงรักหนังสือขึ้นมาละมั้ง  หรือบางทีฉันก็ว่าง"

"เธอน่ะเหรอว่าง"  จูนทำท่าไม่เชื่อ  ดิ๊พซี่ถลึงตาใส่เธอ  แต่แล้วก็ยกมือขึ้นโบกไปมาเหมือนปัดแมงหวี่  "ถ้าเธอเหนื่อย  เธอก็มาที่นี่ได้ตลอดนะ"

"ถึงไม่บอก  ฉันก็จะมา"  ดิ๊พซี่พูด  "ฉันอยากทำร้านหนังสือ"

"หืมม์?"  จูนฮัมเสียงสูง  สบตากับแม่นมที่ดูจะงงพอกับเธอ  "เธอแปลกไปจริงๆ แฮะ  ดิ๊พ"

ดิ๊พซี่ลอยหน้าลอยตาไม่ใส่ใจเสียงจูนวิจารณ์  แต่ยกมือทักคาเร็นที่ลิซซีเข็นเข้าห้องนั่งเล่นมา  "นี่เธอน่าจะเขียนหนังสือแบบนี้อีกนะ  ฉันว่ามันดีกว่า 'สาวน้อยโดโนแวน' งี่เง่านั่นซะอีก"

"ดิ๊พ  เธอนี่นะ"  จูนส่ายหน้า

"ทำไมล่ะ  ฉันพูดตามที่ฉันคิดนี่  แต่ถ้าเธอคิดว่าเพราะมันทำเงินให้ได้เยอะกว่าก็ไม่ผิดที่เธอจะเขียนมัน  ฉันก็แค่ออกความเห็นในฐานะคนอ่านที่เสียดายงานดีๆ เท่านั้นแหละ"

ขอบคุณค่ะ  ฉันจะคิดดู  --  คาเร็นตอบในใจซึ่งไม่มีปัญหากับดิ๊พซี่ที่ได้ยินมัน  ต่างจากคนอื่นที่คิดว่าเธอไม่พอใจ  จูนยังมองเธออย่างเป็นห่วง

"ฮารุนะไปตลาดน่ะ  คุณจะขึ้นไปข้างบนไหม"  จูนชวนเปลี่ยนเรื่อง 

คาเร็นส่ายหน้าตอบจูน  หันไปพยักหน้ากับลิซซีแทนคำขอบคุณที่ช่วยดูแลเธอ  นักกายภาพบำบัดสาวเข้าใจสัญญาณว่านั่นแปลว่าคาเร็นต้องการอยู่ด้วยตัวเองแล้ว  เธอจึงขอตัว

"ลิซ  อยู่กินกลางวันด้วยกันก่อนค่ะ"  จูนเอ่ยขณะลิซซีจะเข้าไปเปลี่ยนชุดเตรียมตัวกลับ

"ถึงไม่ชวนฉันก็จะอยู่อยู่แล้วค่ะ"  ลิซซีพูดด้วยรอยยิ้มร่าเริงและคงดูเป็นมิตรเกินเหตุไปหน่อย  ดิ๊พซี่ซึ่งเป็นปฏิปักษ์คนพวกนี้อยู่แล้วจึงมองหญิงสาวด้วยหางตาอย่างไม่ชอบใจ  แต่ไม่มีใครเห็นนอกจากคาเร็นที่ไม่ได้คุยกันอยู่อย่างคนอื่นๆ

ถ้าคุณยิ้มบ่อยกว่านี้คุณจะน่ารักและน่าคบกว่านี้นะคะ  --  คาเร็นเอ่ยในใจ  เดี๋ยวนี้เธอคุยกับดิ๊พซี่ด้วยวิธีนี้  เพราะมันสะดวกกว่า  ดิ๊พซี่เป็นคนเดียวที่ได้ยินเสียงเล็กๆ นี้ของเธอ  เธอยังพูดไม่ค่อยได้  ไม่ใช่ไม่อยากให้คนอื่นหรือจูนได้ยินหรอก

"ยุ่ง"  ดิ๊พซี่ว่า  ทำท่ารำคาญนักเขียนสาว  แล้วอยู่ๆ ก็ลุกขึ้นไปเข็นวีลแชร์จะพาคาเร็นออกจากห้องนั่งเล่น  จูนที่กำลังคุยกับฟลิคและแม่นมหันมาเห็นพอดีจึงอ้าปากจะห้าม  แต่คาเร็นหันไปมองด้วยสายตาที่เราเข้าใจกัน   คนขี้กังวลจึงผ่อนคลายลง  ยอมให้ดิ๊พซี่พาเธอออกมาสูดอากาศนอกบ้าน

"คุณจูน  ไม่ออกไปด้วยเหรอคะ"  แม่นมจอร์จิน่าถาม  จูนส่ายหน้า

"ดิ๊พไม่ใช่คนร้ายหรอกค่ะนม  จูนต่างหาก"  เธอตอบ  พลางกอดแม่นมและยิ้มให้ฟลิคไปด้วย

............................................

คาเร็นใช้การเขียนอีเมลคุยกับแอมเบอร์  ติดต่อเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวกัน  เธอแจ้งกับตัวแทนนักเขียนว่าเธอไม่ติดใจเอาความเรื่องนั้นแล้ว  ขอให้เราทั้งหมดเริ่มต้นกันใหม่  เธอยังจะใช้บริการสำนักงานของหญิงสาวอยู่เหมือนเดิม  เธอยังไว้ใจให้แอมเบอร์เป็นตัวแทนของเธออยู่  ทั้งยังกำชับไม่ให้ทางนั้นคิดมากอีก  บอกว่าฮารุนะเล่าให้เธอฟังหมดทุกเรื่องแล้ว  และขอบคุณตัวแทนนักเขียนที่อุตส่าห์เจียดเวลาไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลด้วย 

"ฉันกำลังเขียนนิยายต่อ  คุณจะแจ้งกับคนอ่านเลยก็ได้นะว่าฉันจะกลับมาแน่ๆ  ยังไงฉันจะส่งร่างต้นฉบับไปให้คุณอ่านก่อน  คุณจะได้มั่นใจว่าสมองฉันยังไม่ได้พังเหมือนร่างกายฉัน  ขอบคุณที่รอและเชื่อในตัวฉันค่ะ"  --  คาเร็น  คีแกน  คาเร็นจิ้มอักษรตัวสุดท้ายของข้อความในอีเมล  กวาดตามองทุกคำและทุกประโยคจนแน่ใจว่าไม่มีคำผิด  แล้วจึงกดส่งด้วยปลายนิ้วที่มีเรี่ยวแรงไม่มากของเธอ

หญิงสาวถอนหายใจแทบจะเป็นจังหวะเดียวกับที่บางคนพูดขึ้น

"ฉันเชื่อในตัวคุณ" 

คาเร็นเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูง  จูนยืนกอดอกอยู่ข้างเธอ  เบือนสายตาจากหน้าจอมาสบตา  ริมฝีปากรูปกระจับคลี่ยิ้มดีใจเหมือนแววตา  เธอรักมันเหลือเกิน  โครงหน้า  ดวงตา  ริมฝีปาก  สันจมูก  เส้นผมเส้นเล็กๆ นุ่มมือ  ลำคอยาวๆ หอมๆ  ไหล่กว้างน่าซบ  ทุกๆ อย่างของจูนเรียกความสนใจของเธอได้หมด  แม้กระทั่งเสียง  ถึงจะทำเสียงดุๆ ก็ยังน่าฟัง

หลงหรือรัก  เธอก็ยังไม่แน่ใจ  แค่รู้ว่าเธอไม่ต้องการจากจูนไปเลย  และไม่มีทางจะคืนจูนให้ดิ๊พซี่แน่นอน  ถึงรายนั้นจะไม่พูดตรงๆ ว่าขอคืน

"ดิ๊พซี่บอกคุณไหม  เรื่องที่เขาอยากจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับคุณและชวนชาวเมืองมาร่วมงาน"  จูนถาม  ลากเก้าอี้จากโต๊ะทำงานมานั่ง  "ถ้าคุณไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจเขาหรอกนะ  ยังไงคุณก็มีสิทธิ์จะอยากอยู่เงียบๆ  แถมคุณก็ยังไม่ค่อยแข็งแรงด้วย"

คาเร็นขมวดคิ้วนิดๆ  คิดว่าจูนเป็นห่วงเธอมากไปจนเครียดเกินเหตุ

"ไม่เป็นไร"  เธอตอบ  ยื่นมือไปหาจูนที่รับมันไปจับอย่างทันทีและนวดมันให้เล่นเอาเธอเคลิ้มกับความสบายจนเกือบลืมว่าเราคุยอะไรกันอยู่

"ดิ๊พซี่อาจจะทำให้คุณเป็นตุ๊กตา  เป็นหุ่นเชิดได้นะ  คุณรู้ไหม"

คาเร็นเลิกคิ้ว  แสดงอาการไม่เห็นด้วย

"โอเค  มันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น  แต่คุณควรจำไว้ว่าดิ๊พซี่ไม่ใช่เพื่อนคุณ  และเขาร้ายกว่าขนาดตัวเยอะ"

"คิดมาก" 

จูนกลอกตาไปด้านบน  "คุณมองโลกในแง่ดีเกินไป  คาเร็น"

"คุณอยู่กับฉัน"  คาเร็นพูด  ดูเหมือนจะทำให้จูนมีความสุขขึ้น  หรือนึกภูมิใจในตัวเองขึ้นมา  "คุณจะอยู่  ใช่ไหม"

"โอเคๆ  ฉันยอม"  จูนตอบอย่างไม่เต็มใจ  ชะโงกตัวมาจูบคาเร็นที่ตอบรับจูบของเธอเหมือนทุกครั้ง  มันทำให้เธอผ่อนคลาย  "กลัวแทบตายว่าจะทำให้คุณป่วยมากกว่าเดิม"

คาเร็นหน้าแดง  รู้ว่าจูนพูดถึงอะไร  เธอไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย  เธอมีความสุขจะตาย  เธอชอบให้จูนรักเธอ  ถึงออกัสซึ่มจะไม่กี่นาที  แต่การได้เนื้อแนบเนื้อกับคนที่เธอรักหรือชอบมากๆ ก็เป็นความรู้สึกที่น่าพึงพอใจ  และเธอไม่ได้รังเกียจจูนเลย  เธอชอบทุกๆ อย่างของจูน

ใบหน้าของเธอยิ่งร้อนผ่าวเมื่อภาพเหตุการณ์คืนวานชัดขึ้น  เธอครางเสียงดัง  มันน่าอายมาก  ถ้าเป็นเวลาปกติเธอคงไม่กล้าทำแน่ๆ  แต่นั่นไม่ใช่เวลาปกติ  มันเสียวจนเจ็บข้างใน  มันทรมานมากและไม่รู้จะทนได้ไหมถ้าจูนจะหยุดทำมันกลางคัน  ความรู้สึกลอยละล่องกับอาการเห็นดาวทั่วฟ้าทั้งที่อยู่ในห้องนอนนั่นเป็นของใหม่  เธอไม่รู้เลยว่าการถึงจุดสุดยอดจริงๆ  มันต่างมากกับจินตนาการในหัวเวลาเธอเขียนให้ตัวละครมีเซ็กซ์  เธอไม่เคยมีประสบการณ์  แต่จำเป็นต้องเขียนลงไปด้วยเพื่อเป็นน้ำจิ้มให้คนอ่าน

"ฉันรู้ว่าไม่ควรทำ  คุณป่วยอยู่  แต่ว่า --"  จูนหยุดพูดเมื่อริมฝีปากนุ่มนิ่มมาทาบปากเธอเบาๆ  เธอยิ้ม  เข้าใจว่าคาเร็นต้องการให้เธอรู้ว่ารู้สึกยังไงกับอะไรๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเราเมื่อคืน 

"ถ้าคุณชอบ  ฉันจะทำอีกนะ"

คาเร็นหยิกแก้มคนทะเล้นที่แกล้งเอามือมาลูบต้นขาเธอจนขนลุก

"โธ่คุณ  ไม่ต้องอายแล้ว  ว่าแล้วก็ไปอาบน้ำกันไหมคะ  ลิซซีบอกให้นวดตัวให้คุณด้วยนะ  ให้เลือดลมสูบฉีด  แล้วก็..."

"อือ"

จูนยิ้มกว้าง  ตั้งท่าจะอุ้มแฟนสาวขึ้นจากวีลแชร์  แต่คาเร็นทำท่าขอเดินเองและเกาะเธอไปต่างไม้เท้า  จูนชอบความพยายามและไม่ยอมแพ้ของหญิงสาวมาก  ถ้าคาเร็นไม่สู้  การฟื้นฟูร่างกายคงไม่ประสบผลสำเร็จ  ลิซซีบอกเธอแบบนั้นก่อนที่จะลงมือทำกายภาพให้ครั้งแรกให้เธอทำใจไว้บ้าง  เธอตอบไปว่าเธอเชื่อในตัวคาเร็น  และวันนี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเธอไม่ได้งมงายเชื่ออะไรผิดๆ

"ฉันอาบด้วยนะ" 

คาเร็นตั้งท่าจะคัดค้าน  แต่พอจูนถอดเสื้อออก  เธอก็ลืมหมดแล้ว  ยอมให้คนหน้าด้านลงมานั่งในอ่างน้ำด้วยกัน  เธอเผลอมองจูนวักน้ำและลูบเนื้อตัวตัวเอง  แต่คงมองนานไปหน่อย  นัยน์ตาคมจึงชำเลืองมาหาเธอ  จะหลบตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว 

"ตอนไปญี่ปุ่น  ฉันมัวแต่คิดเรื่องคุณเลยไม่ได้แช่ออนเซ็นเลย  ถ้าคุณหายดีเมื่อไหร่  เราไปด้วยกันนะ  ชวนฮารุนะไปด้วย  คุณไม่จำเป็นต้องไปบ้านหลังนั้น  เราจะไปที่อื่นกัน" 

"ฉันไม่ได้เกลียด  แต่เสียใจ"  คาเร็นพูดเบาๆ  จูนพยักหน้าเข้าใจ  แหวกน้ำจากฝั่งตรงกันข้ามมาใกล้เธอ  เชยคางเธอขึ้นด้วยปลายนิ้วให้สบตา

"คุณไม่จำเป็นต้องแคร์คนที่ไม่รักคุณ  ยังมีคนอื่นอีกหลายคนที่รอให้คุณกลับมา  อย่างฉัน"  จูนพูด  เคลื่อนใบหน้ามาใกล้คาเร็น  อดใจรอ  และยิ้มพอใจเมื่อคาเร็นจูบเธอเอง  พอจะผละออก  คาเร็นก็จับแก้มเธอไว้  งับริมฝีปากเธออย่างหยอกเย้า  ทำให้เธอได้ใจยกร่างบางขึ้นมานั่งตักตัวเอง  แตะต้องสัมผัสทุกสัดส่วนอย่างหวงแหน 

"เป็นของฉันคนเดียวนะคะ  ฉันจะดูแลคุณอย่างดีที่สุด" 

คาเร็นครางอืมรับคำ  แปลกใจตัวเองนิดๆ ที่ร่างกายตอบสนองจูนได้อย่างไม่ขัดเขินราวกับเกิดมาเพื่อเป็นของอีกฝ่ายโดยเฉพาะ  จูนจับเธอขึ้นนั่งบนขอบอ่าง  มือหนึ่งประคองแผ่นหลังไม่ให้เธอร่วงลงไป  อีกมือแยกขาทั้งสองออกจากกัน  เอาขาข้างหนึ่งพาดบ่าไว้  จากนั้นริมฝีปากสวยๆ กับลิ้นแข็งแรงก็ทำหน้าที่มอบความสุขให้เธอเหมือนเมื่อคืน 

เธอเคยกลัวการมีเซ็กซ์  แต่คงจะรักมันเพราะจูนนี่แหละ

"ตัวแดงหมดเลย"  จูนกระซิบ  จูบหน้าผากคาเร็นที่นั่งพิงซบบ่าเธออย่างหมดเรี่ยวหมดแรง  คาเร็นออกัสซึ่มได้สวยมากอีกแล้ว  ดูมีความสุขจนเธอสุขไปด้วย  เกือบลืมไปเลยว่าเธอก็ต้องการถูกเอาใจเหมือนกันถ้าคาเร็นไม่จูบคางกับซอกคอเธอ

"โอเค  งั้นยืมหน่อยนะคะ" 

คาเร็นไม่แน่ใจว่าจูนจะทำอะไรจนกระทั่งจูนจับมือลงไปใต้น้ำ  เธอรู้สึกหลงรักหน้าตาเคลิบเคลิ้มของจูนหนักกว่าเก่าเสียอีก  ลืมอายไปเลยว่า  จูนใช้นิ้วเธอทำอะไรบ้าง

มันเปียกลื่นและร้อนจัง

"โอ้  พระเจ้า!"  จูนร้อง  สั่นไปทั้งตัวจนน่ากลัว  คาเร็นมองอาการนั้นอย่างเป็นห่วง  จูนยังครางฮือและเกร็งจนเส้นคอขึ้นต่ออีกสองสามนาทีจึงจะผ่อนคลายลงแล้วเอนตัวมาซบคาเร็นที่คงนั่งไม่ได้ถ้าไม่พิงอ่างน้ำอยู่

"ขอบคุณค่ะ"

คาเร็นจะแย้งว่าไม่ได้ทำอะไรเลย  จูนทำเองต่างหาก  แต่ปลายนิ้วที่ถูคลึงยอดถันเธอก็ทำให้ลืมไปหมด  เธอปรือตามองจูนจูบหน้าอกของตน  ซุกไซ้มัน  ขยำด้วยมือแข็งแรงและดูดเหมือนเด็กทารก  เธอร้อนไปทั้งตัว  แต่ไม่อยากให้จูนหยุดทำ  เธอรู้ว่าจูนชอบเรื่องแบบนี้  เธอเคยบอกแอชเชอร์เอง  แล้วเธอก็ไม่ได้รังเกียจมันสักหน่อย 

"เจ็บนิดนะคะ"  จูนกระซิบปลอบ 

แต่มันไม่นิดเลย!

คาเร็นร้องตกใจ  มันไม่ใช่ลิ้นที่สอดเข้ามาในกายเธอ  แต่เป็นสิ่งอื่นที่แข็งแรงมากกว่า  มันแช่อยู่นิ่งๆ ครู่หนึ่งเหมือนจะให้เธอตั้งตัวได้ก่อนที่มันจะขยับเคลื่อนเข้าออกช้าๆ และเร็วขึ้นเหมือนผู้กระทำเมามันส์ขึ้นทุกขณะ  เธอได้ยินเสียงตัวเองร้องเหมือนเจ็บมาก  มันก็เจ็บจริงๆ นี่  แต่ถ้าให้เลือกเธอคงไม่ยอมให้จูนหยุด  คาเร็นไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนที่สิ่งนั้นเคลื่อนไหว  กระแทกกระทั้นจนเธอหัวสั่น  และเธอกรีดจูนเป็นแผลไปกี่แผลก่อนที่สวรรค์จะเคลื่อนเข้ามาใกล้  โจมตีเธอด้วยระลอกความสุขระลอกยักษ์จนเธอแทบสลบคาอกจูน  เธอหอบหนัก  หายใจไม่ทัน  แล้วจูนก็มาประกบปากเธอ  ดันลมหายใจตัวเองเข้ามาในปอดเธอ  ลูบแผ่นหลังปลอบ  พร่ำบอกขอโทษซ้ำๆ

"คนบ้า"  เธอว่าเสียงงอน  ซุกหน้ากับซอกคอจูน  จูบมันยืนยันว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร  มันเจ็บแหละ  แต่เธอมีความสุข  "พอแล้วนะ"

"พอค่ะพอ"  จูนบอก  ยิ้มกว้างดีใจที่คาเร็นไม่ได้เป็นอะไร  เธอล้างเนื้อตัวให้คาเร็นและตัวเอง  จากนั้นก็อุ้มขึ้นเหมือนเจ้าสาว

"ไม่หนักเหรอ"

"คุณตัวเบาจะตาย  ต้องขุนให้อวบกว่านี้หน่อย  แก้มป่องๆ น่ารัก"

"ไอ้บ้า"  คาเร็นว่าเสียงไม่พอใจ  แต่กอดคอจูนแน่น  รักจังเลยคนนี้

"นอนเตียงฉันเลยนะ  คืนนี้  ฉันสัญญาว่าจะไม่แกล้งคุณอีก" 

"ไม่เชื่อหรอก"

จูนยิ้มกว้าง  ติดกระดุมเสื้อนอนให้คาเร็น  ตัวเธอสวมเสื้อแขนกุดกับกางเกงบอลแล้ว  แต่งตัวเร็วกว่าเดอะแฟลชซะอีก

"เจ็บไหม  ขอโทษนะคะ"

คาเร็นส่ายหน้า  มันก็ไม่ได้เจ็บจนทนไม่ได้ขนาดนั้น  เธอดีใจด้วยที่จูนยอมปิดไฟมาเข้านอนพร้อมกัน  ไม่นั่งหลังแข็งทำงานต่ออีก  เธอซุกตัวเข้าหาจูนอย่างยินดี  ถูกจูนกอดแบบนี้มันอุ่นกว่าห่มผ้าห่มเสียอีกนะ

"นี่  อย่าลืมนะ  ฉันรอคำตอบอยู่"

จูนลืมตาข้างหนึ่ง  มองเด็กหญิงผมบลอนด์ที่ชะโงกหน้ามาหาเธอ  ยิ้มร่าราวกับถูกหวยขูด  เธอยกนิ้วชี้ขึ้นทาบปาก  บอกแอลลี่ว่าเธอไม่อยากให้คาเร็นตื่น  แต่นางฟ้าตัวน้อยไม่ค่อยจะฟังเธอหรอก

"ถ้าคุณแต่งงาน  ฉันจะมาเป็นลูกคุณ"

"ทำไม  เป็นมนุษย์ลำบากนะ"

"แล้วทำไมเขาถึงยอมกลับไปล่ะ  ถ้าเป็นวิญญาณสบายกว่าจริงๆ"

แอลลี่จากไปโดยไม่รอฟังคำตอบ  จูนหลุบตาลงมองคาเร็นที่หลับซบบ่าเธออยู่  แก้มคาเร็นมีเลือดฝาดมากขึ้น  แลดูมีชีวิตชีวากว่าก่อนมาก  เธอรู้สึกได้ถึงความสุขแผ่ออกมาจากตัวแฟนสาวจนถึงตัวเธอ

"ฉันไม่รู้หรอกว่าจะทำได้ดีแค่ไหน  แต่ฉันจะพยายามทำเพื่อคุณ"

จูนมองมือเล็กๆ ที่วางแนบอยู่กับอกตนเอง  คาเร็นขยุ้มเสื้อเธอราวกับตอบรับสิ่งที่เธอพูด  หรือบอกให้เธอรู้ว่าได้ยินนะ  เธอยิ้มกว้างและจูบหน้าผากคาเร็น  แล้วหัวเราะเบาๆ เมื่อมีเสียงเหมือนคนหมั่นไส้ดังตามมา

นางฟ้าก็ขี้อิจฉาเป็นด้วยเหรอ?




.......................................

คิดว่าถ้ามาเดือนหน้าจะนานไป  เลยมาให้ก่อน  แล้วเจอกันอีกทีเดือนหน้าเลยนะคะ  :21: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

26 มกราคม 2019 เวลา 06:31:10
ขยันกันจริงไรจริง คนโสดตายเรียบ เอาเข้าก็สงสารฟลิคไม่พยายามเอาจริงๆด้วย
แสดงความคิดเห็น