web stats

ข่าว

 


In the City - บทที่6 Cooler Than Me

โพสต์โดย: anhann วันที่: 07 ธันวาคม 2017 เวลา 12:50:16 อ่าน: 185



บทที่ 6 Cooler Than Me





เอเดนไม่ได้ชอบเป็นนางแบบ  แต่ถ้าเป็นช่างภาพที่ชื่อมินอาแล้ว  เธอยินดีโพสท่าให้เลยด้วยซ้ำ  เพราะเธอชอบรางวัลที่มินอาให้  จูบเบาๆ ที่ปาก  ที่แก้ม  หรือแค่หอมแก้มก็ไม่ว่ากัน

"ไม่เอาอะ  ติดกระดุมดีกว่า  ไม่อยากให้คนอื่นเห็น"  มินอาว่า  ปรี่เข้ามาจับกระดุมเสื้อเชิ้ตของเอเดนที่ตนเป็นคนปลดมันลงมาตั้งสามเม็ด  แต่ดึงคอเสื้อขึ้นไปให้พอเห็นผิวขาวของเด็กสาวตัวสูงแค่รำไรพอ  ทว่าเธอก็ยังไม่พอใจอีก  เพราะทนให้ใครเห็นความเซ็กซี่แบบบอยๆ ของแฟนตัวเองไม่ได้

เอเดนเป็นคนสวยมาก  สวยกว่าเธอเสียอีก  หากก็เป็นผู้หญิงที่มีลุค  Boylish เป็นพวกเท่ๆ ชิคๆ  แทบไม่มีเสื้อผ้าสีชมพูเลยก็ว่าได้  นอกจากพี่สาว  หรือเพื่อนๆ พี่จะขอร้องแกมบังคับให้ใส่เวลาไปไหนมาไหนกันเป็นแก๊ง

"เป็นแบบนี้  แล้วจะให้ฉันไปรับจ็อบเป็นนางแบบได้ไงคะ"

เสียงหยอกเย้าของเอเดนทำให้คนขี้หวงช้อนตามองอย่างขุ่นเคือง 

"เอ้า  ก็พี่มินชวนฉันเองนะ  ฉันจำได้"

"ใช่  พี่ชวน  แต่หมายความว่า  พี่ต้องเป็นคนเดียวที่ถ่ายเธอ  เดนท์"

"มันจะเป็นไปได้ยังไง  หรือเพราะฉันจะไม่มีใครจ้าง  นอกจากพี่"

"เธอจะรับงานได้  ก็ต่อเมื่อพี่อนุญาตเท่านั้น  เอเดน"

"โห  เผด็จการชัดๆ"  เอเดนแกล้งบ่น  อมยิ้มให้เจ้าของค้อนวงใหญ่  พลางมองปลายนิ้วเล็กๆ ติดกระดุมเสื้อให้ตัวเองทีละเม็ด

"เธออยากลงไปกับพวกเขาหรือเปล่า"  มินอาถาม  สีหน้าดูปกติดี  แต่เอเดนเห็นความไม่สบายใจภายใต้ความปกตินี้  รู้จักกันมานานจนอ่านท่าทีกันออกหมดแล้ว

"ถ้าจะไป  ไปถ่ายรูปเล่นกันดีกว่า  แค่เราสองคน"  เอเดนชวน  มินอาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็รีบไปคว้าเสื้อคลุมกับผ้าพันคอของตนและของเอเดน

"เธอไม่ได้วาดรูปแล้วเหรอ  เดนท์"  มินอาถามขึ้นระหว่างทางเดินลงจากห้องพัก  มือหนึ่งประคองกล้อง  อีกมือซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อของคลุมเอเดน  คนเด็กกว่าจับมือเธอไม่ยอมปล่อย  มันทำให้รู้สึกดีและเจ็บปวดไปพร้อมกัน  เธอไม่อยากนึกถึงวันที่เราต้องจากกันอีก

"วาดบ้าง  เวลาทำงานส่งอาจารย์ค่ะ"  เอเดนตอบ  อมยิ้มขำเพราะคนตัวเล็กทำท่าคล้ายจะงอน  "ฉันวาดตอนคิดถึงพี่ค่ะ"

"เชื่อดีไหมเนี่ย" 

"เชื่อสิคะ"

"เชื่อได้ไง  ก็พี่ยังไม่เห็นรูปที่เราวาดเลยนี่  ในห้องก็ไม่มี"

"แปลว่า  พี่ยังรื้อไม่หมดไง"

"ไม่ใช่ว่าเธอมีเพื่อนใหม่  เลยเลิกคิดถึงพี่แล้ว"

"คนละเรื่องกันเลย"  เอเดนท้วง  รู้สึกเหมือนโดนไล่ต้อนให้จนมุม

"ไม่คนละเรื่องหรอก  พวกเธอเพิ่งรู้จักกันแต่ทำท่าเหมือนรู้จักกันมานานมาก  ไม่ยักรู้ว่าเธอสนิทกับคนง่าย"

"โอ้  นี่หึงเหรอคะ"

มินอาชักสีหน้า  จะชักมือออกจากกระเป๋าเสื้อของอีกฝ่าย  แต่มือของเอเดนก็จับมือเธอไว้แน่นมาก  บวกกับแววตาขอร้องของน้องทำให้เธอต้องหยุดดิ้นรนทำให้เราทั้งคู่เจ็บไปด้วยกัน

"เราไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน  เธอจะไม่ให้พี่กลัวได้ยังไง  แถมตอนนี้พี่ก็ไม่ใช่คนเดียวของเธออีกแล้วด้วย  เธอลองมาเป็นพี่บ้างสิ  เดนท์"

"แล้วฉันล่ะคะ  ฉันล่ะ  ฉันต้องทนคิดถึงพี่ทุกวัน  คอยเป็นห่วงว่าพี่จะไปผจญภัยอะไรอยู่ที่ไหน  เป็นอันตรายหรือเปล่า  แล้วดูสิ  พี่ตัวแค่นี้เอง  พี่คิดหรือว่า  ฉันสบายดี  ทุกวันนี้"  เอเดนพูด  พยายามมากที่จะไม่งอแงเป็นเด็กๆ  หากขอบตาเธอก็เริ่มแดงจนอีกฝ่ายหน้าเสีย  แต่เธอส่ายหน้าให้ก่อนที่มินอาจะได้พูดอะไร  "พี่เป็นคนเดียวของฉันเสมอนะคะ  ฉันไม่เคยมีใคร"

มินอาก้มหน้าลงมองปลายเท้าตัวเอง  ไม่ตอบโต้  เพราะเธอรู้อยู่แล้ว

"เลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ  วันนี้เรามาเที่ยวในรอบสองปีเลยนะ"

คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาในที่สุด  หน้าตางุนงงคล้ายจะไม่เชื่อ  "ไม่จริง  นานขนาดนั้นเลยเหรอ"

"ขนาดนั้นแหละค่ะ"

มินอายิ้มแหยๆ  แต่คนเด็กกว่าก็ส่ายหน้าเตือนไม่ให้เธอคิดมาก 

"ถ้าพี่อยากจะไถ่โทษนะคะ  พี่ก็แค่ต้องยิ้มมากๆ  และมีความสุขเวลาเราอยู่ด้วยกัน  ตกลงไหม"  เอเดนเสนอ  มินอาแทบไม่ลังเลเลยที่จะตอบมันด้วยการเขย่งขึ้นมาจูบเธอที่ริมฝีปาก  เป็นเธอที่ต้องกลั้นใจไม่ลากแฟนสาวกลับเข้าห้องไปตอกย้ำความคิดถึงอันท่วมท้นด้วยกันอีกสักรอบสองรอบ

"กลับห้องกันดีกว่าไหมนะ"

"เด็กทะลึ่ง"  มินอาพูด  และแอบเสียดายนิดหน่อยตอนเอเดนจูงมือเธอออกมาเดินท่อมๆ ไปรอบปราสาทอังกฤษแสนสวยนี้ด้วยกันพร้อมกับกล้องในมือเธอและรอยยิ้มบนริมฝีปากเราทั้งคู่

............................................

เฮย์ลีย์อดคิดถึงแซนด์วิชไก่งวงที่กินไปเมื่อตอนเที่ยงไม่ได้  เมื่อเจอกับอาหารในโต๊ะดินเนอร์ของคฤหาสน์หรูซึ่งเธอถูกแฟนสาวลากมาด้วยอย่างยากจะขัดใจกัน  หากไม่อยากมีเรื่อง

"ฉันสั่งรูมเซอร์วิสไว้ให้เธอแล้วละ"  เอลิซากระซิบเบาๆ กับเฮย์ลีย์ที่หันมายิ้มแหยๆ อยู่ริมแก้วไวน์แดงราคาแพงหูดับ  "มันไม่อิ่มหรอก  ฉันยังไม่อิ่มเลย  อย่างเธอน่ะไม่ต้องพูดถึง"

"อือ  คนมีเงินเขากินกันแค่นี้อิ่มจริงๆ เหรอ"  เฮย์ลีย์ถาม  อาหารที่กินไปทั้งหมดในโต๊ะนี้ยังไม่ถึงครึ่งกับมื้อเช้าปกติของเธอเลย  "ถ้าต้องจ่ายเองนี่  ฉันไม่มาเด็ดขาดเลยนะ  แล้วก็ไม่ได้อร่อยเลยด้วย"

"จุ๊ๆ เป็นประสบการณ์น่า"  เอลิซาพูดพลางยิ้ม  "ไว้กลับไปลอนดอนจะพาไปกินของอร่อย  สัญญาเลย"

"ห้ามเบี้ยวนะ"

"ไม่เบี้ยว  แต่ต้องแลกกับอะไรอย่างหนึ่ง"  เอลิซาว่า  ดวงตาพราวอย่างที่เฮย์ลีย์ชักระแวง  "ก็แค่เธอไปค้างโรงแรมกับฉัน  ช่วงที่ฉันอยู่ที่นี่"

เฮย์ลีย์ตั้งท่าจะปฏิเสธ  แต่ก็ถูกดักคอ

"เธอจะไปเป็นก้างสองคนนั้นทำไมล่ะ  นั่นมันรังรักของพวกเขา  หรือเธออยากไปเป็นส่วนเกิน  นี่ฉันกำลังช่วยเธออยู่นะ  เฮย์ลีย์"

"เธอรู้จักพวกเขามานานเท่าไหร่แล้ว"  เฮย์ลีย์เปลี่ยนเรื่อง  ดูเหมือนเอลิซาก็ยินดีที่จะตอบอย่างภาคภูมิใจ 

"ฉันรู้จักบาร์บาร่า  พี่สาวของเดนท์ก่อน  เป็นเพื่อนกันสมัยเรียน  แล้วก็เลยได้เจอกับเดนท์บ้าง  เวลายายบาร์บต้องไปรับน้องกลับบ้านแทนพ่อแม่  เวลาพวกท่านไม่ว่าง  บางทีก็ต้องหนีบเอาเดนท์ไปด้วย  ถ้าเราอยากจะไปไหนกันต่อ  ส่วนมินอาก็มารู้จักตอนเกรด 12  ที่โรงเรียนกวดวิชาที่ฉันกับบาร์บไปเรียนเตรียมสอบเข้ามหาลัย  แต่เรื่องเดนท์กับยายมิน  ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหนเหมือนกันนะ  พอฉันมาคบเธอแล้ว  เราก็ห่างๆ กันไปน่ะ"

"เพราะเธอไม่เคยให้ฉันไปรู้จักเพื่อนเธอน่ะสิ"

"ให้รู้จักทำไม  เพื่อนฉันมีแต่หน้าตาดีๆ  ถ้าเธอเปลี่ยนใจก็แย่สิ"

เฮย์ลีย์มองแฟนสาวอย่างเหลือเชื่อ  หากเลือกกินแทนที่จะตอบโต้  ตาก็เหลือบมองว่าเอลิซาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจิ้มด้วยมือเดียว  ซึ่งเธอเดาไปแล้วเรียบร้อยว่ากำลังบันทึกเรื่องที่เกี่ยวกับดินเนอร์มื้อนี้ตามเจตนาหลักของการมาที่นี่  จริงๆ เธอไม่ค่อยชอบคนเล่นโทรศัพท์ระหว่างมื้ออาหาร  แต่เธอเว้นให้เอลิซาคนหนึ่ง  เพราะโทรศัพท์มือถือคล้ายจะเป็นอวัยวะที่ 33 ของผู้หญิงคนนี้เลยก็ว่าได้  บางครั้งเธอก็ต้องแอบปิดเครื่องทิ้งเวลาเราค้างด้วยกัน

ใครจะให้มันมาส่งเสียงรบกวนเวลาแบบนั้นล่ะ

"เราจะเข้าห้องกันเลยไหม  หรือไปเดินเล่นย่อยกันก่อน"

"กลับห้องเถอะ  ฉันสั่งรูมเซอร์วิสมาให้เธอนะ  จำได้ไหม  แล้วฉันก็ต้องเขียนรายงานส่งเจ้านายด้วย"  เอลิซาตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์  ดังนั้นเธอจึงไม่ได้เห็นสีหน้าเซ็งจัดของแฟน  และเพราะเฮย์ลีย์ซ่อนมันได้ดีด้วยการฉวยแก้วไวน์แดงของเธอไปดื่มจนแก้มแดงเรื่อ

"เบาๆ หน่อย  เฮย์  ของแพงนะ"

"โรงแรมเธอจ่ายไม่ใช่เหรอ"  เฮย์ลีย์ว่า  มองเอลิซาอย่างท้าทาย  และกวักมือเรียกบริกรมารินไวน์เติมให้  "นานๆ ทีน่า  ลิซ่า  แค่นี้เธอกระเป๋าไม่ฉีกอยู่แล้วแหละ"

"โอเค  แล้วอย่าเมาจนฉันต้องทิ้งเธอไว้ที่นี่ให้พวกเขาหามกลับล่ะ"

"ก็ไม่ได้คออ่อนขนาดนั้นมั้ง"  เฮย์ลีย์งึมงำเสียงงอน  แอลกอฮอลล์เริ่มจะทำพิษเธอหน่อยๆ แล้วละ  "แล้วเธอก็ไม่กล้าทิ้งฉันไว้ที่นี่หรอก  ลิซ่า"

"มั่นใจจริงนะ"  เอลิซาสะบัดเสียงหมั่นไส้  เตะขาเฮย์ลีย์อยู่ใต้โต๊ะ

.............................................

เอเดนกับมินอาเดินคุยเล่นกันด้วยรอยยิ้มมาตลอดทางกลับห้องพัก  ทั้งสองมีความสุขมาก  ทริปนี้มันวิเศษมากสำหรับพวกเธอ  คุ้มค่าการรอมาถึงสองปีสำหรับเอเดน  เธอจะเก็บความสุขของวันนี้เป็นทุนไว้ใช้ยามต้องอยู่ห่างจากแฟนสาวอีกครั้งเมื่อมินอาต้องกลับไปทำงาน  และเธอกลับไปเรียน  ไปใช้ชีวิตของเรา  อีกสามปีเท่านั้น  เธอต้องทนอีกเพียงสามปี  ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด  เธอจะได้กลับซานฟรานซิสโกไปอยู่กับพี่สาว  และมินอาซึ่งสัญญาว่าจะเลิกเตร่ไปทั่วโลกแล้วเด็ดขาด

"ยิ้มไม่หุบเลย  ไม่เมื่อยปากหรือไง"  มิอาแซวทั้งที่ตัวเธอเองก็ยิ้ม

"ก็ฉันมีความสุขนี่คะ"  เอเดนตอบ  เหลือบมองซ้ายขวา  แล้วก้มลงหอมแก้มแฟนสาว  มินอายกสองแขนขึ้นกอดคอเธอเหมือนเด็ก  มีแฟนตัวเล็กก็ดีแบบนี้เอง  ทั้งน่ารัก  หน้าเด็ก  กอดเหมาะมือไปหมด  แล้วตัวเธอก็ใช่ว่าจะตัวใหญ่อะไร  ถ้านึกอยากอุ้มแฟนขึ้นมาคงลำบากแย่  หากมินอาไม่ตัวเท่านี้

"ฉันรักพี่มากนะคะ"

"พี่รักมากกว่า"  มินอาพูด  หัวเราะคิกเมื่อแฟนเด็กครางเสียงงอน  "พี่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ละ  เดนท์  ไม่สิ  พี่มีเรื่องจะบอกเรา"

"อะไรคะ"  เอเดนถาม  แขนยาวโอบไหล่มินอาขณะที่คนตัวเล็กกอดเอวเธอ  เดินไปด้วยกัน  มันอุ่นทั้งตัวอุ่นไปทั้งใจ  ต่อให้แขกคนอื่นๆ ของโรงแรมระดับเจ็ดดาวแห่งนี้จะมองพวกเธออย่างไร  ก็ไม่สำคัญทั้งนั้น

"เรื่องดีหรือไม่ดีคะ"

"ดีมั้ง  ดีสำหรับพี่แหละ"  มินอาตอบ  "แต่เดนท์จะว่าดีหรือเปล่าไม่รู้"

"ก็ลองบอกมาสิคะ"

"เจ้านายให้พี่ไปประจำที่ปารีสปีนึงละ  แต่พี่ก็ยังเป็นช่างภาพอิสระอยู่นะ  แค่ทำงานส่งให้พวกเขาเยอะกว่าที่อื่น  เดนท์ว่าดีหรือเปล่าล่ะ  พี่จะได้มีรายได้ประจำ"

"ปารีส?"

มินอากะพริบตา  แม้เอเดนจะสนใจเรื่องที่อยู่ของเธอมากกว่าที่เธอยอมทำงานให้กับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง  ไม่ใช่รับจ้างไปทั่วเหมือนก่อน  "ช่าย  ใกล้ที่นี่มากขึ้นไง  ใกล้กว่าซานฟราน  พี่จะได้มาหาเธอบ่อยๆ  หรือเธอไม่อยากให้พี่มาหา  ไม่มาก็ได้นะ"

"ใครว่าล่ะคะ  ฉันดีใจมากเลยนะเนี่ย"  เอเดนรีบพูด  ดึงตัวแฟนสาวเข้ามากอดจนแน่น  "ฉันนั่งรถไฟไปหาพี่ก็ได้  ถ้าพี่ไม่ว่างมา"       

"ให้มันจริงเถอะเรา  ตั้งใจเรียนดีกว่ามั้ง  จะได้เรียนจบไวไว"

"แล้วแต่งงานกันเนอะ"

"ใครบอกจะแต่งด้วย"

"ก็พี่ไง  พี่สัญญากับฉันไว้  อย่านึกว่าฉันจำไม่ได้นะ"

มินอาหลับตา  แกล้งทำเป็นไม่ฟัง  แล้วร้องวี้ดเมื่อรู้สึกว่าตัวเธอลอยขึ้นจากพื้น  "เดนท์  อย่า  อายคนอื่น!"

"ไม่เห็นต้องอายเลย  ไม่มีใครมองเราหรอก"

"ใครบอกไม่มีใครมอง  ปล่อยพี่ลงนะ  เดนท์!"

"บอกก่อนสิคะ  ว่าเราจะแต่งงานกัน  ไม่งั้นก็อยู่แบบนี้แหละ"

"เอเดน"

"ว่าไงคะ  มินอา"  เอเดนเลียนเสียงแฟนสาว  หัวเราะในลำคอขณะที่มินอาค้อนตาประหลับประเหลือก  ใช่ว่าเธอไม่อาย  ที่อุ้มผู้หญิงทั้งที่ตัวเองก็เป็นผู้หญิง  ถึงตรงนี้จะเป็นสวนซึ่งไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน  หากคู่รักรุ่นดึกบางคนก็นั่งเล่นกันชื่นชมธรรมชาติกันอยู่  และมองพวกเธอด้วยสายตาแปลกๆ

"ว่าไงคะ  ที่รัก"

"โอเคๆ  แต่งก็แต่ง  มาขอก็แล้วกัน"  มินอาสะบัดเสียงคล้ายไม่พอใจ  แต่ยิ้มบนใบหน้าของเธอไม่ได้บอกแบบนั้นเลย  "ปล่อยพี่ลงได้แล้ว  เดนท์"

เอเดนไม่อยากจะทำตาม  หากสายตาเหลือบไปเห็นเฮย์ลีย์กับเอลิซากำลังเดินมาทางนี้  จึงต้องยอมปล่อยแฟนสาวตัวน้อยของตนลงพื้น  และโดนมือเล็กๆ ทุบไหล่รัวๆ  แต่ก่อนเธอจะตัวช้ำมากไปกว่านี้  เสียงเอลิซาก็ดังขึ้นขัด

"นี่ๆ หยอกกันเบาๆ หน่อยสิ  นี่น้องสาวเพื่อนรักฉันนะ  ยายมิน"

"น้องสาวเพื่อนเธอ  แต่สามีฉัน"  มินอาย้อน  สอดแขนกอดเอวเอเดนอย่างหวงแหน  ลืมไปเลยว่างอนกันอยู่  คนถูกกอดก็ยิ้มดีใจ  อยากจะฟัดกันเสียเดี๋ยวนี้  หากไม่เกรงใจสายตาเอลิซาและเฮย์ลีย์โดยเฉพาะคนหลัง  เฮย์ลีย์มองพวกเธอด้วยสายตาแปลกๆ อย่างไรไม่ทราบ  อาจเพราะไม่เคยเห็น

"พูดได้เต็มปากมาก  ไม่รู้จักอายเล้ย"  เอลิซาแขวะ  แต่เหมือนล้อกันมากกว่า  พลางส่งยิ้มให้เอเดนอย่างเอ็นดู  "พายายเตี้ยนั่นกลับห้องไปเถอะ  เดนท์  ไปทำโทษแทนพี่หน่อยเถอะ  ไม่ไหวเลยจริงๆ"

"นี่อย่ามาว่าฉันนะ  พาคนของตัวเองไปนอนเหอะ  ดูท่าทางจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน  เมาป่าวคะนั่น  เฮย์ลีย์"

เฮย์ลีย์สะดุ้ง  หันมาหามินอาแทนคนที่ไม่ได้มองเธอ

"นิดหน่อยค่ะ  ดื่มไวน์ไปหลายแก้วอยู่"  เฮย์ลีย์ตอบมินอา  แต่สายตากลับมองเอเดนที่ก็ยังไม่ได้มองเธออยู่ดี  น้องมองแต่แฟนของเขาแบบทุกครั้ง  หรือต่อให้มอง  ในดวงตาคมกริบของเอเดนก็มีเพียงมินอาคนเดียว 

มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วนี่นา

"งั้นราตรีสวัสดิ์ค่ะ  ลิซ่า  เฮย์ลีย์  พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะคะ"  เอเดนบอกกับสองสาว  สบตาเฮย์ลีย์และยิ้มให้นิดหนึ่ง  ก่อนวาดแขนโอบไหล่มินอา  เตรียมจะพากลับห้องพัก 

"เดนท์  อย่าหักโหมนะคะ  พรุ่งนี้เราจะนั่งรถไฟไปเที่ยวต่อ"  เอลิซาร้องแซวตามหลัง  มินอาจะหันมาต่อว่า  แต่เอเดนชิงขานรับก่อน  และพากันเดินจากไปพร้อมเสียงพูดคุยหยอกเย้ากันตลอดทาง

"น่ารักเนอะ"

"ประเจิดประเจ้อชะมัด"  เฮย์ลีย์พูดเสียงห้วน  สะบัดหัวไปมาไล่ความมึน  ไม่น่าดื่มไวน์ไปมากขนาดนั้นเลย  "เธอจะกลับห้องหรือยัง  ลิซ่า"

"กลับๆ  กลับสิ  ทำไมจะต้องดุด้วยล่ะ"  เอลิซาบ่น  เดินเข้ามาช่วยพยุงคนตัวสูงกว่าที่ยังทำหน้าตึงใส่เธอไม่เลิก  "เป็นอะไร  อิจฉาพวกเขาเหรอ"

"บ้าเหรอ  ทำไมฉันจะต้องอิจฉาพวกเขาด้วย  เธอต่างหากที่อิจฉา"

"แหงล่ะ  ก็พวกเขาพูดกันจนถึงขั้นจะแต่งงานกันแล้วนี่  แต่ดูเธอสิ"

"ทำไม  ฉันทำไมเหรอ  พูดให้ดีๆ นะ  เอลิซา"

"ทีหลังเธอไม่ต้องกินเลยนะ  ไวน์  ถ้ากินแล้วนิสัยเสียแบบนี้"

"ฉันเปล่า"

"หุบปากไปเลยนะ  เฮย์ลีย์  ไม่อย่างนั้นฉันจะฟาดกบาลเธอซะ"

เฮย์ลีย์เงียบกริบทันตา  ไม่มีแม้แต่จะบ่นงุ้งงิ้งให้ได้ยิน  เอลิซายิ้มขำ  ส่ายศีรษะไปมา  ว่าจะโกรธคนเมาสักหน่อย  ก็กลายเป็นโกรธไม่ลงไปซะแล้ว

"จริงๆ  ฉันก็อยากแต่งงานนะ  ถ้ามีคนมาขอ"  เอลิซาพูดเบาๆ ขณะทำตัวเป็นไม้เท้าให้คนเมา  เฮย์ลีย์หันขวับมาจ้องหน้าเธอ  มีแววหวาดกลัวอยู่ในดวงตา  เธอจึงยิ้มและพูดต่อ  "เธอก็มาขอสิ  ถ้ากลัวนักน่ะ"

เฮย์ลีย์ทำหน้าตาสยดสยองกว่าเดิมเสียอีก


.........................


เฮย์ลีย์ถูกลากออกมาจากห้องพักทั้งที่ยังรู้สึกเหมือนถูกใครเอาอะไรมาทุบหัวอยู่ตลอดเวลา  ตอนนี้เธอก็มานั่งมึนๆ อยู่ในรถไฟ Bluebell Railway  เข้าสู่ชนบทของลอนดอนตามตารางเดินทางท่องเที่ยวของเรา  เธอถามเอลิซาว่าทำไมจะต้องนั่งรถไฟด้วยทั้งที่เช่ารถมากันแล้ว  แฟนเธอก็บอกว่าอยากจะได้บรรยากาศของการท่องเที่ยวแบบนี้บ้าง  เอเดนกับมินอาก็เห็นดีเห็นงามด้วย  ก็เป็นอันว่าไม่ต้องเปิดโหวตก็รู้ผลแพ้ชนะขาดลอย  และจริงๆ มันก็คงสนุกดีอยู่  ถ้าเธอไม่มึนหัวขนาดนี้  ไวน์แพงหูดับนั่นมันทำพิษเธอหนักกว่าที่คิดไว้

"ลิซ่า  ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ"  เฮย์ลีย์เอ่ย  เริ่มไม่ไหวกับอาการเหมือนจะขย้อนแซนด์วิชไก่ครึ่งชิ้นที่กินมาจากคฤหาสน์  มื้อเช้าฟรีที่โรงแรมจัดไว้ให้  เธอเสียดายอีกครึ่งชิ้นที่ต้องทิ้งไป  หากเป็นเวลาปกติหนึ่งชิ้นก็ไม่พอแน่

"ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม"  เอลิซาถาม  จะลุกตามเฮย์ลีย์ไป  พอดีกับที่เอเดนซึ่งอาสาไปซื้อเครื่องดื่มมาให้เราโผล่กลับมา  "เดนท์  มาได้จังหวะเลย  ช่วยไปเป็นเพื่อนเฮย์ลีย์หน่อยสิคะ"

"ได้ค่ะ  งั้นลิซ่ารับของหน่อย"

"เอ่อ  ไม่ต้องลำบากหรอก  ฉันไปคนเดียวได้"

"อย่าไปฟัง  เดนท์  เมื่อคืนอ้วกทั้งคืน  พี่แทบไม่ได้นอน  ทีหลังห้ามกินเลยนะ  คออ่อนก็ยอมรับซะบ้าง"

"ลิซ่า  เอาไมค์ไหม  ประกาศให้คนทั้งโบกี้ได้ยินเลยสิ"  เฮย์ลีย์ประชด

"นี่ฉันพูดความจริงนะ  ฉันเตือนเธอแล้ว"  เอลิซาก็ไม่ยอมแพ้  ทั้งสองตั้งท่าจะห้ำหั่นกันต่อ  หากมินอาไม่ส่งเสียงแทรกขึ้นมาก่อน

"นี่พอเถอะ  รบกวนคนอื่น"

"ก็มันจริงนี่  ยายมิน  เธอไม่รู้อะไรหรอก"

"ใช่  ฉันไม่รู้  และฉันไม่สนใจด้วย"  มินอาว่า  เสียงดุ  และเอลิซารู้ดีว่าสาวตัวเล็กเอาจริงจึงเงียบกริบ  รูดซิปปากทันที  ส่วนเอเดนก็รู้งานดีเช่นกัน  จึงขยับให้ทางเฮย์ลีย์พร้อมกับพยักหน้าชวนให้เดินออกไปก่อน  "เดนท์  รีบกลับมานะคะ"

เอเดนยิ้มรับคำแฟนสาว  แล้วเดินตามเฮย์ลีย์มาจนใกล้

"ไม่ต้องพยุงค่ะ  ฉันยังเดินไหว"  เฮย์ลีย์ชิงพูดก่อนที่คนชอบบริการจะทำอะไรให้เธออีก  ถึงจะชอบมัน  แต่เธอไม่บริสุทธ์ใจที่จะรับมันไว้

"ฉันมียาแก้ปวดหัวอยู่ในกระเป๋า  กลับไปที่นั่งแล้วจะเอาให้นะคะ"

"เดนท์  อย่าดีกับฉันมากนักเลยนะ"

เอเดนเลิกคิ้ว  ไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อ  จนกระทั่งเธอถูกดึงคอเสื้อให้เข้าไปในห้องน้ำด้วย  และเฮย์ลีย์รีบปิดประตูกับยืนขวางมันไว้

"บอกสิว่า  เธอเข้าใจว่าฉันจะทำอะไร  อย่าทำหน้าตาซื่อบื้ออย่างนี้  ฉันเตือนเธอแล้วใช่ไหม  เอเดน  ว่าอย่าดีกับคนไปทั่ว  เพราะมันจะ --"

"คุณไม่ทำหรอกค่ะ  เฮย์ลีย์  คุณไม่ใช่คนแบบนั้น"

เฮย์ลีย์ขมวดคิ้ว  ไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่าในสถานการณ์แบบนี้  เอเดนก็ยังใจเย็นได้อยู่อีก  หรือเธอไม่ได้น่ากลัว  "แบบนั้นคือแบบไหน  เธอจะรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่ใช่  ขนาดตัวฉันก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเลย"

"ไม่ว่าคุณคิดจะทำอะไร  ฉันเชื่อว่าคุณจะไม่ทำมันหรอกค่ะ  เพราะถ้าคุณจะทำ  คุณคงทำมันแล้วละ  ไม่มัวมาพูดอยู่แบบนี้  จริงไหมคะ"

เฮย์ลีย์จ้องหน้าเอเดนนิ่งๆ  สองนาทีให้หลังเธอก็สั่นศีรษะ  แล้วขยับออกจากประตู  พยักหน้าให้เอเดนอย่างจำยอม 

เอเดนลอบถอนหายใจโล่งอก  จริงๆ ก็ตกใจไม่น้อย  จากนี้ไปเธอคงต้องระวังตัวให้มากขึ้น  จริงอย่างที่แอนนาแม่บ้านดูแลอพาร์ตเมนต์เตือนเอาไว้  คนแปลกหน้าจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็อันตรายเหมือนๆ กัน  ถึงอย่างนั้น...

"ฉันยังไว้ใจคุณอยู่นะคะ  เฮย์ลีย์"

เฮย์ลีย์หลับตาแน่น  เสียงใจดีของเอเดนคล้ายกับเข็มมาทิ่มสมองเธอให้เจ็บไปหมด  เธอจึงต้องโบกมือให้อีกฝ่ายรีบๆ เดินออกไปเสีย 

"ฉันจะรออยู่ข้างนอกนะคะ  ถ้ามีอะไรก็เรียกได้เลย  ไม่ต้องเกรงใจ"

"ฉันจะไม่ทนเธอแล้วนะ  เอเดน" 

เสียงตวาดดังออกมาจากห้องน้ำก่อนประตูจะถูกปิดดังปัง  เอเดนยืนกะพริบตาปริบๆ  หลายคนที่มาต่อคิวเข้าห้องน้ำมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ  หากเธอกลับขยับเดินไปหลบมุมไม่ให้เกะกะพวกเขาและล้วงโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าแจ็กเกตมากดเล่นเกมแทนที่จะสนใจ



..........................


ตอนใหม่ซิงๆ   :21: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

14 ธันวาคม 2017 เวลา 22:29:31
 :42: อ่านแล้วโสดดีกว่า :65:
แสดงความคิดเห็น