web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 437
Most Online Ever: 437
(วันนี้ เวลา 21:24:59)
Users Online
Members: 0
Guests: 426
Total: 426

ผู้เขียน หัวข้อ: Love me..Love my dog บทที่ 6  (อ่าน 1550 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ธันย์ธิวา

  • Moderator
  • หน้าใหม่
  • *****
  • กระทู้: 8
Love me..Love my dog บทที่ 6
« เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2014 เวลา 23:57:08 »
Love me love my dog
บทที่ 6

ท่ามกลางงานราตรีการกุศลในโรงแรมห้าดาวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่างบอบบางของพิชามญชุ์ยืนเหม่อมองออกไปยังแสงจันทร์ที่ส่องเงาสะท้อนอยู่กลางน้ำ

   “ว่าไงจ๊ะคนสวย มายืนเหม่ออะไรตรงนี้” ชายหนุ่มมาดเท่ในชุดสูทหรูเดินมาหยุดอยู่เคียงข้างหญิงสาว
พิชามญชุ์อมยิ้ม ไม่ต้องหันไปก็รู้ว่าเป็นใคร

   “พี่วัตมานานแล้วเหรอคะ” หญิงสาวทักทาย

   “เพิ่งมาจ้ะ คุณหญิงป้าบอกว่าน้องสาวพี่มาถึงแล้ว แต่ไม่รู้อยู่ไหน พี่ก็เลยเดินออกมาดู เบื่อในงานแล้วเหรอ” ชายหนุ่มตอบคำถาม
ปกติน้องสาวเขาไม่ชอบออกงานสังคม แต่งานนี้มีเจ้าภาพเป็นแม่ของเพื่อนสนิทที่เจ้าตัวนับถือมากราวกับเป็นญาติผู้ใหญ่แท้ๆ สาวเจ้าจึงมาปรากฎตัวอยู่ในงานด้วย

“ก็ไม่เชิงเบื่อหรอกค่ะพี่วัต แพรวแค่อยากออกมารับอากาศบริสุทธิ์ริมน้ำน่ะ” หญิงสาวหันกลับไปเหม่อมองท้องน้ำเบื้องหน้าอีกครั้ง

“แล้วมาคนเดียวหรือวันนี้ อีกคนไปไหนเสียล่ะ” พี่ชายแสนดีคนเดิมถามไถ่
เขาไม่ค่อยชอบหน้าเพื่อนชายคนนี้ของน้องสาวสักเท่าไร ดูเป็นลูกคุณหนูเอาแต่ใจ ไม่รู้น้องสาวที่แสนจะสวยเลือกได้คนนี้ทนผู้ชายแบบนั้นไปได้อย่างไร

“พี่ภพอยู่ด้านในกับคุณหญิงป้าค่ะ” น้องสาวตอบเรื่อยๆ น้ำเสียงดูไม่ได้ยี่หระต่ออะไรเท่าไร

“พี่ถามจริงๆเถอะนะ ตอนนี้สถานะของแพรวกับไอ้ปรภพนั่นเป็นยังไงกันแน่”
พิชามญชุ์กลั้นยิ้ม เธอได้ยินพี่ชายเรียกชื่อ ปภพ เป็น ปรภพ อยู่บ่อยครั้งแต่ก็อดขำไม่ได้สักที

“ก็เป็นเพื่อนอย่างเดิมนั่นแหละค่ะ” แต่สายตาของพี่ชายยังคลางแคลงใจ
“แพรวไม่ได้เป็นดารา ที่ต้องหลอกคนอื่นถึงสถานะของคนที่คบด้วย พี่ภพกับแพรวแค่คบหาศึกษากันก็เท่านั้น แพรวเพิ่งจะรู้จักเขาได้ไม่ทันไรเองนะคะ”
พิชามญชุ์ชี้แจงเพิ่มเติม

นึกย้อนไปวันที่ได้เจอกับปภพ เขาเป็นลูกชายของคุณหญิงทิพาวรรณ เพื่อนสนิทของคุณแม่ผู้ล่วงลับของเธอ
สองเดือนก่อน คุณหญิงทิพาวรรณมาเข้าร่วมการประชุมประจำปีของผู้ถือหุ้น ในบริษัทเรียลเอสเตทอันเป็นกิจการหลักของครอบครัวพิชามญชุ์
วันนั้นคุณหญิงชวนชายหนุ่มหน้าตี๋ ท่าทางสมาร์ท หรูเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว มาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก
แต่เหมือนเขาจะไม่ได้สนใจเรื่องอื่นในที่ประชุมด้วยซ้ำ พิชามญชุ์รู้สึกว่าเขาจับจ้องเธอเป็นพิเศษตั้งแต่เธอเดินเข้ามา

“น้องแพรว รู้จักพี่ภพสิลูก” คุณหญิงป้าเดินมาลูกชายมาหาเธอ หลังการประชุมเสร็จสิ้น

“สวัสดีค่ะ” พิชามญชุ์ยกมือไหว้ชายหนุ่มตามคำบอกที่ว่าเขามีอายุมากกว่าเธอ

“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องแพรว” ชายหนุ่มรับไหว้ พร้อมส่งสายตาบางอย่างที่ทำให้พิชามญชุ์เข้าใจความหมาย
ที่คุณหญิงทิพาวรรณพาเขามาแนะนำกับเธอเป็นการส่วนตัวในทันที

“ตาภพเนี่ยชื่นชมหนูแพรวไม่ขาดปากเลยนะจ๊ะ ตั้งแต่ตอนที่แพรวพรีเซนต์แล้ว” คุณหญิงชงเรื่องต่อ
“เนี่ย ป้าจะพามาแนะนำตั้งแต่ช่วงเบรก แต่ก็ติดต้องคุยกับกรรมการท่านอื่นอยู่ ก็เลยเพิ่งจะพามาแนะนำให้หนูแพรวรู้จักเนี่ยแหละจ้ะ”

“คุณแพรวพรีเซนต์ดีมากเลยนะฮะ” ชายหนุ่มรับลูกจากมารดาทันที

“อ่อ ค่ะ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวตอบรับคำชมตามมารยาท คุณหญิงทิพาวรรณไม่ปล่อยให้หญิงสาวมีโอกาสขอปลีกตัว

“พี่เขาเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก ยังไม่ค่อยรู้อะไรในเมืองไทยเท่าไร ป้าฝากหนูแพรวช่วยแนะนำพี่เขาหน่อยแล้วกันนะจ๊ะ”

“ค่ะคุณหญิงป้า แพรวยินดี แต่แพรวเองก็ไม่ค่อยมีเวลาไปเที่ยวไหนเท่าไร ไม่รู้จะแนะนำพี่ภพได้แค่ไหนนะคะ” พิชามญชุ์แบ่งรับแบ่งสู้ตามมารยาท
หลังจากนั้น ชายหนุ่มที่ชื่อปภพก็ปรากฎเป็นเงาตามเธอเรื่อยมา จนในวงสังคมต่างก็ซุบซิบถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขา
กลายเป็นที่อิจฉาของสาวหลายนางที่อยากจะครอบครองชายหนุ่มแสนเพอร์เฟกต์คนนี้ ยกเว้นแต่พิชามญชุ์นี่แหละที่ไม่ยินดีกับข่าวที่ออกไป
เรื่องบางเรื่องคนภายนอกไม่เข้าใจหรอก

พี่วัตของพิชามญชุ์ใช้มือเชยคางหญิงสาวให้เงยขึ้นสบตาเขา ส่งสายตาคาดคั้นความจริง

“เฮ้อ พี่วัตเนี่ย” พิชามญชุ์ปัดมือออก “แพรวไม่มีอะไรจะบอกทั้งนั้นแหละค่ะ ไม่ต้องมาคาดคั้นให้เสียเวลาหรอก”

ในจังหวะที่หญิงสาวปัดมือออกจากคาง คนเป็นพี่ก็เห็นข้อมือน้องสาวใส่เฝือกอ่อนพอดี จึงจับมือข้างนั้นขึ้นมา

“อุบัติเหตุน่ะค่ะ รถชนเมื่อวันก่อน” หญิงสาวตอบ

“มายืนคุยกันอยู่นี่เอง” เสียงชายหนุ่มที่เพิ่งถูกพาดพิงดังขึ้น พี่ชายของพิชามญชุ์แอบเบ้หน้าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ไวพอเพราะพิชามญชุ์สังเกตเห็นจนได้
เธอแอบหยิกแขนพี่ชายให้พอสะดุ้งไปหนึ่งที

“พี่ตามหาทั่วงานเลยฮะน้องแพรว” หนุ่มตี๋ยิ้มกรุ้มกริ่มกับเธอ พิชามญชุ์และภตวัครู้สึกอึดอัดพร้อมกันทันที

“พี่น้องไม่ได้เจอกันนานก็อย่างนี้แหละฮะ เดี๋ยวนี้น้องสาวไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัว” ภควัตพูดยิ้มแย้ม แต่แอบเหน็บไอ้หน้าจืดที่ยืนอยู่ข้างน้องสาว

“แพรวเขายุ่งเรื่องงานน่ะฮะคุณวัต จริงมั้ยฮะน้องแพรว” ชายหนุ่มหันมาหาเธอ
“ค่ะ” หญิงสาวได้แต่ตอบไปเรียบๆ เธอรู้ความนัยที่พี่ชายเธอเหน็บแนมดี เพราะนายปรภพคนนี้เรียกร้องให้เธอไปนั่นไปนี่กับเขา
จะปฏิเสธก็ถูกยกเหตุผลเรื่องคุณหญิงป้ามาอ้าง เคยถึงขนาดคุณหญิงทิพาวรรณยกหูโทรศัพท์มาหาเธอด้วยตัวเองเลยทีเดียว
พักหลังเธอเลยไม่ค่อยได้ไปรวมกลุ่มครอบครัวกับลูกพี่ลูกน้องอย่างเคย

“ครับคุณภพ แพรวเขาทำงานหนัก เป็นเวิร์คกิ้งวูแมนน่ะครับ ไม่เหมือนพวกลูกเศรษฐีที่ลอยไปลอยมา เอาแต่สนุกไปวันๆ” ภควัตพี่ชายเธอยังคงพูดยิ้มๆ
แต่คราวนี้หนุ่มตี๋พอจะรู้แล้วว่าพี่ชายเธอเหน็บใคร

“เข้าไปข้างในกันดีกว่าค่ะ งานคงเริ่มแล้ว” หญิงสาวตัดบทก่อนวงจะแตก
เธอควงแขนพี่ชายเดินเข้างานไป ทิ้งให้เพื่อนชายหงุดหงิดที่โต้ตอบไม่ทันไว้เบื้องหลังเพียงคนเดียว

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

   หญิงสาวเดินเข้ามานั่งในงาน เธอเลือกที่จะเกาะติดพี่ชายแจ หวังให้เขาช่วยกันเงาให้ห่างจากเธอบ้าง ซึ่งก็ได้ผล
เพราะชายหนุ่มต้องเดินตามมารดาที่พาเขาไปแนะนำให้บรรดาคุณหญิงคุณนายไฮโซได้รู้จักอย่างทั่วถึง

เธอเบื่องานแบบนี้ เบื่อที่ต้องมองเห็นละครฉากใหญ่ที่แต่ละคนต้องใส่หน้ากากเข้าหากัน
ถ้าไม่ติดว่าเจ้าภาพงานวันนี้เป็นมารดาของเพื่อนสนิทเธอแล้วล่ะก็ เธอคงปฏิเสธไม่มาร่วมงานเป็นแน่

   พิชามญชุ์รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กๆจากโทรศัพท์ในกระเป๋าถือของเธอ เมื่อหยิบมันขึ้นมาดู
ก็พบว่าเป็นเบอร์ของสัตวแพทย์สาวที่เธอไม่ได้พบหน้าค่าตามาหลายวัน หญิงสาวหันไปขอตัวกับสมาชิกในโต๊ะ ก่อนลุกขึ้นเดินออกไปนอกงาน

“สวัสดีค่ะคุณหมอ”

   “สวัสดีค่ะคุณแพรว สะดวกคุยไหมคะ” ปลายสายออกจะเกรงใจเธอไม่น้อย

   “สะดวกค่ะ แพรวมางานการกุศลน่ะค่ะ เสียงอาจจะดังหน่อย คุณหมอได้ยินใช่ไหมคะ”

   “ได้ยินชัดเจนค่ะ ว่าแต่พอจะคุยได้ ไม่รบกวนจริงๆใช่ไหมคะ”

   “จริงๆค่ะ ไม่กวนหรอก ต้องขอบคุณที่คุณโทรมามากกว่า แพรวกำลังเบื่องานข้างในอยู่พอดีเลยค่ะ” พิชามญชุ์ยิ้มกับปลายสาย
เธอรู้สึกดีจริงๆที่ได้คุยกับสัตวแพทย์สาว วันนี้เธอไม่ได้แวะเข้าไปเยี่ยมเจ้าดำมี่ที่โรงพยาบาล เพราะติดต้องมาร่วมงานที่โรงแรมนี่แหละ

   “คือฉันจะถามคุณว่า วันอาทิตย์นี้คุณสนใจจะไปงานของมูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ไหม” หมอปั้นเอ่ยชื่อมูลนิธิที่พิชามญชุ์คุ้นหูอยู่พอสมควร

   “น่าสนใจค่ะ ไปทำอะไรบ้างคะ” เสียงของพิชามญชุ์ดูตื่นเต้นเหมือนเด็กๆ ส่งให้ปลายสายหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

   “วันนั้นก็มีฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า แล้วก็ทำหมันค่ะ บริการฟรีให้คนในชุมชน แล้วก็เผื่อแผ่ไปถึงหมาแมวจรจัดในด้วย”

   “น่าสนใจมาก ขอแพรวไปด้วยคนแล้วกันนะคะ ว่าแต่จะจัดที่ไหนคะคุณหมอ”

หมอปั้นเอ่ยบอกสถานที่กับหญิงสาวไป แต่ก็อาสามารับที่คอนโดตั้งแต่เช้า
เพราะหมอปั้นรู้ว่าช่วงนี้รถคันสวยของพิชามญชุ์ยังไม่ได้กลับมาบริการเจ้าของดังเดิม
   พิชามญชุ์นัดแนะเวลากับปลายสาย ก่อนอีกฝ่ายจะขอตัววางหูไป เพราะไม่อยากรบกวนพิชามญชุ์มากไปกว่านี้
สาวร่างบางยืนมองโทรศัพท์ในมือ แล้วยิ้มออกมาอย่างสบายใจ ก่อนเดินกลับเข้างานไปด้วยอารมณ์ที่สดชื่นกว่าเดิมหลายเท่าตัว

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ที่บ้านสองชั้นขนาดกะทัดรัดใจกลางกรุงเทพฯ ชานบ้านด้านนอกมีร่างโปร่งของสัตวแพทย์สาวนั่งอยู่
โดยมีหมาโกลเด้นพันธุ์ผสมตัวอ้วนใหญ่สีน้ำตาลที่นอนพุงพลุ้ยอยู่เคียงข้าง

ร่างโปร่งในชุดเสื้อยืดกางเกงเล กดปุ่มวางสายโทรศัพท์ด้วยรอยยิ้ม เธอแหงนหน้ามองดวงจันทร์บนฟ้าด้วยหัวใจปลอดโปร่งกระชุ่มกระชวย

“เขายอมไปงานที่ฉันชวนด้วยแหละทองหยิบ” หมอปั้นพูดกับหมาอ้วนที่นอนข้างๆอย่างอารมณ์ดี

“เขาน่ารักมากเลยนะ ใจดีอีกด้วย แกเห็นแกต้องชอบเขาแน่ๆเลยทองหยิบ” หมาอ้วนทำแค่เหลือบตาดูเจ้านายของมันพร่ำเพ้อด้วยสายตารำคาญนิดๆ

“เขาแวะมาดูหมาจรจัดที่ช่วยไว้ทุกวันเลยนะ ยกเว้นวันนี้แหละ แต่ก็ยังอุตส่าห์โทรมาบอกที่โรง’บาลนะว่าจะไม่มา น่ารักมั้ยล่ะ”
หมอปั้นพล่ามต่อ ทองหยิบเลยหันหน้าไปวางบนขาอีกข้าง ก่อนหายใจดัง พรืดดดด

“อะไรวะ ทำมาเป็นถอนหายใจ เดี๋ยวก็ไม่ให้กินขนมซะนี่” หมอปั้นเอากำปั้นเขกหัวหมาอ้วนจอมขี้เกียจที่ทำท่ารำคาญเธอตะกี้อย่างหมั่นไส้

“คอยดูนะ ถ้าแกเห็นเขาแล้วแกไม่ชอบล่ะก็ ฉันจะยอมซื้อตับไก่ให้แกกินทั้งอาทิตย์เลยเชียว”

เออ...ข้อเสนอนี้น่าสนใจ หมาอ้วนเปลี่ยนท่าเป็นนอนหงายให้เจ้านายเกาพุง

“อยากให้ถึงวันอาทิตย์เร็วๆจัง” หมอปั้นยังคงพูดต่อ มือก็เกาพุงให้ทองหยิบไม่หยุด แต่สายตากลับเหม่อลอยมองไปบนท้องฟ้า
วันนี้บนดวงจันทร์ไม่มีกระต่าย แต่มีใบหน้าหวานๆของพิชามญชุ์ปรากฎอยู่แทน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 พฤษภาคม 2014 เวลา 00:00:03 ธันย์ธิวา »




ออฟไลน์ si

  • หน้าใหม่
  • *
  • กระทู้: 42
Re: Love me..Love my dog บทที่ 6
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2014 เวลา 22:30:30 »
อยากอานต่อ

ออฟไลน์ Lee Meng

  • หน้าใหม่
  • *
  • กระทู้: 4
Re: Love me..Love my dog บทที่ 6
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2014 เวลา 13:53:08 »
พรุ่งนี้แล้วสิเนี่ย วัน อา ทิตย์ เย้!!!

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.