web stats

ข่าว

 


Angels & Devils_S4 - บทที่ 2 Get to You

โพสต์โดย: anhann วันที่: 01 ธันวาคม 2017 เวลา 21:53:11 อ่าน: 208



บทที่ 2 Get to You





กาเบรียลไม่ใช่ทั้งผู้หญิงและผู้ชายตามที่เธอรู้มา  ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้สึกเคยชินแล้ว  กับการเห็นชายหนุ่มคนนี้มาแทนที่หญิงสาวหน้าคม  มองเขาถอดเสื้อออกโชว์รูปร่างกำยำแข็งแรง  พลางปลดกระดุมกางเกงยีนและรูดซิปให้เขา  เชื้อเชิญเขาเข้ามาในร่างกายของเธอ  ทำให้เรามีความสุขด้วยกัน  ให้เขาได้รู้สึกถึงตัวเธอเหมือนที่เธอรู้สึกถึงเขา 

"เฟท  ท้องฉันค้ำ"  เบย์ลีส์กระซิบบอก  เธออึดอัดทั้งจากน้ำหนักตัวของเขากับลูกในท้องและส่วนหนึ่งของเขาในตัวเธอ  มันอาจไม่ใช่เรื่องดีที่มีเพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์สี่เดือน  มันเสี่ยงต่อทั้งตัวเธอและเด็ก  แต่เธอต้องการมัน  ฮอร์โมนของคุณแม่มันทำให้เธอรู้สึกโหยหาเป็นพิเศษ  อยากให้สามีเอาอกเอาใจจนต้องลืมความอายและเอ่ยบอกกับเขาตรงๆ

"งั้นก็  แบบนี้ดีกว่า"  เฟทพูด  ช้อนตัวภรรยาสาวขึ้นมานั่งบนตักอย่างระวัง  พลางเล้าโลมกันต่อ  ทรวงอกของเบย์ลีส์ขยายใหญ่ขึ้นจากการสะสมของน้ำนมเพื่อลูกของเรา  หากกลับเป็นประโยชน์กับการทำเรื่องนี้ด้วย  มันทำให้ว่าที่คุณแม่อ่อนไหวกว่าปกติเวลาถูกสัมผัส  และแม้ปากจะบอกว่าเจ็บมาก  แต่ก็เรียกร้องให้สนใจกันอยู่เรื่อย  เหมือนอย่างตอนนี้

"เฟท  จับแรงๆ หน่อยสิ  ฉันไม่รู้สึก"  เบย์ลีส์สั่งเสียงสะท้าน  ขยับสะโพกเร็วขึ้น  เร่งตัวเองให้ไปถึงจุดหมายที่อยากได้  มือใหญ่ของชายหนุ่มบีบแก้มก้นเธอขณะที่เขาช่วยจับเธอโยกเข้าใส่ตัวเขา  เขาคำรามในอกราวกับเจ็บปวดไม่ต่างกัน  ร่างกายเธอคงทรมานเขาไม่น้อย

"เฟท  บางทีฉันอาจทำแบบนี้ไม่ได้แล้วมั้ง"

"ใจเย็นสิคะ  ที่รัก  ใจเย็นๆ นะ  ค่อยๆ  เบย์ลีส์  ไม่ต้องรีบ  เรายังมีเวลากันทั้งวัน"  เฟทพูด  จูบปากภรรยาแนบแน่น  พลางลดมือลงแทรกเข้าไประหว่างความเชื่อมโยงของสองเรา  นิ้วเรียวยาวหยอกเอินจุดอ่อนไหวของหญิงสาว  ช่วยกระตุ้นเพิ่มจนเบย์ลีส์ครางอย่างพึงใจในปากเขา  ร่างกายของเธอตอบรับการเอาใจนี้อย่างดี  จนกระทั่งมันสำเร็จในที่สุด

"ฉันนึกว่าลูกจะไหลออกมาแล้วซะอีก"  เบย์ลีส์พึมพำอ่อนล้าอยู่บนแผงอกคุณสามี  เฟทอยู่กับเธอในร่างนี้บ่อยขึ้นคล้ายกับต้องการเอาใจ  ที่จริงมันก็ไม่เกี่ยวอะไรนัก  บางทีเธอยังรู้สึกชอบเฟทในร่างผู้หญิงมากกว่าด้วยซ้ำ  หรือบางทีเฟทอาจอยากจะลบล้างสัมผัสของคนอื่นที่ยังหลงเหลืออยู่ในซอกมุมลึกลับที่ไหนสักที่ในตัวเธอก็ได้

ถ้าเธอรู้ว่าเฟทจะกลับมาหา  เธอก็คงจะไม่ทำแบบนั้น  คงไม่ยอมเปลืองตัวไปกับใคร  ถึงตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว  เธอไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่อง  ไม่เหมาะจะเป็นแม่ของลูกเฟทด้วย...

"ชู่ววว  เบย์ลีส์  หยุดคิดแบบนั้นนะคะ  นอนนะ  ที่รัก  นะคะคนดี"

"แอบอ่านใจฉันอีกแล้วนะ  เฟท"

"ไม่ได้แอบ  อ่านตรงๆ นี่แหละค่ะ"  เฟทว่า  เบย์ลีส์ฟาดไหล่หนาๆ ไปหนึ่งที  เฟทก็ยังหัวเราะในลำคอ  พลางลูบหน้าท้องสี่เดือนเศษของเธออย่างรักใคร่  มันอบอุ่นจนเธอเก๊กหน้านิ่งไม่ไหวเลย

"เธอทำไมเลือกฉัน  เฟท  ฉันยังไม่เข้าใจเลยนะ"

"ไม่เห็นต้องถามเลย  ก็เพราะรักสิคะ"  เฟทบอกด้วยรอยยิ้ม

"รักทำไม  คนอย่างฉันเนี่ยนะ"

"อือ  ทำไมจะรักไม่ได้ล่ะคะ  น่ารักออกอย่างนี้"

เบย์ลีส์กลั้นยิ้มไม่อยู่แล้ว  เธอจึงต้องซ่อนมันไว้ตรงซอกคอผู้ชาย  เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเธอจนเคลิ้ม  อยากแข็งใจไม่หลับ  อยากคุยกับเขาต่อ  แต่เขาก็เอาแต่กล่อมเธออยู่แบบนี้  คล้ายจะหนีไปไหนระหว่างที่เธอหลับสนิท

"มิคาเอลมาทำไม"

เฟทเลิกคิ้ว  คิดไม่ถึงว่าเบย์ลีส์จะรู้

"ฉันเป็นผู้ที่ถูกเลือกนะ  เธอไม่รู้เหรอว่า  ใครเลือกฉันมา"

"อา..."  เฟทคราง  ลืมสนิทเลยเรื่องนี้  "เขามาเยี่ยมเธอ  แต่ฉันห้ามเอาไว้  บอกว่าเธอต้องพักผ่อน  ไว้วันอื่นละกันนะคะ"

"เหรอ  นึกว่าเธอหวงฉันซะอีก"

"แหม  ก็นิดนึงสิคะ  หมอนั่นเล่นใช้ร่างเดสทินีเลยนะ  ตาสีฟ้าด้วย"

"หมอนั่น?  เขาเป็นผู้ชายเหรอ"

เฟททำหน้าระลึกได้เมื่อถูกนัยน์ตาสีเขียวจ้องอย่างสงสัย  "ไม่เชิง  เขาก็เหมือนฉันแหละ  ไม่มีรูปร่างที่แท้จริง  แต่บางทีตอนนี้เขาอาจชอบเป็นผู้หญิงมากกว่าก็ได้  แบบเคซีย์กับเอวา  รู้สึกจะชินไปแล้วละ"

"ประหลาดดีนะ  พวกไม่มีเพศ"

"เอ๋  เธอพูดเหมือนพวกฉันเป็นสัตว์ประหลาด  นี่เทวทูตนะคะ ที่รัก"

"ทราบค่า  ที่รัก"  เบย์ลีส์ขานรับ  เสียงขี้เล่น  ขยับขึ้นจูบริมฝีปากเฟทที่ลูบไล้ส่วนเว้าส่วนโค้งของเธออย่างปรารถนา  ทำให้เธอเพลิดเพลินกับการถูกสัมผัส  เขาทั้งอ่อนโยนและเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน 

"นี่  อย่าให้เขาทำอะไรเบลคนะ  รู้ไหม"  เธอพูด  เฟทเลิกคิ้วสงสัย

"ก็พวกคุณๆ น่ะ  ไม่เหมือนชาวบ้านเขานี่คะ  อย่าทำให้เด็กตกใจสิ  คนนี้น่ะฉันขอ  ถ้าไม่จริงใจด้วย  ห้ามมายุ่งเด็ดขาด  แค่เธอคนเดียวพอแล้ว  เข้าใจไหม  เฟท"

"โอ้โห  รัศมีปกป้องของคุณแม่มาเองเลย"  เฟทล้อเลียน  แอบเกร็งไม่น้อย  เบย์ลีส์ไม่ใช่แค่ขู่  ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวจริง  ถ้าเป็นไปได้อย่าให้โกรธกันเลยจะดีกว่า

"ก็ฉันจะเป็นแม่อยู่แล้วนี่  ใครทำก็ไม่รู้"

"เอ่อ  นั่นสิ  ใครทำนะ"

เบย์ลีส์ฟาดมือลงบนอกคนตัวโต  เฟททำหน้าจุก  หากพอเธอยื่นหน้าไปจูบตรงนั้น  ปลอบขวัญ  เขาก็ฮัมรับพอใจ  พลางลูบศีรษะเธอราวกับเธอเป็นเด็กเสี่ย  เพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาให้โดนทุบอีกรอบ

"เฟท  ทำไมฉันมองไม่เห็นฟินน์บ้างนะ  เบลคยังเห็นเลย"

"ยังไม่ต้องรีบเห็นหรอกค่ะ  เดี๋ยวตกใจ"

"ทำไมล่ะ  ลูกเราไม่น่ารักเหรอ"

เฟทยังไม่ตอบ  หากชำเลืองมองเด็กหญิงตัวน้อยที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงที่นั่งริมหน้าต่าง  นัยน์ตาสีเขียวจัดแบบเดียวกับมารดาเหลือบขึ้นสบสายตาเขา  เธอเหมือนจะเคืองๆ เขานิดหน่อย  คงเพราะถูกรบกวนแน่ๆ

"ว่าไงล่ะ  เฟท  ทำไม..."

"น่ารักค่ะ  น่ารัก  แต่ก็น่ากลัวด้วย"

เบย์ลีส์ขมวดคิ้วสงสัย  มองตามสายตาสามีไปยังริมหน้าต่าง  เธอมองไม่เห็นลูกสาว  หากรู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของลูก  "ตายจริง!  เขาอยู่ที่นี่  เฟท  ทำไมเธอไม่บอกฉัน  ฉันอายลูกนะ"  เฟทหัวเราะ  มองภรรยารีบดึงผ้าห่มมาคลุมตัวจนถึงคอ  แถมยังหันมาค้อนกันตาประหลับประเหลือก 

"เขาชินแล้วแหละ  เบย์  แล้วพอเขาเกิด  เขาก็ลืมมันหมดแล้ว"

"จริงอะ"

"จริงสิคะ"  เฟทตอบ  รวบตัวภรรยาสาวมากอด  จูบหน้าผากอย่างรักใคร่  เบย์ลีส์จึงหลับตาลงอย่างว่าง่าย  เปิดโอกาสให้เขาขยิบตาให้ฟินน์

"แด๊ดดี้ขี้โม้"  ลูกสาวพูด  สะบัดหน้าให้เขาอย่างงอนๆ  แล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย 

เฟทหัวเราะเบาๆ ในลำคอ  อดนึกถึงตอนเบย์ลีส์ยังเป็นเด็กตัวน้อยเท่ากับฟินน์ตอนนี้ไม่ได้เลย  เหมือนแม่มากไปแล้วนะ  ยายหนู

............................................


เบลคซุกตัวอยู่ในเก้าอี้หนังอย่างดีขนาดใหญ่เท่ากับที่ผู้ชายตัวโตๆ คนหนึ่งจะนั่งเล่นได้สบาย  ตอนนี้เธอก็สบายอยู่กับมันเหมือนกัน  ในมือเธอมีหนังสือ  บนตักมีกล่องคุกกี้  บนตัวมีผ้าห่มอุ่นๆ  แถมอยู่หน้าเตาผิงซะด้วย  ให้บรรยากาศเดียวกับห้องนั่งเล่นในบ้านกริฟฟินดอร์ที่ฮอกวอตส์เลยเชียว  เธอแทบจะเห็นแฮร์รี  รอนและเฮอร์ไมโอนี่นั่งประชุมปรึกษากันอยู่แถวนี้เลย

เธอว่ามันคงดีกว่าเห็นเด็กผู้หญิงผมทองหน้านิ่งๆ นั่งเขี่ยเตาผิงเล่นด้วยเหล็กเขี่ยฟืนอยู่ตรงนั้นละ  ลูกใครทำไมไม่มาเรียกไปนะ

"นี่  กินคุกกี้ไหม"  เบลคชวน  มองร่างเล็กๆ ในชุดกระโปรงราวกับเจ้าหญิงตัวน้อยอย่างรอคอยคำตอบ  ประมาณสองนาที  ฟินน์ก็ยอมหันมาสบตาเธอด้วยดวงตาสีเขียวจัดเหมือนมารดา  มันน่าทึ่งและเหลือเชื่อมาก  เธอได้เจอเด็กคนนี้ก่อนเขาจะลืมตาดูโลกจริงๆ เสียอีก  ขนาดเบย์ลีส์ยังไม่เคยเห็นลูกตัวเองเลย  ฟินน์เป็นตัวอะไรไม่รู้  เธอรู้แค่เขาเป็นลูกสาวเทวดา

"อา  กินไม่ได้สินะ"  เธอพูด  ยังไม่ทันขาดคำ  คุกกี้ที่จะเข้าปากเธอก็หายวับไปอยู่ในมือของฟินน์แทนแล้ว  "เฮ้  จะกินก็มาขอกันดีๆ ก็ได้นี่"

"ทำไมต้องขอ  นี่ของแม่เรา"  ฟินน์ตอบ  กัดคุกกี้กินอย่างไม่สนใจ 

เบลคตาโตตกตะลึง  แทบจะคิดว่าตนหูฝาดที่ได้ยินเสียงเด็กผี  เอ้ย  เด็กลูกเทวดาคนนี้  "นี่เธอพูดได้ด้วยเหรอ  ไม่น่าเชื่อเลย"

"เรามีปากนี่  แล้วก็ไม่ได้เป็นใบ้ด้วย"  เด็กหญิงตอบ  เสียงรำคาญ  ร่างเล็กๆ กำลังจะหายไป  แต่เบลคก็จัดการส่งเสียงออกมาห้ามไว้ได้ทัน

"เฮ้  ตัวเล็ก  อยู่ด้วยกันก่อนสิ"

ฟินน์หันมามองเธอด้วยดวงตาว่างเปล่า  เบลคผุดลุกขึ้นนั่งตัวตรง  ยื่นกล่องคุกกี้ให้เป็นการกระชับมิตร  ลูกเทวดามองมันสลับกับมองตาเธอ  คล้ายๆ จะชั่งใจอยู่  ที่สุดก็ยอมเดินมาใกล้เธอ  เบลคพยายามอ่านท่าทางของฟินน์ว่าเจ้าตัวเล็กต้องการอะไรกันแน่  เพราะเอาแต่มองจ้องกล่องคุกกี้  จะหยิบก็ไม่ยอมหยิบ

"ทำไมเหรอ  ไม่อยากกินแล้วหรือไง"

"อยากอ่านหนังสือ  แต่ไม่อยากอ่านเอง"  เสียงเล็กๆ พูด  ตาสีเขียวมองสีฟ้าของเบลค 

"โอเค  เอางั้นก็ได้"  เบลคสรุป  พลางจัดท่านั่งบนเก้าอี้นวมเสียใหม่  ใช้สายตาเชื้อเชิญฟินน์  ในที่สุดเด็กผี  เอ้ย  ลูกสาวเทวดาก็มานั่งอยู่บนตักของเธอ  ตัวเบาจนเหมือนไม่มีน้ำหนักเลย  เสียงเล็กๆ สั่งให้เธออ่านหนังสือให้ฟังทั้งที่อ่านเองก็เป็น

"นี่  เหงาเหรอ  ฉันก็เหงานะ  มาคุยกันบ่อยๆ ก็ได้"  เธอกระซิบระหว่างมองหน้าเล็กๆ ของเด็กน้อย  ฟินน์ไม่ตอบ  เอาแต่มองหน้าเธอด้วยสายตาว่างเปล่า  หากครู่ต่อมาลูกเทวดาก็หน้าบึ้งขึ้นมากะทันหัน  แต่ไม่ทันที่เธอจะถาม  เสียงใครบางคนก็ดังขึ้นเป็นคำตอบให้

"ฟินน์  มาแกล้งอะไรเบลคคะลูก"  เฟทถาม  ดูขี้เล่นมากกว่าจะดุ

"เอ่อ  เขาไม่ได้แกล้ง"  เบลครีบพูดแทนเด็กหญิง  สายตาของฟินน์เริ่มอ่อนลง  เธอจึงเริ่มมั่นใจที่จะพูดต่อ  "เราแค่คุยกันเฉยๆ  อ่านหนังสือ  กินขนม  เอ่อ  คุกกี้ที่แม่บ้านอบมาเผื่อน่ะ"

เฟทเลิกคิ้ว  มองลูกสาว  ฟินน์สั่นศีรษะปฏิเสธคำชวนของเธอที่จะพาไปเดินเล่นกัน  "โอเค  งั้นลูกอยู่นี่ก็ได้  แต่อย่าซนนะคะ  ที่สำคัญ..."

"ไม่แกล้งหรอกน่า  แด๊ดดี้  หนูกับเบลคเป็นเพื่อนกัน"  ฟินน์ส่งเสียงพูดเป็นครั้งแรก  เบลคมองเด็กน้อยงงๆ  ขณะที่เฟทอมยิ้ม  เดินมาก้มลงจูบศีรษะลูกสาว

"แด๊ดจะพามัมมิเข้าเมืองนะ  ซื้อของสักหน่อย"

"หนูอยู่ได้  หนูจะปกป้องเบลคเอง  ถ้ามิคาเอลมา  หนูจะไล่ไปเลย"

เฟทกลั้นยิ้มขำ  ลูบศีรษะเล็กๆ ลูกสาว  ผงกศีรษะให้เบลคเล็กน้อย  ก่อนหมุนตัวเดินออกไปจากห้องนั่งเล่น  เบลคพ่นลมหายใจพรืด  ไม่รู้ตัวว่ากลั้นมันไว้ตอนไหน

"ไม่ต้องกลัวแด๊ดดี้หรอก  แด๊ดดี้ใจดีที่สุดในสวรรค์แล้วละ"  ฟินน์พูดขึ้นอย่างอ่านใจกันได้  เบลคยิ้มออก  พยักหน้าให้เด็กน้อยที่ยอมรับเธอเป็นเพื่อนใหม่  โดยมีข้อแม้ว่าเธอจะต้องอ่านหนังสือให้ฟังด้วยน้ำเสียงแบบเล่านิทานให้เด็กฟังต่อไป

..........................................

กี่ปีมาแล้วนะ  ที่เธอไม่ได้เดินเล่นในเมืองแบบนี้  แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยกับเมืองที่เธอเคยอยู่มาตั้งแต่เด็ก  ถึงจะไม่บ่อยที่เธอจะได้มาเดินอยู่ในเมืองแบบนี้  อย่าว่าแต่มาเดินเล่น  แค่ออกมานอกคฤหาสน์นั่นก็ยากแล้ว  เธอเรียนหนังสือที่บ้าน  พ่อเธอจ้างครูมาสอน  ไม่เคยได้ไปโรงเรียนแบบเด็กคนอื่น  พ่ออ้างว่ามันไกลจากบ้านเรา  การเดินทางอันตราย  ถนนไม่ค่อยดี  มันเป็นถนนดิน  เวลาฝนตก (มันตกอยู่บ่อยๆ)  รถก็จะติดหล่มได้ง่ายๆ  ลำบากต่อคนที่จะมาส่งเธอไปโรงเรียน  ซึ่งไม่ใช่ตัวเขา  เพราะเขาแทบจะไม่อยู่บ้านเลย  เป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน  เขาจึงจะกลับมาสักครั้ง  และเขาก็อยู่แค่สองสามวันแล้วกลับไปใหม่  แต่ถึงจะกลับมาแล้วเขาก็ไม่ค่อยจะพูดกับเธอสักเท่าไหร่  เขามักจะหมกตัวอยู่แต่ในห้องทำงาน  และเธอก็ทำได้แค่แอบมองผ่านประตูที่แง้มอยู่เท่านั้น  แม่นมที่เป็นแม่บ้านเก่าแก่และเป็นคนเลี้ยงเธอมา  จะต้องมาเรียกเธอไปหาอะไรทำให้คลายความเหงาลงเสมอ  คงจะสงสารเธอที่ไม่มีใครสนใจแม้กระทั่งพ่อแท้ๆ

"ทำหน้าเป็นเจ้าหญิงผู้โศกเศร้าอีกแล้ว"

เสียงเฟทดึงความสนใจของเธอกลับไปหาเขา  นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มมองทอดมายังตาสีเขียวของเธออย่างอ่อนโยน  เธอหลุบตาลงมองมือสวยๆ ที่ยื่นมาให้  แล้วก็อดยิ้มไม่ได้  จึงปลดมือที่กอดอกอยู่ส่งไปหามือนั้น

"ถ้าเดินไม่ไหวก็บอกนะคะ"

"ทำไมเหรอ  จะอุ้มหรือไง"  เบย์ลีส์ย้อน  ยิ้มให้คนแกล้งทำหน้าตาเจ็บปวดด้วยตอนนี้อยู่ในร่างผู้หญิงตัวสูงเพรียว  ไม่ใช่หนุ่มตี๋หล่อบนเตียงกับเธอเมื่อคืน  ถึงอย่างนั้นมือข้างนี้ก็อบอุ่นเหมือนเดิม 

เธอเพิ่งรู้สึกตัวว่าแสวงหาความอบอุ่นและความรักมากแค่ไหน  ขาดมันมากเท่าไหร่  จนมาเจอกับเฟท  เธอออกจากบ้าน  ข้ามน้ำข้ามทะเลไปอเมริกาโดยไม่รู้ว่าต้องการอะไร  ระหกระเหินเร่ร่อนเป็นเด็กสาวจรจัดอยู่นานแค่ไหนกว่าที่สวรรค์จะมองเห็นเธอ  เลือกเธอไปเป็นผู้รับใช้  แต่จนวันนี้เธอก็ยังไม่รู้ว่า  ที่จริงแล้วใครเป็นคนมองเห็นเธอก่อนจากบนนั้น

กาเบรียลหรือมิคาเอล

"จริงๆ ฉันอยากให้เธอคลอดที่นี่นะ  ที่นี่เหมาะกับการเลี้ยงเด็ก"

"ล็อกวูดก็ไม่ได้แย่อะไรนี่"  เบย์ลีส์แย้ง  "เราฝากท้องไว้ที่นั่น  แล้วเบลคก็ต้องกลับบ้าน  ฉันมีงานต้องทำ  ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้"

"ฉันรู้"  เฟทพึมพำ  สีหน้าไม่ใคร่สบายใจ  "แต่ก็ดีเหมือนกัน  อยู่ที่นี่เธอจะไม่มีใครดูแล  ถ้าฉันไม่อยู่  อย่างน้อยที่นั่นก็มีเคซีย์"

"เธอจะไปแล้วใช่ไหม  เฟท"  เบย์ลีส์ถาม  ใจหายจนในอกเบาโหวงไปหมด  ขอบตาเธอคงแดงแล้วแน่ๆ  มือเฟทจึงบีบมือเธอแน่นขึ้น  "ไม่เป็นไร  แค่ฉันอยากให้เธอมาเวลาฉันคลอด  จับมือฉันอย่างตอนนี้"

"ฉัน..."

"นี่  เธอก็บอกไปสิว่า  ต่อให้โดนแด๊ดดี้ล่ามโซ่ไว้ก็จะกระชากมันมาหาสุดที่รักให้ได้"

เฟทขมวดคิ้วฉับ  หันไปทำตาแข็งใส่คนหน้าเหมือนตัวเองที่มาเดินเคียงกัน  สองมือล้วงกระเป๋าเสื้อโค้ตตัวยาว  นัยน์ตาสีฟ้าวาวด้วยประกายสนุกสนาน  เส้นผมยาวประบ่าพลิ้วไปตามแรงลมที่อยู่ๆ ก็พัดแรงขึ้นมาเฉยๆ

"เดส --"

"มิคาเอล"

"เฮ้  หวัดดี  สาวน้อยของฉัน"  เดสทินีหรือมิคาเอลเมินหน้าตาบึ้งๆ ของเฟทไปโบกมือหยอยๆ ทักทายเบย์ลีส์ซึ่งยิ้มอย่างยินดีที่ได้เจอกัน

"ไม่เจอกันนานเลยนะคะ"

"ช่าย  นานมาก  เจอกันอีกที  เจ้านี่ทำเธอป่องเสียแล้ว  แย่ชะมัด  ฉันไม่น่ามาช้าเกินไปเลย"

"เฮ้  อย่ามายุ่งได้ไหม  เดส  มาทางไหนไปทางนั้นเลย"  เฟทไล่ผู้ที่เหมือนฝาแฝดของตน  หากเดสทินีก็ไม่สนใจเธออีกนั่นแหละ

"ฉันไปที่คฤหาสน์ก็เจอหนูน้อยฟินน์ไล่มา  ร้ายกาจเหมือนพ่อมัน"

"คุณเจอฟินน์ด้วยเหรอคะ  มิคาเอล"

"เรียกเดสทินีก็ได้  ตอนนี้ฉันชอบชื่อนี้  มันเข้าคู่กับเจ้านี่ดี"  เดสทินีบอกอย่างอารมณ์ดี  วาดแขนโอบไหล่เฟทที่ส่ายหน้าไปมาอย่างเบื่อหน่าย

"แหม  น้องรัก  เธอควรจะขอบใจฉันนะ  ที่ฉันช่วยขอแด๊ดดี้ต่อเวลาให้เธอได้อีกเดือนน่ะ"

"เดส..."

"หมายความว่ายังไงคะ  อีกเดือน"

"ก็หมายความว่า  สามีของเธอจะได้อยู่กับเธอที่นี่ต่ออีกเดือนไง  นับจากวันนี้ไป"

"นับจากวันนี้  แปลว่า..."  เบย์ลีส์ตกใจ  มองหน้าเฟทอย่างเคืองๆ  เธอเข้าใจแล้ว  ว่าเหตุใดพักนี้เฟทถึงเกาะติดเธอนัก  เพราะเขารู้แล้วว่าจะต้องจากไปแต่ไม่ยอมบอกเธอ  "จะไปโดยไม่ลาฉันอีกแล้วใช่ไหม  เฟท"

"โอ้  เฮ้  อย่าเพิ่งทะเลาะกันสิ  ฉันมาบอกข่าวดีใช่ไหม  เธอควรจะดีใจสิ  เบย์ลีส์  อย่าไปโมโหใส่เจ้านี่มันเลย  ใช่ว่ามันจะอยากไปจากเธอเสียเมื่อไหร่กันล่ะ  เวลาบอกลา  มันใจคอไม่ดี  รู้ไหม  สาวน้อย"

"เพราะงั้นก็เลยไปไม่ลาเหรอคะ" 

เดสทินีชะงัก  เธอก็พลอยโดนดุไปด้วยอีกคน

"ดุกว่าเจ้าฮังการีหางหนามอีกว่ะ  เฟท"

"นี่ฉันไม่ใช่มังกรนะ"

"ไม่ใช่ก็เริ่มจะคล้ายแล้วละ"  เดสทินีพึมพำ  เฟทต้องยกมือขึ้นปิดปากฝาแฝดตัวเอง  การถูกผู้หญิงท้องโกรธไม่ใช่เรื่องสนุกเลยสักนิดเดียว

"เบย์คะ  อย่าโมโหสิ  มันไม่ดีกับฟินน์นะ"  เฟทเกลี้ยกล่อมภรรยา  พยายามไม่สนใจสีหน้าล้อเลียนของเดสทินี  "ไปนั่งพักในคาเฟ่กันดีกว่านะ"

"ให้ฉันไปด้วยสิ"  เดสทินีส่งเสียงขึ้นมาหลังจากดึงมือเฟทออกจากปากได้สำเร็จ  "ฉันอยากรู้ว่ามนุษย์เป็นยังไง  คนอื่นที่ปกติดี  ไม่เหมือนเธอกับเด็กไอเซนเบิร์กที่บ้านโอซัลลิแวนนั่นน่ะ  เบย์ลีส์  ให้ฉันไปด้วยนะ"

"นี่เราไม่ได้เจอกันนานมากเลยใช่ไหมคะ  ฉันถึงจำไม่ได้ว่าปากคุณแย่กว่าเฟทเยอะเลย"

"เบย์คะ  อย่าเอาฉันมาเปรียบเทียบกับเจ้านี่สิ"  เฟทประท้วง  แต่เบย์ลีส์ไม่สนใจ  กลับสะบัดมือเธอออก  แล้วไปควงเดสทินีแทน  ฝาแฝดจอมกวนประสาทนั่นก็เหลียวมาโบกมือให้เธออย่างล้อเลียนระหว่างเดินไปพร้อมกับภรรยาของเธอ  หากเธอก็ทำเพียงส่ายหน้าไปมาอย่างเซ็งๆ  แล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า  ยกมือขวาขึ้นมาทาบบนอก  และโค้งศีรษะลงอย่างนอบน้อม  ก่อนเดินตามหลังสองคนนั้นไป

....................................................

เมเดอลินซุกตัวอยู่ในเสื้อโค้ตขนสัตว์  อากาศตอนกลางคืนของฤดูหนาวในล็อกวูด  แม้จะไม่ทรมานเท่ากับชิคาโกเพราะลมไม่แรงเท่า  หากก็ทำให้เธอรู้สึกขาดความอบอุ่นได้อย่างไม่ยาก  เธอเพิ่งออกมาจากโรงแรม  โดยทิ้งอาหารของเธอให้นอนสลบไสลอยู่บนเตียงในห้องสวีทนั้น  ตอนนี้เธอไม่รู้จะไปไหนดี  เธอไม่ได้กลับคฤหาสน์มืดมาสักระยะหนึ่งแล้ว  นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับแม่ที่บ้านเบนเนต  บ้านเดิมของแม่ก่อนแต่งงานกับพ่อ  เอ่อ...

ก็ลิลิธนั่นละ  หรือเรียกว่า  ราฟาเอล  น่าจะดีกว่ากระมัง

แสงไฟบนถนนลดลงเมื่อเธอเดินห่างจากจัตุรัสในเมืองมาจนจะถึงทางไปบ้านแม่  ร้านรวงต่างๆ  สองข้างทางพลิกป้ายจากเปิดเป็นปิดไปแล้วหลายร้าน  ความหนาวเย็นของอากาศทำให้ลูกค้าน้อยลงจนไม่คุ้มค่าไฟที่จะเปิดรอ  เหลือเพียงผับบางผับกับร้านอาหารที่ยังเปิดไฟอยู่บ้าง  แต่ละร้านก็อยู่ห่างกันจนเหมือนคนไม่ค่อยจะกินเส้นกัน  ป้ายไฟก็แย่งชิงกันดึงดูดสายตาลูกค้า  หากยังมีอยู่ร้านหนึ่งซึ่งใช้ป้ายสีสันไม่เหมือนใคร  ราวกับร้านขายของแอนทีคทั้งที่เป็นร้านขายชาสมุนไพร  ตกแต่งสไตล์ฝรั่งเศส

นัยน์ตาสีฟ้าสว่างมองจ้องศีรษะของใครบางคนที่โผล่อยู่ตรงผนังกระจกร้านด้านหลังตรงเคาน์เตอร์  ใครคนนั้นเธอรู้จักดี  เจ้าของร้านหน้าตาไม่รับแขกนั่น  ผู้หญิงผมแดงผอมแห้งตัวสูง

"ข้างในนั้นอุ่นนะ"

เมเดอลินกะพริบตา  เหลียวมามองเจ้าของเสียง  ใบหน้าขาวสวยที่คุ้นเคยวันนี้มีรอยยิ้มประดับมาด้วย  ไม่เหมือนที่เธอเจอมาประจำ

"ฉันจะเข้าไปอยู่  ถ้าเธอสนใจ  จะเข้าไปด้วยก็ได้"  เคซีย์พูด  ทำท่าจะเดินจากไป  หากชะงักเท้าเล็กน้อยเมื่อมือหนึ่งมาจับแขน  เธอเหลียวไปมอง  ซ่อนยิ้มเอาไว้ด้วยท่าทีเฉยเมย 

"เปลี่ยนใจแล้วหรือ"

"ฉันหนาวค่ะ"  เมเดอลินตอบ  ทำเป็นมองไม่เห็นรอยยิ้มที่มุมปากของเทวทูตแห่งความรัก  ชวนคุยเรื่องอื่นให้ลืมความหงุดหงิด  "แล้วออเดรย์ไม่มาด้วยเหรอคะ"

"อยู่เป็นเพื่อนแม่เธอไง  บ้านหลังนั้นเงียบเหงาจะตาย"  เคซีย์ตอบ  ไม่เชิงตำหนิลูกสาวผู้ทิ้งให้แม่ที่ยังไม่สนิทกับโลกใบใหม่อยู่ตามลำพัง  หากเมเดอลินก็รู้สึกตัวแล้วว่าทำตัวไม่ค่อยดีเท่าไหร่

"เอาเถอะ  ดื่มชาสักถ้วยแล้วค่อยกลับก็ได้  ออเดรย์ถนัดเรื่องทำให้คนหายเหงาอยู่แล้วแหละ"

เมเดอลินหรี่ตามองหน้าคนพูด  เห็นรอยยิ้มกวนใจของเคซีย์เวลานี้แล้วก็อดนึกถึงใครอีกคนไม่ได้เลย  "เฟทกลับสวรรค์ไปหรือยังคะ"

"ยังหรอก  อยากเจอไหมล่ะ  เดี๋ยวเรียกมาให้"  เคซีย์บอก  ยักคิ้วให้ใบหน้ามึนงงของหลานสาวที่ตนต้องคอยดูแลแทนพ่อแม่ได้เรื่องพวกนั้น

"ไม่เป็นไรค่ะ  ไม่กวนเขาดีกว่า  อยู่กับคุณก็ได้"  เมเดอลินบอกด้วยรอยยิ้มคาดหวังว่าจะไม่ถูกดุอีก  เคซีย์ก็ไม่ได้ดุเธอจริงๆ  แค่ยิ้มบางเบาและพาเธอเดินเข้าไปในร้านชาสมุนไพรแนววินเทจ  ซึ่งให้ความรู้สึกลึกลับราวกับเข้ามาอยู่ในอีกมิติหนึ่งทั้งที่คนด้านหลังเคาน์เตอร์หรือบริกรสองคนไม่ได้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้ายุควิคตอเรีย  หรือเสื้อคลุมแบบพ่อมดแม่มด

"ไม่ต้องกลัว  คนที่นี่ไม่กัด"  เคซีย์กระซิบบอกเจ้าของมือที่บีบแขนเธอแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว  เมเดอลินยิ้มแหยๆ  ค่อยคลายมือออก  เธอพยักหน้าให้เอวาเป็นการทักทาย  รายนั้นก็ส่งสายตาบอกให้เธอพาแขกอีกคนเข้าไปด้านในยังโต๊ะที่เธอเคยนั่ง

"ฉันไม่เคยเข้ามาที่นี่เลยค่ะ"

"รู้จักแต่โรงแรมล่ะสิ"

เมเดอลินขมวดคิ้ว  ตวัดสายตามองเจ้าของเสียง  เธอคงอาละวาดอย่างไม่เกรงใจแล้ว  หากไม่เห็นชุดกาน้ำชากับถ้วยเซรามิกคุ้นตาในมือเอวา  มันทำให้เธอระลึกถึงช่วงเวลาที่เธออยู่ในบ้านหลังน้อยซ่อนตัวอยู่ในป่าหลังมหาวิทยาลัยหลังนั้น

"ดื่มชากันเถอะ  ตัวอุ่นแล้วจะได้กลับบ้าน"  เคซีย์เตือน  เอวาจึงรินน้ำชาให้เธอกับเมเดอลิน  และทิ้งชุดน้ำชาไว้ให้ก่อนเดินจากไปต้อนรับลูกค้ารายอื่นต่อ  "ถ้าเธอชอบก็มาบ่อยๆ  ฉันว่ามันอุ่นกว่าห้องสวีทในโรงแรมนะ"

นัยน์ตาสีฟ้าของซัคคิวบัสเหลือบมองคิวปิด  เธอสั่นศีรษะเบาๆ ให้กามเทพผู้ขยันทำหน้าที่เกินเหตุ  และดูเหมือนจะผิดเวลาด้วย 


........................................


ภาคนี้ดูเหมือนจะมีใครมาเพิ่มเยอะนะคะ  อิอิ   :61: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

12 ธันวาคม 2017 เวลา 21:22:35
เรื่องอื่นเค้ามีแฝดนรกเรื่องนี้มีแฝดสวรรค์นะเนี่ย
แสดงความคิดเห็น