web stats

ข่าว

 


Immortals (Sparkle 4) - บทที่ 16 Love Me The Same

โพสต์โดย: anhann วันที่: 17 มิถุนายน 2018 เวลา 23:41:06 อ่าน: 373



บทที่ 16 Love Me The Same





เขานั่งอยู่ท่ามกลางเสียงเล่นกันของเด็กๆ ภายในสวนของบ้าน  วันหยุดเป็นวันสนุกของลูกๆ  และเคยเป็นวันพักผ่อนอันแสนสุขของเขาด้วย  แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก  เขายังนั่งทำงานไปด้วยพร้อมกับดูลูกๆ ไปด้วยได้แบบนี้  มันก็แค่...มีคนคุยกับเขาน้อยลงเท่านั้น

"ป๊า  ทำอะไรคะ"

ไม่เป็นไรหรอก  อย่างน้อยไอรีนตัวน้อยก็ยังอยู่กับเขา

เขายิ้มรับคำถามลูกสาว  จับแท็บเล็ตด้วยมือข้างเดียว  ใช้อีกข้างอุ้มไอรีนขึ้นนั่งตัก  พลางใช้เท้าดันพื้น  ไกวม้านั่งชิงช้า  หอมศีรษะลูกสาว  ก่อนจะชวนให้ดูงานที่เขาทำอยู่  แม้เธอจะดูไม่รู้เรื่อง  แล้วเขาก็เปลี่ยนให้เธอเล่นเกมง่ายๆ สำหรับเด็ก  แต่ให้เล่นแค่สองเกม  เพราะจำได้ว่าแทยอนไม่ชอบให้ลูกเล่นเกมทางแท็บเล็ต  อย่างไรก็ดี  เขายังคงนึกถึงคำพูดของเธออยู่เสมอ  ถึงปัจจุบันนี้เธอจะพูดกับเขานับคำได้

เขาไม่ค่อยได้เจอแทยอนหรือยุนอามากนัก  ช่วงนี้ทั้งคู่ดูจะตัวติดกันมาก  พวกเธอมักจะไปอยู่ในแล็บด้วยกัน  ไปหาแม็กซ์เวล  เขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปที่นั่น  ยุนอาบอกว่ากลัวเขาจะรับไม่ได้  ถ้าไปเห็นว่าลูกอยู่ในสภาพไหน  ถูกของเธอ  เพราะถึงไม่ได้เข้าไป  เขาก็รู้อยู่แล้ว  สิ่งมีชีวิตที่เติบโตด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์  ทั้งน่าอัศจรรย์ใจและน่าสมเพช  เขาไม่อยากเห็นลูกของเขาเป็นแบบนั้น  จริงๆ แล้วเขาไม่รู้ว่าจะควรรู้สึกยังไงด้วย

แม็กซ์เวลเกิดจากการตัดต่อทางพันธุกรรม  โดยใช้ดีเอ็นเอของเขากับยุนอาเป็นต้นแบบ  ซึ่งเท่ากับว่าเราสองคนเป็นพ่อกับแม่ทางชีวภาพ  แต่นั่นมันจะทำให้เขารู้สึกได้ไหมว่า  แม็กซ์เป็นลูกของเขา  ตัวยุนอาเองก็อาจสับสนแบบเดียวกับเขาก็ได้  ความรู้สึกของเธอน่าจะคาบเกี่ยวกันระหว่างการเป็นผู้สร้างกับแม่  มันเป็นความซับซ้อนทางความรู้สึก

ตอนนี้เขารู้สึกคล้ายถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังกับลูกๆ  คุยกับลูกๆ และพี่สาวกับพี่สะใภ้  และมาร์คัสบ่อยกว่าภรรยาตัวเอง  มันคงสมควรแล้วที่เขาจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว  เพราะเขาเลวร้ายเกินกว่าที่ใครจะรับได้  แม้ว่าช่วงนี้เขาแทบไม่ได้ออกไปไหนเลย  และกำลังหัดดื่มเลือดแช่เย็นจากถุงอยู่ 

เขาเริ่มสนิทกับแวมไพร์คนที่เขาจ้างเธอทำงานให้  แอมเบอร์สอนให้เขาหัดดื่มเลือดแบบนี้  เพื่อที่จะได้ไม่ต้องออกไปหาเหยื่อ  ไม่ต้องไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร  เธอบอกว่าเขาคิดไปเอง  ว่ามันจำเป็นจะต้องกินสดๆ อุ่นๆ จากตัวมนุษย์  จริงๆ แล้วมันเป็นความเคยชินของเขามากกว่า  แต่ถ้าเขาอยากกินอุ่นๆ  เขาก็แค่ต้องเอามันไปอุ่นในไมโครเวฟ  ตั้งเวลาให้ดี  ไม่ให้มันสุกจนกลายสภาพไปเป็นเหมือนเลือดหมูหรือเลือดไก่ที่มนุษย์ชอบเอามาทำอาหารก็พอ  ตอนนี้เขาเริ่มทำมันได้ดีแล้ว  แค่ยังกำจัดความรู้สึกอยากฝังเขี้ยวแหลมๆ ของเขาไปบนเนื้อตัวของใครสักคนไม่ได้

เวลาเขาออกไปไนต์คลับ  ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือเดี๋ยวนี้  ที่จริงมันน้อยครั้งมากที่เขานอนกับผู้หญิงที่เขาดื่มเลือด  ส่วนใหญ่เขาจะนั่งมองพวกเธอเหล่านั้นช่วยเหลือตัวเองมากกว่า  เขาไม่รู้สึกอยากนอนกับผู้หญิงแบบนั้นมานานมากแล้ว  ความรู้สึกเขาอาจเรียกได้ว่าเฉยชาเลยด้วยซ้ำ  แต่ต่อให้พูดออกไป  แทยอนก็ไม่มีทางเชื่อ  เธอไม่มีทางเชื่อว่ากลิ่นผู้หญิงที่เธอรับรู้นั่นคือผู้หญิงที่เขาจำเป็นต้องเข้าใกล้  เพราะจะฝังเขี้ยวไปกับลำคอหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายพวกหล่อน  กลิ่นจึงติดมา  มันเป็นข้อแก้ตัวที่น้ำหนักเบามากเกินไป  ไม่มีประโยชน์ที่จะพูด  ในเมื่อเธอไม่คิดจะไว้ใจเขาอยู่แล้ว  ความคิดเธอฝังหัวอยู่แต่ว่าเขาไม่รักเธอ  เขาเบื่อหน่ายการมีเซ็กซ์กับเธอ  จึงต้องไปหาเศษหาเลยนอกบ้านประจำ  เขาไม่อาจทำให้เธอเชื่อได้  เราก็คงต้องอยู่กันไปแบบนี้แหละ  จนกว่าใครสักคนจะทนไม่ไหว  ปกติแล้วเขาจะอดทนทุกครั้งที่ถูกเธออาละวาดใส่  แต่เวลาเธอพูดเรื่องหย่า  เรื่องจะเอาลูกๆ ไปจากเขาครั้งใด  เขาจะต้องโมโหมากจนเกือบจะทำร้ายเธอทุกที  คงดีแล้วที่เราอยู่ห่างๆ กันเสียบ้าง

"คริส  ดูนี่สิ  มันมีแคมป์แบบนี้ด้วย"  เจสสิก้าเดินมาพร้อมโบรชัวร์อะไรสักอย่างในมือ  พี่มายืนตรงหน้าแล้วส่งให้เขาดู  พลางก้มลงหอมแก้มไอรีนที่เงยหน้าขึ้นมองคุณป้าตาแป๋ว  ฝาแฝดวิ่งแข่งกันมาจะขอดูบ้าง  แต่ชะงักกลางทางเมื่อเห็นเจย์เดนนั่งอยู่ในรถบีเอ็มดับเบิลยูของเล่นที่ขับได้จริง 

"ครูซ  ไปเอาของลูกมาเล่นครับ  อย่าแย่งน้อง"  เขาร้องบอกลูกชายทั้งที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง  "แคลร์  จัดการให้ป๊าได้ไหมครับลูก"

"ได้เลยค่ะ  ป๊า"  แคลร์ขานรับคำสั่งราวกับทหาร  แล้วหันไปตกลงกับครูซที่วิ่งตามกันไปเอาของเล่นชิ้นใหม่  เจย์เดนก็กลับปีนลงจากรถตัวเอง  ตามไปพี่ฝาแฝดไปด้วย  แต่แทนที่พวกเขาจะได้รถยนต์แบตเตอรี่ออกมาเล่นด้วยกัน  มันกลายเป็นจักรยานซึ่งเจย์เดนยังขี่ไม่ได้  เพราะขาสั้นไป

"เจด  ลูกก็มาขับรถของลูกตามพวกพี่ๆ เขาสิครับ"  เจสสิก้าหันไปบอกลูกชายที่วิ่งตามจักรยานฝาแฝดอย่างน่าสงสาร  หากดูเหมือนเจย์เดนจะไม่สนใจ  เด็กชายอยากขี่จักรยานมากกว่าขับรถยนต์

"ปล่อยเขาไปเถอะ  เจ  ถ้าเขาชอบแบบนั้น"  คริสตัลบอกพี่สาว 

"แต่มันตลกนะ  วิ่งตามจักรยานน่ะ  น่าสงสารออก"

"เด็กๆ  ไม่คิดมากแบบนั้นหรอกน่า  ดูต่อไปก่อน"  เขาพูดกึ่งหัวเราะ  เพราะเขาอยู่กับเด็กๆ มากกว่าเจสสิก้า  จึงเข้าใจลูกกับหลานมากกว่า  และหลังจากวิ่งไล่ตามจักรยานของพี่ๆ ได้พักหนึ่ง  แคลร์กับครูซก็ช่วยกันสอนให้เจย์เดนขี่จักรยาน  ช่วยจับให้และช่วยเข็น  เนื่องจากน้องยังขาสั้นอยู่

"เห็นไหม  เจ  พวกเขาแก้ปัญหากันเองได้"

เจสสิก้ายิ้ม  พลางส่ายหน้า  ต้องยอมรับว่าเธอไม่รู้ใจเด็กๆ เท่าน้อง  อาจเพราะคริสตัลยังมีความเป็นเด็กอยู่ในตัวมากกว่าเธอ 

"แล้วนี่อะไรล่ะ  แคมป์จักรยาน"

"ใช่  วันเสาร์หน้า  น่าสนใจดีนะ"

"ก็น่าสนใจ  แต่คนมันเยอะไปหรือเปล่า"  เขาพูด  เป็นกังวลกลัวว่าเด็กๆ จะตื่นคน  ถึงพวกเขาจะไปโรงเรียนแล้ว  อยู่ท่ามกลางมนุษย์มานานพอสมควร  แต่ถ้าไปอยู่ในหมู่คนมากๆ แบบนั้น  มันก็เสี่ยงที่จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นได้  ตัวเขาเองเคยอยู่ในโรงเรียนกับเพื่อนๆ ที่เป็นมนุษย์มาก่อน  เขายังต้องระวังตัวแจ  เพราะถ้ามีใครสักคนเกิดเลือดตกยางออกขึ้นมาก็จะต้องเกิดปัญหาแน่นอน  ถึงตอนนี้แคลร์กับครูซหรือเจย์เดนจะไม่เคยดื่มเลือดเลย

"ก็จริง  แต่ว่า..."  เจสสิก้าชำเลืองมองลูกชาย  เจย์เดนก็ดูสบายดี  แต่เธอก็อยากมีเวลากับลูกมากกว่านี้  อยากพาเขาไปเล่นแบบเด็กๆ คนอื่น  ได้ทำอะไรที่เธอไม่เคยทำ  เพราะพ่อแม่ไม่มีเวลาให้ 

"ลองไปดูก็ได้  แฝดกับไอรีนก็คงอยากไปเหมือนกัน"  คริสตัลสรุป  ก้มมองลูกสาวบนตักที่ชี้โบรชัวร์ให้เขาดูพร้อมกับพูดกับเขาในภาษาของเธอ  ภาษาของเด็กสี่ขวบ  "หนูอยากไปด้วยเหรอคะ  น้องไอ"

"ค่ะ  แต่หนูขี่ไม่เป็น"

"ไม่เป็นไรค่ะ เจดก็ขี่ไม่เป็นเหมือนกัน"  เจสสิก้าเชียร์หลานสาว 

"งั้นเราไปกันเดี๋ยวนี้เลยไหม"  ไอรีนถาม  ตากลมๆ จ้องคุณพ่อด้วยความหวัง  คริสตัลจึงพยักพเยิดหน้าให้พี่สาวดูผลงานของพี่ที่ทำให้ลูกสาวของเขาอยากไปเที่ยวขึ้นมาบ้างแล้ว

"มันมีจักรยานผาดโผนด้วยนะ  เธอต้องชอบแน่  คริส"  เจสสิก้าคะยั้นคะยอ  ยิ้มให้น้องอย่างเอาใจ  "ฉันไปขอแทยอนให้ก็ได้  ถ้าเธอไม่อยากพูดกับเขา"

"ไม่เป็นไร  เจ  ฉันพูดเองได้"  คริสตัลปฏิเสธ  "มันเป็นเรื่องของลูกๆ  เธอจะไม่ฟังฉันไม่ได้"

เจสสิก้ายิ้มเจื่อน  เธอรู้ว่าครอบครัวน้องกำลังมีปัญหา  และรู้ว่าเขากำลังพยายามแก้มันอยู่  แต่มันจะสายเกินไปหรือยัง

"งั้นก็ตามใจ  แต่ถ้ามันไม่ได้จริงๆ ก็ไม่ต้องไปก็ได้  เอาไว้คราวหน้า  เขาก็มีจัดอยู่บ่อยๆ"

"หนูจะไปขอแม่ให้"  ไอรีนยกมืออาสา  เด็กหญิงเข้าใจว่าคุณพ่อกับคุณแม่ไม่ค่อยได้คุยกัน  ถึงเธอจะไม่รู้ว่าทำไม  แต่เธอเดาเอาเองว่าคงเหมือนๆ กับที่แคลร์กับครูซโกรธกัน  ชอบเถียงกัน 

"น่ารักจริงๆ  ลูกเอ๋ย"  เจสสิก้าชมหลานสาว  พลางยกตัวไอรีนขึ้นมาอุ้มอย่างนึกเอ็นดู  เธอมองคริสตัลที่แม้จะหน้าตาไม่บอกอารมณ์  แต่สายตาเขามันบอกทุกอย่าง  ความเศร้า  ความเหงา  ความไม่มั่นใจ  เขาเกิดมาแตกต่างจากคนอื่น  การใช้ชีวิตของเขาตั้งแต่เล็กจนโตมาจากเดี๋ยวนี้นั้นลำบากมากพออยู่แล้ว  เขาไม่ได้ต้องการอะไร  นอกจากความเข้าใจ  และความรักในตัวตนที่เขาเป็นจริงๆ  ไม่ใช่รักจากรูปลักษณ์ภายนอกของเขา  หรือความสามารถผิดมนุษย์มนา

"ฉันดูไอรีนให้เอาไหม  เธอจะได้ทำงาน"  เธอเสนอ  เขาส่ายหน้า

"ไม่เป็นไร  เจ  ฉันอยากอยู่กับลูก  น้องไอไม่ดื้อหรอก  ใช่ไหมคะ"

"หนูไม่ดื้อ  หนูรักป๊า"  ไอรีนบอก  ร่าเริง  ยื่นมือเล็กๆ มาแปะกับมือของคุณพ่อก่อนจะหันไปกอดคอคุณป้าบ้าง  "หนูก็รักเจเหมือนกัน  เจรักหนูหรือเปล่า"

"รักค่ะลูก  รักเหมือนเจดเลยแหละ"  เจสสิก้าบอก  แล้วหน้าแดงเมื่อหลานสาวจุ๊บปากเธอเบาๆ  คริสตัลหัวเราะขำ

"น้องไอ  อย่าไปทำกับเจแบบนั้นค่ะ  เจขี้อาย"

"แต่หนูเห็นเม็บทำบ่อยๆ น้า"  ไอรีนบอก  ฟังดูเหมือนล้อเลียนจนเจสสิก้าต้องแกล้งฟัดแก้มไปแรงๆ สักที

"ทะเล้นจริงๆ เลยเรา  อยู่กับป๊ามากไปหรือเปล่า" 

ไอรีนยิ้มแก้มแดง  คริสตัลหัวเราะในลำคอ  พลางรับตัวลูกกลับมานั่งบนตักตัวเอง  ขณะที่เจสสิก้าหันไปมองฝาแฝดกับเจย์เดนที่เริ่มหาอะไรมาเล่นแทนจักรยาน  และตอนนี้มันเป็นดาบไม้  เธอต้องร้องบอกเด็กๆ ไม่ให้ฟาดกันหัวแตก  แม้ว่าสำหรับพวกเขา  แผลแค่นั้นมันทำอะไรไม่ได้  แต่ถ้ามีเลือดเปื้อนเสื้อผ้าขึ้นมา  แทยอนคงจะอาละวาดบ้านแตก  และคริสตัลก็คงจะโดนไปด้วย  ข้อหาไม่ดูแลลูกๆ ให้ดี

"สองคนนั้นไปไหนกันล่ะ  เดี๋ยวนี้หายไปด้วยกันบ่อยๆ นะ" 

"ไปหาแม็กซ์"

เจสสิก้าเลิกคิ้ว  ชำเลืองกลับมามองน้องชาย  รู้สึกเหมือนเขาจะเฉยเมยกับเรื่องนี้จนผิดปกติ  "ทำไมเธอดูไม่ดีใจเลยล่ะ  ไม่เหมือนแรกๆ"

"ไม่รู้เหมือนกัน  เจ  ฉันแค่รู้สึกว่า  ยุนไม่อยากให้ฉันยุ่งเรื่องนี้  ฉันก็จะไม่ยุ่ง"  เขาตอบ  "บางทีฉันก็รู้สึกว่า  ตัวเองเป็นแค่สัตว์ทดลอง"

"อย่าพูดแบบนั้น  คริส  เธอแค่กำลังน้อยใจเท่านั้น"  เจสสิก้าเตือน

คริสตัลส่ายหน้า  เขาไม่คิดว่าพี่สาวจะเข้าใจเขาจริงๆ  "เจไม่เคยต้องอยู่ในห้องแล็บแบบฉัน  ฉันถูกพวกเขาเปลื้องเสื้อผ้า  จะอายหรือไม่อาย  พวกเขาก็ไม่สนใจ  พวกเขาใช้เครื่องมือหลายอย่างกับฉัน  ฉันไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร  บางครั้งมันไม่เจ็บ  บางครั้งมันก็เจ็บมากจนเหมือนจะตาย  แต่ฉันก็ตายไม่ได้  บางทีฉันก็อยากตายๆ ไปซะเลย  มันจะได้จบ  จนกระทั่งยุนเข้ามาทำหน้าที่แทนไอ้หมอเวรตะไลนั่น  ฉันถึงรู้สึกว่าตัวเองเป็นมนุษย์ขึ้นมาบ้าง  ถึงฉันจะไม่ใช่มนุษย์ก็เถอะ  แต่ยุนก็ยังทำกับฉันแตกต่างจากพวกนั้น  เขายังถามว่าฉันเจ็บไหม  เป็นอะไรหรือเปล่า  ฉันรู้สึกว่าเขาใส่ใจฉัน  หรืออาจจะแค่สมเพชที่ฉันเกิดมาเป็นตัวประหลาด  แต่ไม่ว่าเขาจะรู้สึกกับฉันยังไง  สิ่งที่เขาทำก็ทำให้ฉันรู้สึกว่า  รักหมอคนนี้มากๆ  แต่วันนี้..."

เขาหยุดพูดพร้อมกับน้ำตาหยดหนึ่งที่ร่วงลงมา  และไอรีนก็ยกมือขึ้นปาดแก้มให้  เขาจับมือเล็กๆ ของลูกสาวขึ้นจูบ  พยายามกดความเศร้าลงไปให้ลึกเหมือนที่เคยทำมาได้เสมอ

"ช่างมันเถอะ  เจ  ฉันชินแล้วละ  อย่างน้อยวันนี้ฉันมีลูกๆ ให้รัก"

"ฉันว่า  เธอคิดมากไป  คริส  หรือบางทีเธออาจจะแค่เหนื่อย"

"นั่นสิ"  เขาพึมพำ  แล้วชวนพี่เปลี่ยนเรื่อง  "เกมตัวใหม่ของเราที่จะเปิดตัวที่นิวยอร์ก  ตกลงฉันจะเป็นคนไปเองนะ"

"เอางั้นเหรอ" 

"ใช่  ฉันจะไปกับมาร์คัส  และสเตฟานี่  ค้างหนึ่งคืน"

"สเตฟานี่?"  เจสสิก้างงกับชื่อนี้  แต่เขาพยักหน้า

"สเตฟานี่มาทำงานกับฉันแล้ว  แอมเบอร์ที่ช่วยฉันเรื่องโจรไซเบอร์ด้วย  เป็นพนักงานพิเศษฝ่ายเกม  เอาไว้ฉันจะให้เลขาส่งใบสมัครงานอย่างเป็นทางการไปให้ฝ่ายบุคคล  แล้วเจก็ดูเอาละกันนะ"

"โอเค"  เจสสิก้าตอบ  "ทำไมสเตฟานี่ถึงไม่ทำงานที่แลนดอนล่ะ"

"ไม่รู้สิ  ไม่ชอบมั้ง"  คริสตัลตอบ  ไม่ใส่ใจนัก  เขาก้มลงคุยกับไอรีนเบาๆ  เรื่องแคมป์จักรยาน  พลางคุยกับพี่ไปด้วย  "แล้วเจว่างเหรอ"

"ไม่เชิง  แต่อยากอยู่เฉยๆ  ดูเด็กๆ เล่นกันบ้าง" เจสสิก้าตอบ  นั่งลงข้างน้องตัวโต  และล้วงกระเป๋าเสื้อคลุม  หยิบอมยิ้มมาส่งให้ไอรีนที่ยิ้มร่าขณะรับมันไปพร้อมกับเอ่ยขอบคุณ  เธอจุ๊ปากให้หลานสาว  "อย่าบอกแฝดกับเจดนะคะ  เจมีอันเดียว"     

ไอรีนพยักหน้ารับปากเธอ  ขณะที่คริสตัลยิ้มขำๆ

"เดี๋ยวคุณแทมาเห็นก็เป็นเรื่องหรอก  เจ"

"แล้วอยู่ไหนล่ะ  ตั้งแต่มาฉันยังไม่เห็นเลย" 

"ไปแล็บไง  ฉันบอกเจแล้วนี่"  คริสตัลเตือนความจำพี่สาว  แต่พี่เหมือนจะไม่อยากฟัง  "เจไม่ต้องเข้าข้างฉันหรอก  ฉันผิดเองแหละ"

"ฉันก็ไม่ได้บอกว่าเธอถูก  แต่ไหนล่ะ  คนอยากมีลูกนักหนา  ทำไมไม่มาเลี้ยงเอง  ถ้าจะทำโทษเธอด้วยวิธีนี้  มันดูจะเห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยนะ  ลูกตั้งสามคน  กำลังซนกันทั้งนั้น"

"ช่างเถอะ  เจ  ดีกว่าเขาเอาลูกฉันไป  ฉันทนไม่ได้แน่"

เจสสิก้ากำลังจะเถียง  แต่เธอเห็นแทยอนเดินมาไกลๆ  ไม่มียุนอามาด้วย  "นินทาไม่ได้เลย  โผล่ทันที"

"ได้ยินล่ะมั้ง"  คริสตัลพูดติดตลก  มองเจสสิก้าที่ลุกขึ้นยืน  "ไปไหนล่ะเจ  ไม่อยู่ก่อนเหรอ"

"ไม่ล่ะ  ขี้เกียจฟังพวกเธอเถียงกัน"  เจสสิก้าว่า  พลางกลอกตา  แล้วหันไปเรียกลูกชายตัวเองเข้าบ้าน  ดูเหมือนเจย์เดนจะไม่อยากไป  แต่ก็ทำตามเธอ  "คุยกันดีๆ ละ  เด็กๆ อยู่เยอะแยะ"

เขาพยักหน้าให้เธอเมื่อเธอตบบ่าเขาเบาๆ   

"อ้อ  คริส  เรื่องนิวยอร์กน่ะ  ถ้าจะเปลี่ยนใจก็บอกล่ะ  ให้คนอื่นไปแทนก็ได้  ยังเหลือเวลาอีกหลายวัน"

"ฉันอยากเจอสาวนิวยอร์ก"

"อยากโดนตบมากใช่ไหม  คริส"

"ล้อเล่นน่า  เจ"  เขาพูด  พลางหัวเราะ  ยกมือไอรีนโบกให้พี่สาวที่เดินสวนกับแทยอนโดยไม่ได้เอ่ยทักกัน  เขาแทบจะมองเห็นกระแสไฟฟ้าแวบวาบออกมาจากสายตาทั้งคู่ที่มองกันเลยทีเดียว

คริสตัลมองหน้าลูกสาวเมื่อไอรีนเอาอมยิ้มที่เจสสิก้าให้มาเสียบไว้กับกระเป๋าเสื้อเชิ้ตของเขา  ทันเวลาก่อนแทยอนจะเดินมาถึงแค่เสี้ยววินาที

"น้องไอทำอะไรคะลูก  ไปกินข้าวเที่ยงกับแม่กับแฝดเถอะ" แทยอนพูดพลางส่งมือให้ลูกสาว  แต่ไอรีนหันหาคุณพ่อก่อน 

"น้องไอไปกับคุณแม่เถอะค่ะ  เดี๋ยวเราค่อยเจอกัน"

"แล้วทำไมป๊าไม่ไปด้วยคะ  ป๊าไม่หิวเหรอ"

"ป๊าขอทำงานอีกนิดนึงก่อน  แล้วจะตามไปไง"

"หนูอยากให้ป๊าไปด้วย"

"อย่าดื้อสิคะ  ไอรีน --"

"เธอก็ไปด้วยกันสิ  ทำไมจะต้องให้ลูกพูดด้วย"  แทยอนขัด  เสียงหงุดหงิด  เธอคว้าตัวไอรีนไปจากตักเขา  ไม่สนใจว่าลูกจะงอแงและเอื้อมมือหาคุณพ่อด้วยท่าทางน่าสงสาร  แล้วเธอก็พูดต่อโดยไม่ได้หันกลับมา

"ถ้าอยากจะนั่งรอให้คนมาง้อ  ก็รอยุนอาละกัน  เดี๋ยวเขาก็มา"

คริสตัลนั่งมองลูกๆ กับคุณแม่พวกเขาจากไป  เขาโบกมือให้ไอรีน  และขยับปากบอกไปว่า  เดี๋ยวจะตามไป  และบอกไม่ให้ลูกงอแงกับคุณแม่  ส่วนตัวเขาก็นั่งถอนหายใจเมื่อถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง  เขากลับมาเขียนงานที่ค้างไว้ต่อ  เพราะงานทำให้เขาใจเย็นลง  นานเท่าใดไม่ทราบ  มือเย็นๆ บนบ่าเขาก็เรียกให้เขาเงยหน้าขึ้น

"ฉันมีพายเนื้อ  สนใจจะกินด้วยกันไหม"  ยุนอาพูด  นั่งลงข้างเขา  พร้อมส่งจานอาหารให้  เขามองมัน  รู้สึกหิวขึ้นมาทันทีจึงรับมันมาถือไว้  และหยิบกินเพราะท่าทางคะยั้นคะยอของภรรยา

"รองท้องไปก่อน  แล้วค่อยไปกินต่อข้างใน" 

"ไม่เป็นไร  ฉันอิ่มแล้ว"

"ไม่เอาน่า  คริส  แค่นี้เธอไม่อิ่มหรอก  ฉันรู้"  ยุนอาพูด  พลางลูบเส้นผมยาวสีดำสนิทของเขาเล่น  เขาเอนศีรษะมาตามมือเธอ  "เธอไม่ควรไปถือสาแทยอน  ฉันบอกเธอแล้วไง"

"ฉันก็ไม่อยากคิดหรอก  แต่บางทีฉันก็รู้สึกเหมือนถูกทิ้ง  เวลายุนไปกับคุณแทสองคน"

"หึงเหรอ  หรือน้อยใจ"

"เปล่า  แค่..."

"พวกฉันไม่ได้ทำอะไรกันหรอก  เราแค่ไปดูแม็กซ์ด้วยกัน  ฉันอยากให้แทยอนคุ้นเคยกับแม็กซ์  ให้แม็กซ์ได้เห็นแทยอนบ่อยๆ  ถึงเขาจะยังไม่ลืมตา  แต่ฉันคิดว่าเขาสัมผัสได้ว่ามีคนพูดกับเขาอยู่"

"เหรอ  ก็ดีสิ"  คริสตัลตอบ  หลังจากกลืนพายเนื้อลงคอ  และกัดมันไปอีกคำ  แม้จะรู้สึกไม่ค่อยอยากกินแล้ว  ยุนอามองเขาอย่างอ่านท่าทางกันออก  เธออยู่กับเขามาตั้งแต่เขาอายุสิบสองจนวันนี้ยี่สิบสามย่างยี่สิบสี่  เกือบครึ่งชีวิตของเขา

"รออีกหน่อย  คริส  ฉันจะให้เธอเจอเขา"  เธอพูด  เสียงปลอบโยน

"เขาดูแย่แค่ไหนเหรอ"  เขาถาม  สนใจขึ้นมาแล้ว  และดูเหมือนจะดีใจที่เธอพูดแบบนี้  นัยน์ตาสองสีเป็นประกายความหวัง

"ก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น  แต่ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบห้องแล็บ  เธอคงทนไม่ได้ที่ต้องเห็นเขาอยู่แบบนั้น  แบบ...อาศัยอยู่ในหลอดทดลอง"

คริสตัลขมวดคิ้ว  ผละจากไหล่เธอออกมามองหน้ากัน  ท่าทางดูจะรับไม่ได้จริงๆ  ยุนอาจับคางเขาโยกไปมาเหมือนเล่นกับเด็ก  แต่สำหรับเธอ  ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นเด็ก  ยกเว้นเวลาเราทำเรื่อง "อย่างว่า" ด้วยกัน

"คราวนี้จะไปกินข้าวด้วยกันได้หรือยัง"

เขายิ้มเหมือนเด็ก  ทำให้เธอรู้สึกเหมือนคุยกับครูซอยู่  แต่เขากลับอุ่นใจที่ได้อยู่ใกล้เธอ  เธอยังทำให้เขารู้สึกเหมือนเมื่อสิบเอ็ดปีที่แล้ว  เป็นคุณหมอคนเดิมที่เขาหลงรัก  ให้เขาเลิกน้อยใจและคิดมากได้สักที

"คริส  แล้วเรื่องนิวยอร์กล่ะ"  เธอถามระหว่างเดินเข้าบ้านด้วยกัน  เธอเดินกอดอก  ขณะที่เขาถือแท็บเล็ตกับหนังสือที่ใช้ทำงาน  "เธอยังจะไปอยู่ไหม"

"ไปสิ  ฉันต้องไปทำงาน  พวกเกมเมอร์อยากเห็นตัวฉัน  ฉันต้องไปให้พวกเขาเห็นหน้าหน่อย  ค้างคืนเดียวเอง"  เขาตอบ  ร่าเริงเมื่อนึกถึงว่าจะได้ออกไปต่างเมืองบ้าง  ถึงซีแอตเทิลจะเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุด  แต่เขาก็ชอบนิวยอร์ก  เขาเคยไปกับเจสสิก้าหลายปีมาแล้ว  เขาไม่ค่อยได้ไปต่างเมืองนัก  ถ้าไปก็ไปต่างประเทศเลย

"งั้นเธอก็ควรจะบอกแทยอนด้วยนะ"

"เธอไม่ได้สนใจฉัน  แต่ถ้ายุนคิดว่าควรต้องบอก  ฉันก็จะบอก"

"เธอก็รู้ว่า  เธอไม่ควรโกรธเขา  ที่หึงหวง"

"ฉันไม่ได้โกรธ  ฉันแค่ไม่ชอบคนโวยวาย  ฉันปวดหัว"  เขาอ้าง

"ฉันก็ไม่ชอบ  แต่ถ้าเธอไม่ได้ทำผิด  ก็ไม่มีใครมาโวยวายใส่เธอได้หรอกนะ"  เธอพูดอย่างใช้เหตุผล  ยกมือข้างหนึ่งมาลูบไหล่เขา  "เธอต้องเข้าใจว่าเขารักเธอ  เขาถึงเป็นแบบนั้น"

"ฉันจำได้ว่า  เมื่อก่อนเธอไม่ได้เป็นขนาดนี้นะ  ยุน  แต่ตั้งแต่มีลูก  เธอก็ยิ่งทำตัวเหมือนแม่ฉัน"

"แปลว่าฉันไม่เหมือนสินะ  โล่งอกไปที"  เธอพูดทีเล่นทีจริง  เขายิ้ม  ดูอารมณ์ดีขึ้นเป็นกอง  "เธอเคยได้ยินที่เขาพูดกันไหมว่า  ผู้หญิงบางคนก็เชื่อว่า  การได้แก้ไขปรับปรุงนิสัยผู้ชายให้เป็นไปอย่างที่เธอต้องการ  แสดงถึงการที่พวกหล่อนรักเขามาก  อยากให้เขาดีขึ้น  อะไรทำนองนั้นน่ะ"

"หมายความว่า  ยุนไม่รักฉัน  ยุนก็เลยไม่คิดจะแก้ไขฉันล่ะสิ"  เขาพูดแล้วโดนบิดหูจนร้องโอยทันที  เขาต้องจับมือเธอไว้ไม่ให้บิดหูเขาขาด  แต่เธอก็ยังเตะข้อพับเขาจนเกือบล้มหน้าทิ่ม 

"โอ๊ย  ยุน  ทำฉันทำไมเนี่ย!"

"เบื่อคนแกล้งโง่ไง  เวลาน้อยใจอะไรแล้วพาลฉันทุกที" 

"แหม  มันก็ต้องมีบ้างสิ  เผื่อวันดีคืนดี  ยุนจะเบื่อฉันขึ้นมา"

"ฉันจะเบื่อก็ตรงที่เธอทำเป็นไม่รู้ใจฉันนี่แหละ  เราอยู่ด้วยกันมานานแค่ไหนแล้ว  คริส" 

เขายิ้มแห้งๆ ให้เธอ  พลางพยักหน้าด้วยสีหน้ารู้สึกผิด  และก้มหน้ามองปลายเท้าขณะเดินต่อเข้าบ้าน  แล้วยิ้มออกมาเมื่อเธอชะโงกขึ้นจูบแก้ม  แม้เธอจะย่นจมูกและส่ายหัวให้อย่างเอือมๆ

"คุยกับเขาดีๆ คริส  แทยอนน่ะรักเธอนะ  แค่เขากับฉันแสดงออกต่างกัน  ยิ่งช่วงนี้เธอยิ่งอย่าไปถือสา  อารมณ์ก็เหมือนตอนท้องเด็กๆ แหละ"

"และฉันก็รับกรรมทุกทีสินะ  เวลาเหวี่ยงใส่ใครไม่ได้"

"ก็คิดซะว่า  เป็นหน้าที่ของสามีไง  ทนๆ ไปเถอะ"

"ก็ได้"  เขาตอบอย่างขอไปที  และเลิกคิ้วเมื่อยุนอาชี้หน้า

"แล้วก็อีกอย่าง  เธอควรอธิบายตัวเองบ้าง  ว่าออกไปทำอะไรดึกๆ  อย่าปล่อยให้เขาเข้าใจผิดไปเรื่อยๆ แบบนี้  มันไม่ดีกับใครเลย  รู้ไหม"

"จะอธิบายยังไง  ถ้าไม่มีใครฟัง  หรือต่อให้พูดก็ไม่มีใครเชื่อหรอก  หรือถ้าเชื่อ  ก็คงจะหาว่าฉันโรคจิตอีกนั่นแหละ  ที่ไปดูผู้หญิงทำแบบนั้น"

"จริงๆ ก็โรคจิตอยู่นะ  ทำไมเธอชอบดู"  ยุนอาถามอย่างกังขา  เขายิ้มแห้งๆ  ยกมือข้างที่ว่างขึ้นเกาหัว  "แล้วดูแล้วไม่รู้สึกอะไรเลยรึไง  แปลก"

"ก็รู้สึก  แต่ขยะแขยงมากกว่า  ก็เลยกินแต่เลือดไง"

"ถ้างั้น  ถ้าเลิกกินเลือดแบบนั้นได้  เปลี่ยนมากินเป็นถุงๆ ก็ไม่ต้องไปทำแบบนั้นแล้วใช่ไหม"

"คงงั้นมั้ง  แต่ฉันก็ยังอยากกัดใครสักคนอยู่นะ  ถึงจะอิ่มแล้ว"

"กัดฉันก็ได้  ฉันไม่ว่า  ฉันชอบ"  เธอพูด  ยื่นมือมาให้เขาแบบที่ลูกๆ ชอบทำ  เขายิ้มสดชื่นขึ้น  และยื่นมือมาแปะกับมือเธอ  แล้วเธอก็จับมันไว้ก่อน  "ต่อไปนี้  เราจะคุยกันด้วยเหตุผลนะ  ห้ามใช้อารมณ์  เรามีเด็กๆ อยู่ในบ้านหลายคน  ฉันไม่อยากให้พวกเขารู้สึกว่าความรุนแรง  หรือการทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ  คนข้างนอกคิดว่าสมิธเป็นพวกไม่ดีอยู่แล้ว  คิดว่าเราเป็นปีศาจ  แต่เราไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น  โลกข้างนอกมันไม่น่าอยู่พอแล้ว  ไม่ต้องไปเพิ่มมันอีกหรอก"

"นี่ใช่ยุนจริงๆ เหรอเนี่ย"  เขาแซว  เธอกลอกตาและชกหน้าอกเขา

"ฉันแค่ไม่อยากให้เด็กๆ มาแย่งหน้าที่ฉันต่างหากล่ะ  เดี๋ยวฉันจะไม่มีอะไรทำ  ฉันน่ะชอบฆ่าคน  รู้ไหม"

"แจ่มแจ้งเลยค่ะ  ที่รัก"  เขาตอบ  ยิ้มตาหยีให้เธอต้องยิ้มตาม

"นี่อย่าทำรื่นเริงนัก  เดี๋ยวก็โดนแขวะอีกหรอก"  ยุนอาเตือน  แค่เธอบอกแทยอนว่าจะออกมาตามคริสตัลเข้ามากินข้าวเที่ยงด้วยกัน  รายนั้นก็ทำหน้าตาไม่พอใจแล้ว  หาว่าเธอเอาใจคริสตัลมากเกินไป  แต่เธอก็ไม่เห็นว่ามันจะผิดอะไร  ถ้าจะเอาใจสามีบ้าง 

"ฉันต้องทำหน้าเศร้าๆ ใช่ไหม"

"แค่ทำเฉยๆ ก็พอ"

"โอเค"  เขารับปาก  แต่ไม่วายหัวเราะให้โดนชกใต้เข็มขัดอีกจนได้

"โอ๊ย  ใช้งานไม่ได้แล้วมั้งเนี่ย!"

"อย่ามาสตอ  คริส  รีบๆ เดินเข้าไปเลย  เดี๋ยวไอรีนร้องไห้แล้วจะยุ่งกันใหญ่  แล้วแม็กซ์ก็จะได้ตื่นขึ้นมาอาละวาดอีกคน"

คริสตัลทำหน้าสยดสยอง  รีบก้าวเข้าบ้านเร็วๆ ทันที  แค่แทยอนคนเดียว  เขาก็เกินจะรับไหวแล้วละนะ 


.....................

Happy Father's day! (วันพ่อสากล)

 :21: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

18 มิถุนายน 2018 เวลา 14:43:19
พี่เจเป็นจ่าฝูงนะ ใครๆก็ต้องเกรงใจพี่เจซิ ทำไมน้องสะใภ้ไม่เกรงใจกันบ้าง
แสดงความคิดเห็น