web stats

ข่าว

 


แผนงานรัก ตอนที่ 3 yuri

โพสต์โดย: meAyou วันที่: 18 มิถุนายน 2018 เวลา 21:00:53 อ่าน: 141

   ก็ไม่คิดว่าสถานการณ์จะตึงเครียดมากมายขนาดนี้?
   หรือเธอจะคิดผิดที่ยอมทำตามแผนการของชณชนก? เพราะตั้งแต่ใครอีกคนยอมฝืนใจให้เธอร่วมห้องด้วยแล้วก็ไม่เคยที่จะหันมามองหน้าหรือพูดคุยด้วยเลยสักคำ
   คงไม่ได้เกลียดขี้หน้ากันจริงๆ หรอกนะ
   "เลิกตามฉันสักทีได้มั้ย"
   เจ้าของน้ำเสียงห้วนหันมามองคนที่เอาแต่เดินตามด้วยสายตาคู่ไม่พอใจทำเอากนิษฐาที่พยายามหาจังหวะดีๆ เพื่อพูดคุยในสิ่งที่ต้องการถึงกับหน้าเสียแต่เพียงไม่นานก็สามารถเปิดยิ้มออกมาได้แต่แทนที่จะทำให้คนได้เห็นรู้สึกดีกลับทำให้โมโหมากขึ้นเพราะคิดว่าใครอีกคนกำลังก่อกวนประสาทตัวเอง
   "ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นของคุณนะถ้าทำแบบนี้แล้วสนุกนักก็ไปทำกับคนอื่น"
   ธาริกาพูดจบก็หันหลังให้กับคู่สนทนาทันทีแต่เธอคงช้าไปถึงได้ถูกคนพูดไม่ฟังเดินมาขวางทางเอาไว้
   "ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นนะคะ"
   "ฉันไม่เชื่อ"
   "จริงๆ นะคะ"
   "งั้นคุณก็อยู่ให้ห่างฉันสิถ้าทำแบบนั้นฉันจะเชื่อ"
   เป็นข้อเสนอง่ายๆ ที่เจ้าของประโยคแสดงความต้องการออกมาอย่างชัดเจนหากแต่จะทำตามใจเจ้าหล่อนได้ยังไงจุดประสงค์ที่ทำให้ต้องพาตัวเองมาถึงที่นี่ยังไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด
   "????."
   "เงียบแสดงว่าทำให้ไม่ได้"
   "ขอเป็นเรื่องอื่นเถอะนะคะถ้าฉันอยู่ห่างคุณเราจะคุยเรื่องธุรกิจได้ยังไง"
   เรื่องจริงหลุดออกมาให้ธาริกาได้เปิดยิ้มรู้ทันเพราะรู้ดีถึงการเข้ามาใกล้กันของใครอีกคนและประสบการณ์มากมายที่สอนให้เธอได้รู้ว่าไม่มีใครหน้าไหนจะอยากผูกมิตรกับตัวเองด้วยความบริสุทธิ์ใจ
   ผลประโยชน์คือสิ่งเดียวที่ทุกคนหวังจากเธอ
   "คือ?"
   "ฉันเคยบอกแล้วนิคะว่าถ้าคุณมีข้อเสนอดีๆ กว่านั้นค่อยมาคุยกัน
   "เรื่องนั้นฉันรู้ค่ะขอเวลาคิดหน่อย"
   "งั้นก็ไปคิดมาสิคะจะมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ทำไม"
   ดวงตาสองคู่จ้องมองฟาดฟันกันอย่างไม่มีใครยอมใครและสุดท้ายคนที่ต้องยอมอ่อนให้ก็คือคนที่เพิ่งระลึกได้ว่าตัวเองเสียเปรียบไปเสียทุกเรื่อง
   "ขอโทษค่ะฉันไม่ได้อยากวุ่นวายหรือแม้แต่รำคาญใจแต่แค่อยากให้คุณธาริกาเข้าใจในเรื่องบางอย่างที่คุณอาจกำลังเข้าใจผิดจนมันอาจจะส่งผลกับงาน"
   "ฉันแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากกันเสมอค่ะ"
   "แต่ถ้าไม่ทำความเข้าใจกันคุณก็อาจจะไม่สะดวกใจที่ร่วมงานกับฉัน"
   "บอกแล้วไงคะว่าฉันแยกสองเรื่องนี้ออกจากกันได้"
   "แต่?"
   "ถึงคุณจะโรคจิต ลวนลามผู้หญิงหนือหน้าหม้อไปทั่วฉันก็ไม่สนใจหรอกค่ะขอแค่งานทุกอย่างเป็นไปตามที่ฉันต้องการก็พอแล้ว"
   "??????."
   "ที่ฉันพูดคุณเข้าใจใช่มั้ยคะ"
   "เอ่อ?ค่ะ"
   "งั้นก็กลับไปได้แล้วค่ะ"
   "ยังค่ะ"
   "อะไรนะคะ?"
   "ก็เรามาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกันสิคะ"
   "ไม่เป็นไรฉันให้คนที่บ้านมารับได้"
   "ไม่เป็นไรเหมือนกันค่ะฉันกำลังหาไอเดียดีๆ อยู่ที่สถานที่จริงแบบนี้น่าจะคิดออกอีกอย่างมีอะไรจะได้ปรึกษาคุณได้เลย"
   "ฉันไม่?"
   "เยี่ยมไปเลยใช่มั้ยค่ะ"
   "นี่!"
   "ฉันก็คิดว่าดีค่ะ"
   กนิษฐาเอ่ยด้วยรอยยิ้มกว้างไม่สนใจคนหน้าบึ้งที่มองจ้องมาด้วยความไม่พอใจเลยสักนิดเมื่อธาริกาบอกว่าเรื่องบางอย่างไม่ใช่ปัญหาระหว่างการทำงานก็ทำให้เธอสบายใจขึ้นมาเปราะหนึ่งส่วนโอกาสดีๆ แบบนี้ใครเลยจะปล่อยให้หลุดผ่านมือไปได้
   การใกล้ชิดกับเจ้าของสถานที่ในสถานที่จริงนี่แหละที่อาจจะทำให้เธอค้นพบสิ่งที่จะจูงใจให้คนใจแข็งเปลี่ยนใจได้
   ข้อเสนอเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนที่มีมากอยู่แล้วอย่างธาริกาส่วนข้อที่บริษัทเธอยอมเสียเปรียบก็ไม่ทำให้เจ้าหล่อนใจอ่อนแม้แต่น้อยจะว่าผลประโยชน์ไม่สำคัญสำหรับคนแบบนี้ก็น่าจะถูกแล้วอะไรกันล่ะที่จะโน้มน้าวใจคนใจแข็งได้
   อะไรกันนะ?

   เกรียวคลื่นของท้องทะเลที่ซัดเข้า ออกฝั่งดูน่ามองสำหรับคนที่รักทะเลอย่างธาริกาเป็นที่สุด
   เกาะนี้เป็นสถานที่ส่วนตัวที่มารดาของเธอรักและหวงแหนมากที่สุดหากแต่ไม่รู้ทำไมก่อนที่ท่านจะลาจากโลกนี้ไปถึงได้บอกให้เธอสร้างรีสอร์ทเพื่อเปิดให้คนได้เข้ามาพักหรือท่านอยากจะแบ่งปันความสวยงามที่สร้างสรรค์จากธรรมชาตินี้ให้คนอื่นได้ชื่นชมบ้างกันนะ
   เธอไม่แน่ใจในคำตอบหากแต่ตั้งใจที่จะทำตามความต้องการของมารดาให้สำเร็จหากแต่จะทำคนเดียวก็เห็นจะแบกรับงานทั้งหมดนี้ไม่ไหวเพราะแค่งานที่ทำอยู่ก็มากโขอยู่แล้วการหาพาร์ทเนอร์จึงเป็นสิ่งแรกที่จำเป็นแต่ทำได้ยากเพราะไม่มีใครเลยที่จะทำให้เธอรู้สึกไว้วางใจที่จะร่วมงานด้วยเลยสักคน
   สองขาที่ก้าวเดินต้องหยุดลงเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นใครบางคนที่เมื่อจัดอันดับแล้วเธอคิดว่าคงอยู่เบอร์ต้นๆ เลยที่เธอไม่อยากที่จะร่วมงานหรือแม้แต่ข้องเกี่ยวด้วย
   "มาเดินเล่นไม่ชวนกันเลยนะคะ"
   "?????.."
   ไร้ซึ่งประโยคตอบกลับมีเพียงหางตาเท่านั้นที่มองมาให้กนิษฐาได้เปิดยิ้มเจื่อนๆ เพราะรู้ตัวว่าเข้ามารบกวนคนโลกส่วนตัวสูงอีกแล้ว
   "กลางวันแดดแรงเหมือนกันนะคะ"
   "แล้วใครใช้ให้คุณมาเดินแถวนี้ล่ะ"
   "ก็ฟางเห็นคุณธาริกาหายไปก็เลยเป็นห่วง"
   "ห่วงตัวเองก่อนเถอะ"
   ธาริกาพูดไม่เกินจริงสักนิดเพราะสภาพของใครอีกคนดูจะไม่สบายเนื้อสบายตัวเอาเสียเลย
   "คุณเข้าบ้านไปเถอะฉันจะไปเดินทางโน่นต่อ"
   "ฟางจะไปด้วยค่ะ"
   "ทางนู้นนะ"
   คนพูดชี้นิ้วไปยังสุดหาดที่ไกลเอาการทำเอากนิษฐาถึงกับเงียบไปพักใหญ่ตอนไปนี่น่าจะไหวแต่ตอนกลับนี่เธอจะเป็นลมไปก่อนหรือเปล่านะ
   "ไม่ไหวก็อย่าฝืนนะคะ"
   คนพูดอาจจะไม่คิดอะไรกับสิ่งที่เอ่ยออกมาหากแต่คนฟังนี่สิที่ได้ยินราวกับเป็นสาส์นท้ารบทำเอาคนใจฝ่อถึงกับฮึดสู้อย่างไม่เจียมตัว
   ทางแค่นี้คงไม่ทำให้เธอเป็นลมเป็นแล้งไปได้หรอก
   งานนี้ต้องสู้ สู้ สู้โว้ยยยยยยยย

   เสียงถอนหายใจรอบที่ร้อยดังขึ้นให้คนไม่ชอบการพ่ายแพ้ต้องหน้าแดงเพราะความดันทุรังของตัวเองแท้ๆ จึงทำให้เกิดเรื่องน่าอายขึ้น
   เธอไม่ได้เป็นลมอย่างที่คิดกลัวแต่ดันเป็นตะคริวจนเดินไม่ได้ต้องให้ธาริกาประคองด้วยสายตาคู่อาฆาตที่ดันไปทำให้การเดินเล่นแบบชิวล์ๆ ของอีกฝ่ายกลายเป็นงานทั้งเหนื่อยและหนัก
   "ครั้งหน้าจะไม่มีแบบนี้แล้วค่ะ"
   "จะไม่มีครั้งหน้า"
   "โถ่คุณใครๆ ก็พลาดกันได้"
   "แต่ไม่ใช่กับแค่การเดินเล่นในที่ที่ไม่มีอันตรายอะไรเลย"
   มันก็ถูก?กนิษฐาไม่คิดเถียงเลยสักคำเพียงแต่การเป็นตะคริวของเธอมันเกิดขึ้นเองนี่นาเธอตั้งใจเสียที่ไหนกัน
   "ขอโทษ"
   "ไม่จำเป็นแค่อย่ามาสร้างภาระให้ฉันอีกก็พอ"
   "ค่ะไม่มีอีกแล้วค่ะภาระต่อไปนี้ฟางจะเป็นคนดูแลคุณเอง"
   ธาริกาหันไปหาคนพูดจาแปลกทันทีอันที่จริงเธอพูดและแสดงออกขนาดนี้กนิษฐาก็น่าจะรู้ได้แล้วว่าสิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนไม่ควรทำเขาจะมาเซ้าซี้ให้ได้อะไรขึ้นมาอีก
   "ขอบคุณแต่ไม่ต้อง"
   "เราอยู่ด้วยกันก็ต้องดูแลกันสิคะเมื่อสักครู่คุณธาริกายังดูแลฟางเลย"
   "ฉันไม่ได้เต็มใจ"
   "แต่คุณก็ทำ"
   "เพราะฉันไม่มีทางเลือกต่างหาก"
   "ปากแข็ง"
   "นี่!"
   กนิษฐารีบยกมือขึ้นอุดปากตัวเองทันทีฟางนะฟางแกจะต่อปากต่อคำกับคนที่จ้องจะโยนแกลงน้ำทะเลทุกวันไม่ได้!!!
   "ขอโทษค่ะ"
   "พูดขอโทษแต่หน้าตาคุณยังดูไม่รู้สึกถึงคำนั้นเลยนะคะ"
   แร๊งส์!!! ในเวลานี้หน้าของกนิษฐาสั่นยิ่งกว่าแผ่นดินไหวในอินเดียทุกคำเจาะจงและน้ำเสียงที่แน่วแน่ของคนพูดบ่งบอกได้ถึงความจริงจังในคำพูด
   "อย่ามองกันแบบนั้นสิคะฟางสำนึกผิดไม่ทันแล้ว"
   ดูเหมือนใบหน้าสลดของเธอจะไม่ทำให้ใครอีกคนใจอ่อนลงได้เพราะในเวลานี้เธอรู้สึกราวกับถูกไม้หน้าสามฟาดหน้าไม่ยั้งเพียงแค่ถูกสายตาของคนใครอีกคนมองมา
   "เขินจัง"
   "ใช่เพื่อนเล่นเหรอ"
   "เอ่อ?"
   ถ้าจะพูดกันขนาดนี้ไม่เอาเท้าเหยียบหน้ากันไปเลยล่ะ ผู้หญิงอะไรสวยอย่างเดียวที่เหลือดุชะมัด?
   "เอ่อ?"
   "?????"
   "ขอโทษค่ะ"
   "?????"
   "ขอโทษ?"
   กนิษฐาผ่อนลมหายใจออกยาวๆ ก่อนจะหันหน้าไปทางอื่นเพื่อเลี่ยงสายตาคู่ดุที่มองมาอย่างต่อเนื่อง
   นี่แค่วันแรกเธอยังต้องพูดขอโทษบ่อยขนาดนี้หากอยู่จนจบทริปนี้เธอคงเอือมคำๆ นี้ไปอีกนานแสนนาน


Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น