web stats

ข่าว

 


Ghost Writer - บทที่ 13 What If

โพสต์โดย: anhann วันที่: 14 มกราคม 2019 เวลา 00:16:12 อ่าน: 86





"Ghost Writer (เลิกเป็นผี มาเป็นแฟนกันดีไหม) " มี 360 หน้า โดยประมาณ

เปิดให้จองและชำระเงินได้ตั้งแต่ วันนี้ - 10 กุมภาพันธ์ 2562 กำหนดส่งหนังสือประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2562

ในราคา เล่มละ 350 บาท ส่งฟรีพัสดุธรรมดา (เฉพาะช่วงจอง) ส่งลงทะเบียน 400 บาท และ 420 บาท EMS

สนใจติดต่อ anhann5@gmail.com , Inbox หรือ ไลน์ anhann

หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ --->>> http://bit.ly/2RmpYRR



บทที่ 13 What If









มันเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ให้อารมณ์เหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน  และเพื่อนชวนกินข้าวเย็นด้วยกัน  ฮารุนะเป็นคนแนะนำร้านนี้ให้เพราะเขาอนุญาตให้พาสัตว์เลี้ยงที่ไม่เป็นอันตรายเข้ามาด้วยได้  จูนออกตัวกับฮารุนะไว้แบบนั้นแต่แรกด้วยว่ายังไงเธอก็ต้องเอาแบร์มาด้วยกัน  ฮารุนะเองก็ดูจะอยากเจอเจ้าแบร์ตัวเป็นๆ เหมือนกัน  เด็กสาวบอกว่าเคยค้นอินเทอร์เนตแล้วเจอภาพจูนกับแบร์ไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ  จูนงงมากที่รู้แบบนั้น  เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะดังถึงขนาดมีคนถ่ายรูปไปลงโซเชียลมีเดีย

"คุณเป็นนักเปียโนและนักเขียนแถมยังเป็นไฮโซด้วย  ใครๆ ก็อยากรู้จักทั้งนั้นแหละค่ะ"  ฮารุนะพูด  สำเนียงไม่เหมือนคนญี่ปุ่นทั่วไป  เนื่องจากเด็กสาวไปอยู่อังกฤษกับคาเร็นมาช่วงหนึ่งก่อนจะย้ายกลับบ้าน  แล้วคาเร็นก็ย้ายจากลอนดอนไปอยู่เดวอน  จูนไม่ได้ซักไซ้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น  เธอเว้นไว้ให้เป็นเรื่องของครอบครัวพวกเขา  แต่บางทีฮารุนะอาจจะบอกเธอเอง

"แล้วเจ้านี่ก็น่ารักมากด้วย"  เด็กสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม  ก้มลงลูบหัวและเกาคอให้เจ้าแบร์ที่ชอบมากกับการได้รับความสนใจ  "พี่เขาอยากมีหมาแบบนี้แหละค่ะ  แต่เขาเลี้ยงไม่ไหว  บ่นว่าแค่ดูแลตัวเองให้ดีก็ยากแล้ว"

"ฉันเคยพูดแบบนั้นด้วยเหรอ"  คาเร็นพึมพำขณะยืนอยู่ข้างจูนที่อมยิ้มรู้อยู่คนเดียวว่าเธออยู่ที่นี่  ยกเว้นแบร์กับดิ๊พซี่ซึ่งนั่งห่างไปอีกสองโต๊ะ

"ฉันไม่รู้มาก่อนว่าพี่เป็นเพื่อนกับคุณ"

"เราอยู่สำนักพิมพ์เดียวกันค่ะ"  จูนตอบเลี่ยงๆ  "และฉันบังเอิญซื้อบ้านหลังนั้นที่เป็นของพี่คุณ"

"โอ้  บ้านหลังนั้น  ฉันเคยไปครั้งเดียวเอง  ก่อนที่ฉันจะย้ายกลับมาอยู่ที่นี่น่ะค่ะ"  ฮารุนะตอบ  "ตอนนี้ฉันกำลังวางแผนจะกลับไปอยู่  หมายถึงอังกฤษน่ะค่ะ  ฉันอยากเข้าออกซ์ฟอร์ด  --  เอ๋  คุณจบออกซ์ฟอร์ดนี่คะ"

"ข้อมูลแน่นนะเนี่ย"  จูนชม  "ฉันคงแนะนำอะไรๆ ให้เธอได้บ้าง  ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกละกัน"

ฮารุนะยิ้มกว้าง  หากสีหน้าก็เปลี่ยนไปคล้ายเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้

"มีปัญหาอะไรหรือ"  จูนถาม  คิดว่าจะต้องมีแน่ๆ  เธอก็ไม่ได้คิดหรอกว่าฮารุนะจะมาช่วยเธอเพราะอยากช่วยเพียงอย่างเดียว  เด็กสาวคงต้องการความช่วยเหลือจากเธอเป็นข้อแลกเปลี่ยน  ไม่เช่นนั้นคงไม่หาข้อมูลเกี่ยวกับเธอมาขนาดนี้ 

"คือว่า  ฉันไม่ควรพูดหรอกนะคะ  แต่ในเมื่อคุณอยากรู้เรื่องของพี่  ฉันก็คงต้องบอก"  ฮารุนะเกริ่น  "ก็ก่อนที่คาเร็นจะเป็นอย่างนี้น่ะค่ะ  พี่บอกว่าจะช่วยฉันหาทุนเรียนให้  ให้ยืมก่อนก็ได้  แต่ก็อย่างที่คุณเห็น  ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้แล้ว  อำนาจในการจัดการเงินของพี่อยู่กับแม่ฉันหมดเลย  แล้วแม่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะให้ฉันไปด้วยค่ะ  ทั้งที่ฉันบอกว่าพี่สัญญาเอาไว้"

จูนทำหน้าเข้าใจ  พลางชำเลืองมองคาเร็นที่ก้มลงหาเธอพอดี 

"ฉันจำได้แล้วค่ะ  ฉันเคยสัญญากับน้องไว้จริง"

"โอเค" 

ฮารุนะมองหน้าจูนงงๆ  มองไม่เห็นคาเร็นจึงไม่รู้ว่าจูนพูดกับใคร

"ถ้าเป็นเรื่องนี้  ฉันจัดการให้เธอได้  ไม่มีปัญหา  ทางบริษัทฉันมีทุนสำหรับนักศึกษาเรียนดีอยู่แล้ว  แต่เธอเรียนดีหรือเปล่าล่ะ"

"น้องเรียนเก่งมากค่ะ"  คาเร็นกระซิบ

"ฉันจะบอกเลขาให้ส่งระเบียบการขอทุนมาให้เธอทางอีเมล  เธอมีอีเมลใช่ไหม"

"มีค่ะ  มี"  ฮารุนะรีบพูด  แววตามีความหวังขึ้นมาทันใด  เธอรีบกดส่งชื่ออีเมลให้จูนทางไลน์ทันที  จูนก็ส่งมันต่อให้โจซี่อย่างทันทีเช่นกัน 

"คงจะเป็นพรุ่งนี้นะ  เพราะตอนนี้ที่นั่นกลางคืน"

"ไม่เป็นไรเลยค่ะ  แค่มีหนทางบ้างก็พอ"

"ที่จริง  ฉันสามารถให้เธอเป็นการส่วนตัวได้เลยนะ  แต่ว่า..."

"ฉันทราบค่ะ  ไม่มีใครให้อะไรใครง่ายๆ แบบนั้นหรอก  ถึงคุณจะเป็นแฟนพี่"

"เอ่อ  ฉันไม่ --"

"ฉันแค่เปรียบเทียบค่ะ  ไม่ได้หมายความว่าคุณเป็น" 

จูนยิ้มเก้อๆ  ลูบท้ายทอยตัวเอง  มองคาเร็นที่อมยิ้มอยู่ใกล้ๆ

"ที่จริงฉันก็อยากให้พี่มีแฟนนะคะ  พี่จะได้มีคนคอยดูแล  แต่พี่เคยบอกว่าไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นภาระด้วย  ใครๆ ก็เบื่อที่ต้องอยู่กับคนป่วย  สามวันดีสี่วันไข้ทั้งนั้นแหละ  จะกินจะอยู่ก็ลำบากกว่าคนอื่นเขา  พี่บอกว่าแค่ตัวเองก็รำคาญจะแย่แล้ว  อย่าให้คนอื่นต้องมารำคาญเราด้วยเลย"

"คิดมากจริงๆ"

"ใช่ค่ะ  ที่ต้องย้ายไปอยู่เดวอนก็เพราะหนีเขานั่นแหละ"

"เขา?"  จูนอึ้ง  จ้องหน้าคาเร็นที่ส่ายหัวให้เธอ  "แฟนเก่าเหรอคะ"

"โอ๊ย  ไม่ใช่หรอกค่ะ  พี่ไม่เคยมีแฟน"  ฮารุนะโบกไม้โบกมือ  "หมอลีโอน่ะค่ะ  เป็นหมอประจำตัวพี่เขาตอนอยู่ลอนดอน  เขาแต่งงานแล้ว  แต่ก็นั่นแหละค่ะ  ผู้ชาย  เห็นพี่เขาไม่มีใครมั้งคะ  ก็เลย...ช่างเถอะค่ะ  พี่บอกว่าไม่ต้องพูดถึงเขาแล้ว  ยังไงพี่ก็เปลี่ยนหมอแล้วละ"

จูนโล่งใจ  แต่ยังขมวดคิ้วให้คาเร็นที่ไม่เคยเล่าให้เธอฟังว่าเจ้าตัวเคยถูกหมอประจำตัวตามจีบ  หรืออาจจะถึงขั้นคุกคาม  ไม่อย่างนั้นคาเร็นคงจะไม่หนีไปไกลขนาดนั้น 

"หมอคนใหม่ของพี่เป็นผู้หญิงค่ะ  อายุมากแล้วละ  แต่ยังแข็งแรง  เธอเป็นคนแนะนำให้พี่ย้ายไปอยู่นอกลอนดอน  เดวอนค่อนข้างอบอุ่นค่ะ  แล้วพี่ก็ชอบทะเลมากด้วย  เราวางแผนจะไปเที่ยวกัน  แต่ว่า...พี่ก็มาเป็นแบบนี้ไปเสียก่อน"  ฮารุนะเล่า  รอยยิ้มร่าเริงจางหายไปในตอนสุดท้าย  จูนจึงดึงทิชชูจากกล่องบนโต๊ะส่งให้เด็กสาวไป

"ค่อยๆ พูดก็ได้ค่ะ  ไม่ต้องรีบ  กินอาหารกันก่อนไหม"  จูนปลอบ  ยกมือขึ้นเรียกบริกรที่จะสนใจเราก็ต่อเมื่อเรียกเท่านั้น  เราเข้ามาถึงก็บอกรายการที่ต้องการไป  แล้วพวกเขาก็จะถามว่าจะให้เสิร์ฟตอนไหน  เราระบุเวลาได้เลยแต่ควรจะบอกก่อนสักยี่สิบนาทีเพื่อให้พ่อครัวเตรียมตัว 

"คุณไปอยู่ไหนมาคะ"  ฮารุนะเอ่ยขึ้นกะทันหันขณะบริกรทยอยนำอาหารมาเสิร์ฟให้  จูนเลิกคิ้วงง  "คุณบอกว่าคุณเป็นเพื่อนพี่  แต่คุณแทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพี่เลย"

"เอ่อ..."

"ฉันไม่ได้สงสัยอะไรคุณนะ  ไม่ได้คิดว่าคุณมาหลอกลวง  แต่ทำไมคุณไม่มาเร็วกว่านี้  ถ้าคุณอยู่ข้างๆ พี่  พี่ฉันคงไม่เป็นแบบนี้  ฉันแค่...แค่คิด  ขอโทษค่ะ  ฉันไม่ควรเสียมารยาท"

"ไม่เป็นไรค่ะ  ฉันเข้าใจ"  จูนพูด  แตะหลังมือฮารุนะเบาๆ  "ฉันเพิ่งกลับมาจากออกซ์ฟอร์ดค่ะ  เราไม่ได้สนิทกันหรอก  ฉันโกหกเธอ"

ฮารุนะนิ่งอึ้ง  ตกใจ  คาเร็นส่ายหน้าให้จูนอย่างไม่เห็นด้วย  จูนยังไม่ควรพูดความจริงตอนนี้  ต่างจากจูนที่คิดว่าจำเป็นต้องบอก

"เธอคงคิดว่าฉันประหลาดหรือเป็นบ้า  แต่ฉันชอบพี่สาวเธอ"

เด็กสาวกะพริบตาปริบๆ  ยกมือหนีมือจูน  แต่ไม่ได้ลุกหนีไป  คล้ายกำลังทำความเข้าใจสิ่งที่ได้ยินไปอยู่  "คุณเคยเจอพี่หรือเปล่า  ก่อนที่พี่จะมาเป็นแบบนี้น่ะ"

จูนส่ายหน้า  "ไม่ค่ะ  ไม่เคยสักครั้งเดียว"

"ไม่เคยเจอ!"  ฮารุนะถามตกใจ  จูนพยักหน้า  "แต่คุณบอกว่าคุณชอบพี่เนี่ยเหรอ  เป็นไปได้ไง"

"เธอจำเป็นต้องรู้ด้วยเหรอ  เหตุผลของฉัน  แค่ฉันช่วยให้พี่เธอฟื้นขึ้นมาได้ก็พอแล้วไม่ใช่หรือไง"  จูนพูดเสียงนิ่ง  ภายใต้สีหน้าราบเรียบยิ่งทำให้เธอดูน่ากลัว  "เธอคิดว่าฉันจะต้องการอะไรจากพี่เธอ  ในขณะที่เขานอนเป็นผักแบบนั้นกันล่ะ  เขาจะให้อะไรฉันได้  ค่าลิขสิทธิ์หนังสือหรือ  เธอว่าอย่างฉันจำเป็นต้องแย่งของแบบนั้นมาจากคนป่วยหรือไง"

"ปากร้าย"  คาเร็นพึมพำ  แอบค้อนจูนที่ลอบส่งยิ้มให้เธอ

"ปละ  เปล่าค่ะ  ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น  ฉันคิดว่ามันแปลกเท่านั้นเอง  คุณไม่เคยเจอพี่  ไม่รู้จัก  แล้วจะมาเป็นธุระให้ทำไม  แล้วยังมาบอกว่าชอบพี่ด้วย  มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย"

"แล้วถ้าฉันจะบอกว่า  ฉันเจอพี่เธอที่บ้านหลังนั้นล่ะ"  จูนหยั่งเชิง 

"คุณเจอวิญญาณเหรอคะ"  ฮารุนะถาม  ซูชิร่วงจากตะเกียบ

"ทำไมเธอถึงพูดว่าวิญญาณล่ะ  พี่สาวเธอยังไม่ตายไม่ใช่เหรอ"

"ก็ฉันเคยอ่านเจอว่า  คนที่อยู่ในอาการโคม่า  วิญญาณเขามักจะไม่อยู่ในร่างแล้ว  แต่จะเร่ร่อนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะฟื้นขึ้นมา  มันคงคล้ายกับเวลาเราหลับมั้งคะ  ตอนหลับวิญญาณเราก็จะท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ  แต่พอตื่นก็จะกลับมา  เราก็จะคิดว่านั่นคือความฝัน"

"อย่างนั้นเหรอ"  จูนอมยิ้มน้อยๆ  ชำเลืองมองคาเร็นที่กลอกตาให้อยู่ข้างๆ  "แล้วถ้าฉันจะบอกว่า  ตอนนี้คาเร็นอยู่กับฉันล่ะ"

ฮารุนะจ้องจูนเหมือนเธอเป็นบ้าไปแล้ว  "คุณอย่าพูดเล่นแบบนี้สิ"

"ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ"  จูนตอบ  พยายามจะไม่ยิ้ม  แม้คาเร็นจะทำหน้าดุใส่เธออย่างน่ารักอยู่  จนกระทั่งวิญญาณสาวหยิกแขนเธอจนสะดุ้งเกือบโยนตะเกียบทิ้ง 

"คุณเป็นอะไรน่ะ  อย่าบอกนะว่า..."  ฮารุนะชักกลัวแล้ว  "ฉันรักพี่นะคาเร็น  แต่มาแบบนี้ฉันก็ไม่ไหวเหมือนกัน"

"คุณบอกน้องหน่อยสิ  ว่าฉันไม่ทำอะไรแปลกๆ หรอก"  คาเร็นบอกจูนที่ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้เหมือนจะแกล้งเธออยู่  "จูนน่ะ  ไหนบอกจะดูแลฉัน  ทำให้แค่นี้ไม่ได้เหรอ"

"ได้ค่ะได้  ได้เลย"  จูนเอ่ยอย่างเอาใจ  คว้าถ้วยชาขึ้นดื่มท่ามกลางสายตาหวาดระแวงของเด็กสาววัยสิบเก้า  "พี่สาวเธอฝากมาบอกว่า  เขาจะไม่ทำอะไรให้เธอตกใจหรอก"

"นี่ขนาดไม่ได้ทำนะ"  ฮารุนะบ่น  พยายามเอาอาหารใส่ปากต่ออย่างเสียดาย  เธอสั่งแต่ของอร่อยๆ มาทั้งนั้น  "ถ้าคุณไม่บอกว่าจะเลี้ยง  ฉันคงกินไม่ลงแล้ว  ปกติฉันไม่ได้กินของแบบนี้หรอก  มันแพง  ฉันต้องเก็บเงินไว้เรียน  ทุนการศึกษาของบริษัทคุณให้แค่ค่าเทอมใช่ไหม"

"ฉันก็ไม่รู้รายละเอียดมากนักหรอก  รออ่านอีเมลจากเลขาพี่ฉันจะดีกว่า  แต่คิดว่าน่าจะมีพวกค่าเช่าห้องพักกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้ด้วยนะ  เป็นเดือนๆ อะไรแบบนั้น"  จูนตอบเป็นการเป็นงาน  "แต่ก่อนอื่น  เธอต้องผ่านเกณฑ์ของพวกเขา  ต้องทำตามขั้นตอนเหมือนกันนะคะ"

"คุณนี่ก็งกใช้ได้"  ฮารุนะว่า  "แต่ฉันก็ไม่ค่อยชอบคนรวยที่ใช้เงินเป็นกระดาษเหมือนกันแหละ"

"ฉันต้องการเจอคาเร็น  เร็วที่สุด"  จูนเข้าเรื่อง  ไม่ยอมเสียเวลาอีก 

"คิดแล้วว่าคุณคงไม่เลี้ยงข้าวฟรีๆ"  ฮารุนะว่า  คีบอาหารเข้าปาก

"เราก็ตกลงกันก่อนจะมาแล้วนี่คะ"  จูนย้อน  ยิ้มมุมปาก  ฮารุนะหน้าแดง  แต่คาเร็นหยิกเธออีกแล้ว  "อะไรล่ะคุณ"

"อย่าปั่นหัวน้องฉันสิ"

"ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"

"ทำสิ  คุณน่ะแค่ยิ้มก็ผิดแล้ว"

"อ้าว  เป็นงั้นไป"

"คุณคุยกับใครน่ะ  คาเร็นเหรอ"  ฮารุนะแทรก  จูนและคาเร็นชะงัก  เด็กสาวส่ายหน้าแล้วพูดต่อ  "ฉันไม่รู้หรอกว่าคุณต้องการอะไร  และฉันจะเชื่อคุณได้แค่ไหน  แม่ฉันบอกว่าไม่ให้ฉันมาเจอคุณเพราะคุณไม่น่าจะมาดี  แต่ฉันไม่เชื่อ  ยังไงฉันก็ต้องมาเจอคุณให้ได้  และถ้าคุณสื่อสารกับคาเร็นได้จริงๆ  ช่วยบอกพี่ให้ฉันที  ว่าฉันอยากให้เขากลับมา  ฉันจะดูแลเขาเอง  ฉันจะไม่ทิ้งเขาไปไหนอีกแล้ว"

"ขอบใจ  แต่นั่นหน้าที่ฉัน"  จูนตอบ  ยิ้มใจดี  คว้ามือคาเร็นมาจับต่อหน้าฮารุนะที่มองเธองงๆ เพราะไม่เห็นมือพี่สาว  "เธอบอกว่าอยากให้พี่มีแฟนเพื่อจะได้ดูแลเขาใช่ไหมล่ะ  ฉันนี่แหละจะเป็นแฟนคนนั้นให้เอง"

"จูน..."

"พวกนักเขียนนี่เพี้ยนกันหมดหรือไงนะ"  ฮารุนะแทรก  หัวเราะคิก  จูนเลิกคิ้ว  "ฉันจำคุณได้แล้วละ  ไม่ผิดแน่"

"เธอรู้จักฉันนอกจากในกูเกิลด้วยเหรอ"

"รู้สิ  คุณก็อยู่ในนิยายของคาเร็น"

"หืมม์?"  จูนฮัมเสียงสูง  ชำเลืองมองคาเร็นที่ทำท่าเหมือนจะหนีไป  แต่โดนเจ้าแบร์ดักหน้าไว้ให้เล่นกับมันก่อน 

"แต่ไม่ใช่คุณเสียทีเดียวหรอกค่ะ  แค่บุคลิก  การพูดจา  แล้วก็เขาเป็นผู้ชายค่ะ  แต่ใช่คุณแน่ๆ  ฉันมั่นใจ"  ฮารุนะเล่า  "ลองถามพี่สิคะ"

คาเร็นหลับตาหนี  ทำเป็นไม่เห็นว่าจูนจ้องเธอ  จนกระทั่งจูนพูดขึ้น

"แบบนี้ต้องโดนค่าลิขสิทธิ์นะเนี่ย  หรือยังไงดี"

"งก  ไม่ใช่คุณสักหน่อย  ไม่ใช่ชื่อคุณ  เขาชื่อแกเบรียล" 

"ฟังดูท่าทางหล่อ"  จูนพูด  ยิ้มให้คาเร็น  เผื่อแผ่ไปหาฮารุนะที่นั่งยัดข้าวหน้าปลาไหลเข้าปาก  ปลอบใจตัวเองไม่ให้กลัวจูนที่พูดกับวิญญาณประหนึ่งเป็นคนเหมือนกัน  "ชื่อแกเบรียลใช่ไหม"

ฮารุนะพยักหน้า  ตาโตอย่างเหลื่อเชื่อ  "พี่บอกคุณเหรอ  หรือคุณรู้อยู่แล้ว"

"กินให้เสร็จๆ จะได้บอกสักทีว่าคาเร็นอยู่ไหน"  จูนพูดเสียงดุ  เกือบลืมไปเลยว่าฟลิคกับดิ๊พซี่รออยู่ตรงโต๊ะด้านหลัง  โชคดีที่เจ้าแบร์ไม่ได้ติดสองคนนั้นเท่าเธอ  ไม่อย่างนั้นมันคงไปออเซาะฟลิคให้เสียเรื่องแล้ว

"คุณจะไม่กินบ้างเหรอ"  ฮารุนะพูด  วางตะเกียบลง  พลางบุ้ยใบ้ไปทางจานอาหารของจูนที่แทบไม่พร่องเลย  ยกเว้นจานที่สั่งมาให้แบร์ 

"ฉันไม่ค่อยหิวเท่าไหร่"

"ถ้าคุณป่วยไปอีกคน  แล้วใครจะดูแลพี่ฉันล่ะ"

จูนชะงัก  เหลือบมองคาเร็นที่ทำหน้าตาเห็นด้วยกับน้องสาว  "โอเค  กินก็ได้  เหมือนมีแม่เพิ่มเลยแฮะ"

"บ่นทำไม  กินไปเลย  คุณผอมกว่าวันแรกที่ฉันเห็นเยอะเลยนะ"

"ฉันตัวใหญ่กว่าคุณค่ะ  และคุณก็ไม่เคยเห็นฉันแก้ผ้าสักหน่อยจะรู้ได้ยังไงว่าฉันผอมหรืออ้วน  ฉันอาจจะซ่อนรูปก็ได้นะ"

"ทำไมจะไม่เคยเห็น"  คาเร็นหลุดปาก  กระตุกมือหนีจากมือจูน 

"ไม่เป็นไรค่ะ  มองได้  สำหรับคุณ  อนุญาตให้มองได้ทั้งตัว"

"จะบ้าเหรอ  ใครจะไปมองคุณขนาดนั้นล่ะ  มันบังเอิญต่างหาก"

"คุยอะไรกันน่ะทำไมมันฟังดูล่อแหลม"  ฮารุนะขัด  ทนฟังนานแล้ว

"ก็พี่สาวเธอน่ะสิ  แอบดูฉันแก้ผ้า --"

"จูน  หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!"  คาเร็นดุ  ดึงหูจูนจนร้องโอย  "ห้ามพูดกับน้องแบบนั้น  ไม่งั้นฉันจะไม่พูดกับคุณอีก"

"โอเคค่ะ  โอเค  ยอมแล้ว"  จูนคร่ำครวญ  จับหูตัวเองข้างที่คาเร็นเพิ่งจะปล่อยมันให้เป็นอิสระ  ฮารุนะมองเธอแหยงๆ  อาจกำลังชั่งใจว่าเธอแกล้งแสดงอะไรบ้าๆ ให้ดูหรือคาเร็นอยู่ที่นี่จริงๆ 

"โอเค  ฉันจะกินละ  และระหว่างที่ฉันกิน  เธอจะสั่งของหวานมากินด้วยก็ได้หรือจะสั่งเพิ่ม  แต่ต้องกินให้หมดนะ  ไม่งั้นจ่ายเอง  แล้วก็...เธอควรจะเล่าเรื่องคาเร็นให้ฉันฟังด้วย  โดยเฉพาะ...คาเร็นอยู่ที่ไหน"

"พี่ไม่ได้อยู่ที่นี่ค่ะ"

"ฉันรู้  ก็เธอบอกว่าเขาอยู่โตเกียว"

"ไม่ใช่ค่ะ  อยู่ลอนดอน"  ฮารุนะสารภาพ  หน้าซีดขาวเมื่อจูนจ้องหน้าเขม็ง  "แม่โกหกคุณน่ะ  ฉันจะบอกคุณนานแล้ว  แต่ฉันไม่แน่ใจว่าคุณจะไว้ใจได้จริง  ขอโทษจริงๆ ค่ะ"

จูนหยุดเคี้ยวเทมปุระ  มองเด็กสาวที่ลุกขึ้นยืนและโค้งศีรษะให้เธอจนเกือบจะหน้าทิ่มพื้น  ฟลิคกับดิ๊พซี่มองมาจากอีกโต๊ะ  พวกเขาดูตกใจและสงสัย  พนักงานในร้านก็มองมาเหมือนกัน

เธอเคี้ยวอาหารในปากจนหมด  ดื่มชาตามแล้วจึงเอ่ย  "กลับมานั่ง  ฮารุนะ  แล้วบอกความจริงกับฉัน  ทั้งหมด  ถ้าเธอยังอยากได้ทุนอยู่"

"แต่ว่า..."

"ทำตามที่ฉันบอก"

เด็กสาวลนลานรีบทำตามคำสั่ง  กลัวจูนจริงๆ  จูนสามารถทำให้ตัวเองน่ากลัวได้ในเวลาที่จำเป็น

"เอาละ  คราวนี้ก็เล่ามาทั้งหมดและจำไว้ว่าฉันไม่ได้ใจดีนักหรอก"

ฮารุนะพยักหน้าหงึกหงัก  ไม่เถียงสักคำ  ก้มหน้าก้มตาเล่าเรื่องจริงที่จูนต้องการโดยไม่คิดปิดบังอีก  ขณะที่จูนนึกถึงแอลลี่และหงุดหงิดขึ้นมาจนหน้าตึงกว่าเดิม  ชนิดที่คาเร็นยังไม่กล้าทัก

.............................................................

ฟลิคยืนมองน้องมาพักใหญ่แล้วแต่จูนไม่มีทีท่าจะใส่ใจ  น้องยังคงนั่งเหม่ออยู่ตรงที่นั่งริมหน้าต่าง  ลูบหัวเจ้าแบร์ที่นอนเกยตัก  ตั้งแต่กลับมาจากร้านอาหารก็เป็นอยู่แบบนี้จนดิ๊พซี่ต้องมาตามเธอให้มาดู  กลัวน้องเธอจะเกิดเพี้ยนหนักและทำอะไรบ้าๆ ขึ้นมา 

"เขาพูดกับคุณหรือยัง"  ดิ๊พซี่ถามเบาๆ  กลัวจูนจะได้ยิน 

ฟลิคส่ายหน้า  "เขาพูดแต่ว่าให้จองตั๋วกลับลอนดอนให้  เอาเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้  ให้จองเผื่อน้องสาวคาเร็นด้วย"

"สรุปกลับบ้าน  ไม่ได้ไปโตเกียว" 

"อืม  เขาบอกว่า  โลกนี้มีแต่คนโกหก  จากนั้นก็เงียบไป  แล้วนั่งอยู่แบบนั้น"

ดิ๊พซี่ส่ายหน้า  ยกแขนกอดอก  พยักหน้าเรียกฟลิคให้ออกไปจากห้องด้วยกัน  "น้องคุณเปราะบาง  คุณรู้ไหม  เขาอยู่ในโลกนี้ลำบาก  อยู่ได้นั่นแหละ  แต่ทุกข์ใจ  เขาอ่อนไหว  อารมณ์ศิลปินมากเกินไป  ดูคล้ายจะเป็นโรคซึมเศร้า  โชคดีที่เขายังไม่เคยพูดว่าอยากตาย  หรือไม่รู้จะอยู่ไปเพื่ออะไร  ถ้าแบบนั้นฉันคงจับเขาไปหาหมอนานแล้ว"

"เขาเขียนหนังสือเพื่อระบายความทุกข์  เขาเคยบอกฉัน"  ฟลิคพูด

"ใช่  เขาก็เคยบอกฉันแบบนั้น  แต่ฉันไม่เข้าใจ  คนแบบเขามีอะไรจะต้องทุกข์นักหนา  เงินก็มีใช้  บ้านก็มีอยู่  อยากได้อะไรก็ได้  ชอบใครก็มีคนชอบตอบ  เขาแทบจะได้ทุกอย่างในโลกด้วยซ้ำ"

"เขาไม่ได้ความรักจากคนที่เขารัก"  ฟลิคเอ่ย  ดิ๊พซี่กลอกตา

"โอเค  ใช่  เพราะเขาไม่ได้รักฉัน  เราอยู่ด้วยกันไปอย่างนั้นเอง  ฉันเป็นนางบ้าที่คอยตามก้นเขา  สร้างความรำคาญให้เขา  ฉันรู้..."

"เขาไม่เคยพูดแบบนั้น  เขาเสียใจด้วยซ้ำที่รักคุณไม่ได้"

ดิ๊พซี่ส่ายหน้า  ไม่เชื่อ  "ช่างเถอะ  ยังไงก็จบไปแล้ว  กลับลอนดอนคราวนี้  ฉันคงไม่มายุ่งกับเขาอีกแล้วละ  เขาจะได้เลิกรำคาญฉันสักที"

"แล้วฉันล่ะ"

"คุณ  ทำไม"

"เอ่อก็..."

"คุณก็จีบฉันสิ  ทำเป็นไหมล่ะ"  ดิ๊พซี่พูด  แบมือออกมาด้านหน้า  ฟลิคทำหน้างง  "ขอกุญแจห้องนู้นด้วย  คืนนี้คุณนอนกับเขา  ฉันขี้เกียจทนมองหน้าเขา  ฉันจะไปแช่น้ำร้อนให้สบายใจสักหน่อย  อุตส่าห์ได้มาเกียวโตทั้งที  ไม่ได้อะไรเลย"

ฟลิคถอนหายใจเฮ้อ  มองตามหลังคนตัวเล็กที่ฉกกุญแจไปจากมือ  เธอลังเลว่าจะเดินกลับเข้าห้องไปหาน้อง  หรือตามดิ๊พซี่ไปดี

"ฉันจะอยู่กับเขาเองค่ะ  ฟลิค"

สาวตัวสูงกะพริบตา  ฟลิคแน่ใจว่าได้ยินเสียงคุ้นหูพูดกับเธอ  แถมยังเห็นเงาร่างรางๆ ของผู้หญิงผมยาวในชุดสีครีมเดินเข้าไปในห้องจูนด้วย

"ฝากด้วยนะคะ  คาเร็น"  ฟลิคพึมพำ  บางครั้งเธอก็ต้องเลือกอะไรให้ตัวเองบ้าง



.....................


อย่าลืมมาจับจองกันนะจ๊ะ   :21: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

14 มกราคม 2019 เวลา 09:02:44
ตามกันอยู่นี่แหละ ไม่เจอซักกะที คนใจร้ายคนใจดำคนหลอกลวง
แสดงความคิดเห็น