web stats

ข่าว

 


Immortals (Sparkle 4) - บทที่ 10 Sick Boy

โพสต์โดย: anhann วันที่: 03 มิถุนายน 2018 เวลา 19:22:34 อ่าน: 195



บทที่ 10 Sick Boy







"เผาให้หมดทุกชิ้น"  เจสสิก้าออกคำสั่ง  พนักงานที่เป็นหมาป่าแฝงตัวอยู่ในบริษัทกระวีกระวาดทำตามคำสั่งของเธอทันที 

"คริสกำลังมาค่ะ"  เม็บบอก  เธอเพิ่งคุยกับคริสตัลเสร็จเมื่อกี้  เขาโทรมาถามข่าวคราวอย่างเป็นห่วง  และเธอแจ้งไปว่า  แทยอนแนะนำให้ทำอย่างไรกับของของคลอเดีย 

เจสสิก้าพยักหน้ารับ  หันไปสั่งแมกนัสให้เดินตามบิลลี่  ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่คริสตัลไว้ใจไปด้วย  ขณะที่เขาเดินตรวจว่ามีอุปกรณ์อะไรแปลกปลอมซ่อนอยู่ในบริษัทอีกหรือไม่  หลังจากเธอเจอเครื่องดักฟังเสียงซ่อนอยู่ในของทุกชิ้นที่มีคนไร้ชื่อส่งมาให้คลอเดีย

แทยอนขอร้องแกมสั่งให้ยูริพาคลอเดียไปส่งบ้านและอยู่เป็นเพื่อน  เพราะคุณเลขาขวัญเสียมากเมื่อรู้เรื่องนี้  จะไม่บอกก็เกรงว่าหล่อนจะไม่ระวังตัว  แต่พอบอกไปแล้วก็ต้องเจออาการสติแตกรับไม่ได้ซะอีก

"แบบนี้ถ้าจับไม่ได้  จะยิ่งลำบากนะคะ"  เม็บพูด  มองหน้าเครียดๆ ของเจสสิก้าอย่างเห็นใจ 

"ปัญหามีไว้ให้เราแก้"   เจสสิก้าตอบ  ผงกหัวรับสายตาทักทายจากน้องตัวโย่งของเธอที่เพิ่งเดินมาถึงโกดังหลังอาคารสำนักงานที่เธอสั่งย้ายของของคลอเดียมาจัดการต่อที่นี่   "ไอรีนกับแทยอนอยู่ข้างบน"

"ฉันบอกเธอให้รออยู่ที่นั่นก่อนแล้วกลับบ้านด้วยกัน"  คริสตัลตอบ

"ฉันให้คนของเธอช่วยเดินตรวจอาคารอย่างละเอียด" 

"โอเค  งั้นฉันจะเช็กดูอีกที" 

เจสสิก้าพยักหน้า  พลางส่งของให้น้อง  "บิลลี่แกะมันออกมาอันนึง  เธอลองเอาไปดูสิ  เขาทำให้มันใช้งานไม่ได้แล้วละ"

คริสตัลรับของไป  พลางล้วงชุดไขควงขนาดเล็กไปจนอันจิ๋วจากกระเป๋าเสื้อสูทด้านในออกมาทำการผ่าพิสูจน์มัน 

"เขาดูไม่เหมือนพวกจอมป่วนเลยนะคะ"  เม็บวิจารณ์เบาๆ  ข้างหูเจสสิก้าที่ทำหน้าตาขำๆ ใส่เธอ  "จริงๆ เขาดูเท่ด้วยแหละ"

"ไปบอกเขาสิ"  เจสสิก้าประชด  เม็บก็ค้อนเธอขวับ  ทำท่าจะเดินหนีไป  "ขอบใจที่มานะ  และฉันพูดจริงๆ  ไม่ได้ประชด"

เม็บยิ้ม  แต่เหมือนแยกเขี้ยวให้เธอมากกว่า 

"ฉันกลับก่อนนะคะ  เกรงใจคุณยุน"

"เสร็จธุระแล้วจะรีบกลับ"  เจสสิก้าบอก  มองตามหลังแม่ของลูกไปจนรู้สึกว่าคริสตัลมายืนข้างๆ  เธอจึงหันมามองเขา  ฟังเขาพูด

"ของแบบนี้หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายอุปกรณ์สายลับ  เกรดต่ำ  เหมือนของเด็กเล่น  มันเหมือนจงใจจะป่วนเรามากกว่า"

"ป่วน  เพื่ออะไร"

คริสตัลยักไหล่  บี้เครื่องดักฟังเป็นผงด้วยมือเปล่า  และเป่าผงฝุ่นออกไปด้านข้างคนละทางจากที่พี่สาวยืนอยู่  "อาจเป็นพวกเดียวกันกับที่มันมาป่วนแล็บของยุนก็ได้"

"เราไปทำอะไรใครไว้หรือเปล่า  คริส"  เจสสิก้าชักสงสัย  คริสตัลขมวดคิ้วทำท่าคิด  "เธอนั่นแหละ  เธอไปทำอะไรใครไว้หรือเปล่า  ไปได้เขาทิ้งๆ ขว้างๆ ใช่ไหม"

"เฮ้  ไม่ใช่ละ"  คริสตัลหน้าเสีย  มองซ้ายมองขวากลัวว่าแทยอนจะโผล่มาแถวนี้  และแม้จะไม่มีเงาของนางจิ้งจอก  เขาก็ลดเสียงพูดลง  "โอเค  ฉันทำ  แต่ไม่ใช่แบบนั้น"

"แบบนั้น  คือแบบไหน  มันมีหลายแบบด้วยเหรอ  เรื่องนอกใจน่ะ"

"ไม่ใช่นอกใจ  เจ!"

เจสสิก้าไม่อยากฟัง  แต่ถ้าไม่ฟัง  เธอก็จะไม่รู้เรื่อง  "งั้นพูดมา"

"ฉันต้องกินเลือดมนุษย์  แล้วฉันจะกินจากไหน  ถ้าไม่ใช่จากผู้หญิงพวกนั้น"

"จากห้องแล็บยุนอาไงล่ะ"

"ไม่ได้  ฉันต้องกินสดๆ  อุ่นๆ จากตัวมนุษย์  ฉันไม่ใช่แวมไพร์นะเจ  ถึงจะกินเลือดอะไรก็ได้"  เขาพยายามอธิบาย  ท่าทางเป็นเดือดเป็นร้อนมากกว่าที่เจสสิก้าคิดไว้  แต่เธอก็ยังระแวงเขาอยู่ดี 

"โอเค  ฉันนอนกับพวกหล่อนด้วย  บางคน  แต่ฉันป้องกันทุกครั้ง  และยุนก็รู้ด้วย  ฉันไม่ได้ทำโดยพลการ"

"แล้วไง  แล้วเธอคิดว่าฉันจะรับได้เหรอ  เรื่องแบบนี้"

"เพราะงั้น  ฉันถึงไม่บอกเจไง"  เขาตอบ  ความรู้สึกผิดปรากฏในดวงตาสองสี  "ฉันคิดว่า  ฉันทำให้พวกหล่อนลืมหมดแล้วนะ  ทุกคน"

"แล้วเธอรู้ไหมว่า  มันมีบางคนที่ดึงความทรงจำในส่วนที่เธอกดทับมันไว้ออกมาได้"  เธอย้อนถาม  เขาทำหน้านึกได้แล้วตกใจ  ส่วนเธอถอนใจ 

"เรามีศัตรูอยู่ทุกที่  คริส  ฉันเข้าใจความจำเป็นของเธอ  แต่ฉันก็อยากให้เธอระวังหน่อย  เพราะตอนนี้มันไม่ใช่แค่เธอ  ยุนอา  หรือแทยอน  เธอมีลูกสามคน  สามคนนะ  คริสตัล  พวกเขาจะคิดยังไงที่พ่อเป็นแบบนี้"

คริสตัลทำท่าปวดหัว  เขาเพิ่งสนุกกับลูกฝาแฝดมาเมื่อกี้เอง

"แล้วถ้าคนพวกนั้นมันคิดจะทำอะไรลูกเธอล่ะ  เธอจะทำยังไง"

"มันต้องตาย"  เขาตอบ  ตาวาวโรจน์  เจสสิก้ารู้สึกว่าขนที่แขนเธอลุกชัน  "ลูกฉันไม่เกี่ยว  ถ้าอยากทำ  มาทำฉัน"

"ทำกับเธอแล้วก็โดนเชือดน่ะเหรอ  โง่ตายสิ"

"นี่เจกำลังเข้าข้างพวกมันนะ"

"ฉันแค่คิดแบบพวกมัน  ลองคิด"  เธอชี้แจง  เขากลอกตา  เธอต้องพูดให้เขาใจเย็นลง  "แต่อย่าเพิ่งปักใจเชื่อเลยดีกว่า  ว่ามันเกิดจากเธอ"

"ถ้างั้นจะเพราะใครล่ะ  เจไม่เคยไปทำอะไรใครนี่"  คริสตัลพูด  แล้วชะงักกับสายตาของพี่สาว  "ยุน  ยุนงั้นเหรอ"

"ไม่รู้สิ  แต่มันเริ่มที่แล็บก่อนนะ  มันควรจะมาจากคนใน  หรือคนที่เกี่ยวข้องกับคนใน"  เจสสิก้าสันนิษฐาน  "น่าแปลกที่ตอนนี้เรายังจับมือใครดมไม่ได้  มีใครหายไปหรือเปล่า"

"ไม่รู้สิ  ฉันไม่ได้ถามยุนเลย  ทั้งเรื่องลูก  เรื่องงาน  วุ่นไปหมด"

"แล้วเขาก็ไม่ได้พูดอะไรเลยหรือ"

คริสตัลส่ายหน้า  "เขาก็ดูยุ่งๆ ตามปกติ  ตอนแรกวันนี้เขาก็ไม่ได้รับปากว่าจะไปดูแคลร์กับฉัน  แต่เขาก็ไปตอนงานเลิกแล้ว  ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก  เขาไปก็ดี  ลูกก็ดีใจ  แต่ไม่รู้สิ  เจว่ามันผิดปกติหรือเปล่าล่ะ"

"ไม่  เขาก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วนี่"  เจสสิก้าตอบ  "ส่วนแทยอน  ฉันนึกไม่ออกว่าเขาไปทำอะไรใครไว้หรือเปล่า"

"มันอาจจะมีก็ได้  อายุไม่ใช่น้อยๆ"

"นินทาเมีย  ระวังให้ดีเหอะ"

"เปล่า  ก็เจถามเองนะ"  คริสตัลว่า  ทำหน้ายุ่งเหยิง  เขาจะเดินหนีพี่ไปแต่ก็นึกอะไรได้ก่อน  "อ้อ  เจ  ลูนบอกว่าไม่มีใครฝ่าด่านเข้ามาได้นะ"

"ถ้างั้นก็เลิกค้นหาได้แล้วสิ"

"ได้  แต่เพื่อความสบายใจว่าไม่มีใครเอาโมเดมผีมาไว้ในบริษัทเรา  ก็ตรวจไปดีกว่า  ของแบบนี้มันไม่แน่หรอก"

"ทั้งที่เรามีระบบป้องกันดีขนาดนี้น่ะเหรอ"

"มันอาจจะยังดีไม่พอ"  เขาพูด  ดูหงุดหงิดขึ้นมาทันที  "อย่างกรณีของคลอเดีย  เจคิดออกไหมว่ามันมาจากอะไร"

"ฉันให้สิทธิเขามากเกินไป"  เจสสิก้ายอมรับผิด  "คลอเดียไม่ต้องรูดบัตรเข้าออกจากตึก  แค่ลงบันทึกประจำวันไว้ให้ฉัน  และไม่ต้องเดินผ่านช่องตรวจเหมือนพนักงานคนอื่นๆ"

"นั่นคือจุดอ่อนละ"  คริสตัลชี้  แต่ไม่ได้ตำหนิพี่สาวที่ให้สิทธิเลขาประจำตัวมากแบบนี้  เจสสิก้าคงแค่อยากให้คลอเดียคล่องตัวเวลาทำงาน

"งั้นต่อไป  ต้องทำเหมือนกันหมดทุกคน  แม้แต่พวกเรา"

"แค่พนักงานกับแขกก็พอมั้ง"

"แล้วลูกค้าล่ะ  ถ้าทำแบบนั้นกับพวกเขาก็จะถือเป็นการดูถูกนะ"

"ถ้างั้นเจต้องลงทุนหน่อย  ติดเซนเซอร์แสกนสิ่งน่าสงสัยตั้งแต่ประตูทางเข้าเลย  ทำเหมือนเป็นประตูเฉยๆ  ไม่ต้องเดินผ่านช่องละ"

"แบบนั้นคงร้องระงมทั้งวันแน่  แล้วพอมันร้องที่ใคร  รปภ.ก็จะพากันวิ่งไปจับเขาหรือเธอคนนั้นสินะ  แล้วถ้าเป็นแขกคนสำคัญของเราล่ะ"

"เราก็จบเห่"

เจสสิก้ากลอกตา  "ไม่ดี  ทำแบบนั้นไม่ได้  เราเข้มงวดได้แค่กับพนักงานของเรา  กับลูกค้า  ถ้าเราทำแบบนั้น  เราจบ"

"แล้วถ้าพวกนั้นแฝงตัวมาเป็นลูกค้าล่ะ"

"เรามีบันทึกแขกที่เข้ามาติดต่องานกับเรา  ทุกคนต้องให้ชื่อจริง"

"โอเค  ถึงจะชื่อปลอมก็ยังพอสืบต่อได้อยู่  ฉันจะให้ทีมของฉันเช็กกล้องวงจรปิดอย่างดีตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงทุกวันไม่เว้นวันหยุดละกัน"  คริสตัลบอก  พลางจิ้มคำสั่งส่งไปทางโทรศัพท์มือถือของพนักงานในทีมที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยทุกคน

"เรียบร้อย  เรากลับกันเลยไหม"  เขาถาม  มองตามพี่สาวที่กำลังดูพนักงานทำความสะอาดขี้เถ้าจากการเผาของขวัญของคลอเดีย  "สติแตกไปเลยสินะ  เลขาเจ"

"ฉันคิดว่าจะให้เขาหยุดพักสักสองสามวัน  และส่งคนไปคอยดูแลอย่างใกล้ชิด  ในกรณีที่พวกนั้นอาจย้อนกลับมา"  เจสสิก้าบอก  พยักหน้าเรียกให้น้องเดินตามกันไป 

"งั้นเจก็ควรจะบอกเธอด้วยนะ  เดี๋ยวจะตกใจไปอีก  มีคนน่ากลัวๆ มาเดินตามต้อยๆ"

"ต้องบอกอยู่แล้วละ  ฉันไม่อยากเสียพนักงานดีๆ ไปหรอก"

คริสตัลยิ้มบางๆ ให้พี่สาว  พลางกดลิฟต์  แต่เจสสิก้าเปลี่ยนใจขอขึ้นไปด้วยบันได  "เอาจริงเหรอ  เจ  มันสูงนะ"

"แค่ยี่สิบชั้นเอง  ไม่เป็นไรหรอกน่า  ฉันอยากดูอะไรๆ บ้าง"

"โอเค  ตามใจ  แล้วอย่าบ่นละกัน"

เจสสิก้าพยักหน้า  แล้วก็นึกเสียใจหน่อยๆ ที่ไม่ยอมขึ้นลิฟต์  ขาเธอเริ่มจะก้าวไม่ออกแค่ชั้นห้าเท่านั้น  ขณะที่คริสตัลยังเดินปร๋อสบายใจ  คงเพราะเขาขายาวกว่าเธอแน่ๆ  เขาก้าวหนึ่งก้าวเท่ากับเธอสองก้าว  และยังก้าวขึ้นบันไดทีละสองขั้นซะอีก  "เฮ้  จะรีบไปไหนล่ะ  รอด้วยสิ"

"เช็กนู่นนี่ไปด้วยไงล่ะ  เจอยากให้ฉันทำแบบนี้ไม่ใช่เหรอ"  เขาตอบ  กวาดตามองไปรอบๆ อย่างสำรวจตรวจตรา  "ยังไม่ถึงครึ่งทางเลยนะ  เจ"

"โอเค  เดินต่อไป"  เจสสิก้ากลั้นใจพูด  นึกในใจว่าเธอคงต้องออกกำลังกายบ้างแล้ว  หรือวิ่งเล่นกับเจย์เดนให้มากกว่านี้  คริสตัลวิ่งไล่จับกับฝาแฝดและไอรีนเป็นประจำ  แถมยังเล่นกีฬาด้วยกันบ่อยๆ  ไม่ต้องเข้ายิม  เขาก็แข็งแรง  ปกติเขาก็แข็งแรงมากกว่าเธออยู่แล้ว  กล้ามแขนเขาใหญ่กว่าขาเธออีกละมัง 

"มันก็ตลกอยู่หน่อยๆ เหมือนกันนะ  ประธานกับรองประธานมาเดินตรวจบันไดตึก"  เขาพูด  ฟังดูเหมือนจะขำแต่สีหน้าไม่ขำเท่าไหร่  เขาดูโกรธและหงุดหงิดมากกว่า  "แต่อะไรที่เราทำเองได้  มันก็น่าจะดีกว่ามั้ง"

"ฉันไม่ได้ไม่ไว้ใจพนักงานเรา  แต่ฉันไม่เคยดู  และฉันอยากดู"

"ก็โอเค  เจ"  คริสตัลพึมพำพร้อมกับยกเครื่องอะไรสักอย่างขึ้นส่องไปทั่วทางที่เดินขึ้นไป  เจสสิก้าเดาว่ามันเป็นเครื่องจับสัญญาณแม่เหล็ก  หรือเครื่องตรวจหาคลื่นวิทยุ

"เจเคยดูพวกหนังขบวนการจับผีไหม  ฉันว่าที่เรากำลังทำอยู่ก็คล้ายๆ อย่างนั้นเลยนะ"  เขาพูดขึ้นราวกับอ่านใจเธอออก

"เราก็กำลังจับผีไง  ผีไซเบอร์"  เธอพูด  พยายามทำขำ  แต่มันฝืดเหลือเกิน  เขาหันมาย่นคิ้วใส่เธอเหมือนเธอเป็นครูซนัมเบอร์ทู  "พวกนั้นคงขำตายละ  ถ้ารู้ว่าทำให้เราวุ่นวายกันได้แบบนี้"

"ช่างหัวพวกมันเหอะ  ฉันชอบ  และจะชอบมากถ้าเจอมัน"

"เธอจะทำอะไร  จ้างมันมาเป็นพนักงานงั้นเหรอ"

"ฉันจะจับมันโยนใส่กรงเสือ"

"แล้วถ้ามันกลายร่างล่ะ"

"ยุนมียายับยั้งการกลายร่าง  มันอยู่ได้ยี่สิบชั่วโมง"

"เออใช่  ฉันลืม"  เจสสิก้าพึมพำ  ขนลุกกับความโหดของยุนอา

เราพากันเดินต่อไปจนเกือบถึงชั้นดาดฟ้าก็ยังไม่เจออะไรน่าสงสัย  นอกจากพนักงานบางคนที่แอบมาสูบบุหรี่  ไม่ยอมไปสูบในจุดที่บริษัทมีให้  เจสสิก้าตักเตือนพวกเขาไปด้วยคำพูดสุภาพตามปกติ  แต่พวกเขาก็หัวหดกันไปเลย  ไม่แปลก  ขนาดคริสตัลยังขนหัวลุกเลยกับน้ำเสียงของพี่สาว

"จะหยุดก่อนไหม  เจ"

"ไม่  ไปต่อให้สุดทาง"  เจสสิก้าพูดอย่างมุ่งมั่นทั้งที่แทบจะก้าวขาไม่ออก  "ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว  ถ้าไม่ขึ้นไปให้สุดจะมาทำไม"

"ฉันไปต่อคนเดียวไง  เจรออยู่นี่ก็ได้"

"ไม่เอา  ฉันอยากไปกับเธอ"

"โอเค  ขี่หลังได้นะ  เจตัวนิดเดียว" 

"ขอบใจ  แต่ฉันยังไหว"

คริสตัลพยักหน้า  เดินนำต่อไปจนกระทั่งถึงประตูทางออกดาดฟ้า  เสียงสัญญาณเตือนจากเครื่องมือในมือเขาก็ดังขึ้นเป็นเสียงแหลมสูง  เขาแทบจะโยนมันทิ้งไปเลย  ถ้าไม่ได้ยินเสียงพี่สาวร้องสั่งเสียก่อน

"ทนหน่อย  คริส  หามันให้เจอ  ถ้าเจอแล้วก็กระทืบมันทิ้งไปเลย!"

หากเป็นเวลาปกติเขาคงหัวเราะไปแล้ว  แต่ตอนนี้เขาปวดหัวจนแทบจะระเบิดเพราะเสียงเวรตะไลนี่  เขาคงต้องดัดแปลงให้เครื่องเวรนี่เตือนด้วยเสียงอื่นที่ไม่ใช่แหลมแสบแก้วหูหมาป่าแบบนี้ 

"มันคืออะไร  คริส" 

"ดูเหมือนจะเป็นเครื่องเล่นเกมฮอโลแกรม"  คริสตัลตอบ  ฉีกกล่องกระดาษที่วางไว้โล่งๆ บนบันไดขั้นสุดท้ายก่อนถึงประตูไปสู่ดาดฟ้าของตึกสำนักงาน  เขาปิดเครื่องตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว  แต่หูเขายังได้ยินเสียงวิ้งๆ อยู่ครู่ใหญ่ๆ ก่อนมันจะหายไป

"แล้วมันมาทำอะไรที่นี่ล่ะ"

"นั่นสิ  มันมาทำอะไรที่นี่"  เขาพูดตามพี่สาว  พลางตรวจเช็กเครื่องด้วยสายตาว่าใช่ของบริษัทเราหรือไม่  เขาเชื่อว่าตัวเองจะต้องแยกมันออก  แม้จะไม่ใช่คนผลิตชิ้นส่วน  และไม่ได้ตรวจเครื่องเล่นทุกชิ้นจากโรงงาน  มันจะต้องมีตรวจสัญลักษณ์ของบริษัทติดอยู่ถ้าเป็นของแท้ของเรา  เจสสิก้าสั่งเอาไว้ชัดเจนแล้วว่ามันต้องมี

"ไม่ใช่ของเรา"  เขาพูดกับพี่สาว  เจสสิก้าเลิกคิ้ว  แปลกใจ  "ไม่แน่อาจเป็นของก้อปปี้ที่ฉันเคยสั่งให้บิลลี่ไปลองซื้อมาเทียบกับของเราดู  แต่มันก็ไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ได้นะ"

"แล้วที่เครื่องเธอมันร้องเมื่อกี้   เพราะ..."

"ขอเวลาแป๊บ"  คริสตัลว่า  แล้วเขาก็เริ่มชำแหละเครื่องเล่นเกมออกเป็นชิ้นๆ ด้วยเครื่องมือที่พกติดตัวมาเสมอ  เจสสิก้ามองเขาทำ  แต่ไม่รู้อะไรมากนัก  ถ้าเป็นเธอลองรื้อออกมาแบบนี้  ไม่มีทางจะประกอบกลับไปได้ครบทุกชิ้นแน่ๆ  มันจะต้องมีน็อตสักตัวเหลืออยู่ตลอด 

แบบนี้เธอต้องแพ้แน่ๆ  ถ้าแข่งต่อไดโนเสาร์แข่งกับเขา  มิน่าไอรีนถึงได้อวดปะป๊าซะเหลือเกิน  คริสตัลเป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้มือ  แต่เธอไม่ได้หมายถึงเรื่องแบบนั้นนะ

"คงจะเป็นชิพตัวนี้ละ"  เขาบอก  ใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งหยิบชิพอันเล็กๆ ขึ้นมาโชว์ให้เจสสิก้าดู 

"มันคือ..."

"ผู้ก่อการร้ายตัวจิ๋ว"  คริสตัลพูด  นัยน์ตาสองสีฉายแววร้ายกาจจนพี่สาวเริ่มไม่ไว้ใจ  "ถ้าใครเอาเจ้าเครื่องนี้ไปลองเล่นดูละก็  เจ้าชิพนี่มันก็จะพยายามเจาะกำแพงระบบป้องกันของเราเข้ามา  แต่ต้องเล่นที่นี่เท่านั้นนะ"

"งั้นที่มันนอนรออยู่ตรงนี้  เผื่อจะมีใครสักคนอยากได้ของฟรีเอาไปเล่นหรือไง"

"ไม่ใช่  คืองี้  เจ  ฉันสั่งให้บิลลี่ไปหาเครื่องก้อปปี้ที่ทำเลียนแบบของของเราในท้องตลาดมาลองเล่นเปรียบเทียบกับของจริงของเราไง"

"ถ้างั้นมันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงล่ะ  ใครเอามันมา  แล้วเอามาวางไว้ตรงนี้ทำไม  แล้วมีใครเล่นมันไปหรือยัง"

"ฉันไม่แน่ใจ  แต่ที่แน่ๆ  คือมันเจาะกำแพงของเราไม่ได้  เพราะถ้ามันทำได้ละก็  ลูนจะต้องแจ้งฉันแล้ว  บางทีมันอาจจะแค่ลองดูก่อน"

"ดูลาดเลาสินะ"

"น่าจะเป็นอย่างนั้น"  คริสตัลตอบ  พลางเก็บชิพใส่กระเป๋า  "คงถึงเวลาจัดระเบียบบริษัทใหม่แล้วละ  โดยเฉพาะพนักงาน"

เจสสิก้าสบตาสองสีของน้อง  บอกได้ทันทีว่าเขาพูดถูกและตรงใจเธอมาก  "แล้วจะเริ่มเลยไหมล่ะ"

"ก็ควร  แต่วันนี้คงไม่ทันแล้วละ  เลิกงานแล้วนี่  ถ้าจะเรียกพวกเขากลับมาใหม่  ก็คงจะกระโตกกระตากเกินไปมั้ง  อีกอย่าง  ฉันอยากกลับบ้านแล้วด้วย  หิว"

"ไหนว่ากินกับแฝดมาแล้ว"

"ไอติมอะนะ  ยังไม่ได้ก้นกระเพาะฉันเลยเหอะ  เจ"  เขาว่า  พลางหอบกล่องกระดาษลงบันไดไป  แล้วหยุดรอเธอก่อน  "เจจะขึ้นไปบนดาดฟ้าด้วยไหมล่ะ  แต่ไม่เป็นไร  ฉันไปเองดีกว่า  ฉันไปเร็วกว่า  เจรออยู่นี่แหละ"

เจสสิก้ายังไม่ทันจะเอ่ยตอบ  ร่างสูงใหญ่ก็พุ่งพรวดขึ้นบันไดมา  แทรกเธอไปเปิดประตูเหล็กฝืดๆ ออกและหายขึ้นไปข้างบน  ไม่ถึงสองนาทีเขาก็กลับมาพร้อมกับส่ายหน้าไปมา  ดูเหมือนจะผิดหวังหน่อยๆ

"ไม่มีอะไร  มีแค่ก้นบุหรี่กับต้นไม้ตาย  เจน่าจะให้คนมาดูแลสวนบนนี้บ้างนะ  น่าเสียดาย  มันคงเป็นที่พักผ่อนสำหรับพนักงานได้"

"อืม  แล้วเตือนด้วยละกัน"  เธอพูด  เขาพยักหน้าแล้วเดินนำลงบันไดไปพร้อมกล่องใส่เครื่องเล่นเกมฮอโลแกรมเจ้าปัญหาที่หนีบไว้ข้างตัว  ท่าทางเขาไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเหมือนตอนแรกแล้ว  เขาดูสนุกมากกว่า 

"เธอคิดอะไรอยู่"

"ฉันรู้สึก...ถูกท้าทาย"  เขาตอบ  แววตาน่ากลัวแปลกๆ  "ฉันก็ชอบอยู่นะ  มันทำให้เรามีแรงกระตุ้นใหม่ๆ  ให้อยากลองทำอะไรใหม่ๆ"

"โอเค"  เจสสิก้าพึมพำ  ลังเลใจว่าจะสนใจอะไรก่อนดี  ระหว่างขาที่ปวดหนึบ  กับระแวงความคิดในหัวของน้อง

..........................................

"ถ้าเผาไปแล้ว  เราก็ไม่มีอะไรให้ตรวจแล้วสิ"  ยุนอาพูดขึ้นด้วยท่าทีคล้ายจะตำหนิหน่อยๆ ที่เจสสิก้าทำอะไรไม่ปรึกษาเธอ  แต่แทยอนก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน  ขณะที่คริสตัลที่มีแซนด์วิชอยู่เต็มปากนั้นพูดไม่ได้

"ฉันตรวจทุกชิ้นแล้ว  ไม่มีลายนิ้วมือค่ะ  รอยเลือดก็ไม่มี  ทำตามที่กองพิสูจน์หลักฐานควรจะทำทุกอย่าง"

"อ้อ  ลืมไปว่าเธอเป็นใคร" 

แทยอนยักไหล่  ยื่นขวดน้ำให้คริสตัลที่ยิ้มขอบคุณเธอ  เขาดื่มน้ำและกินต่อ  พลางใช้มือข้างเดียวกดแป้นพิมพ์  ก่อนจะเลิกพิมพ์มันมานั่งดูจอที่ปรากฎตัวเลขอะไรเป็นพรืดเต็มไปหมด  น่าจะเป็นโค้ดเกี่ยวกับงานเขาที่เธอไม่มีทางเข้าใจ  และคงปวดหัวตายก่อนถ้าคิดจะเรียนมันตอนนี้

"แฮกเกอร์คนนั้นว่าไงบ้าง  คริส"  ยุนอาหันไปถามคริสตัลแทน

"คงอีกสองสามวัน  มันต้องสืบลึกเข้าไปในกลุ่มเฉพาะของพวกเขา"

"ต้องพวกใต้ดินเหมือนกัน  ถึงจะคุยกันรู้เรื่องสินะ" 

"ใช่  ฉันลองแปลงตัวเข้าไปแล้ว  แต่แอดมินเว็บมันไม่ไว้ใจ  มันต้องมีคนแนะนำ  มันถึงจะให้เข้าไปคุยไปลองใช้ได้  มันป้องกันตัวเองน่าดู  กลัวตำรวจแฝงตัวเข้าไปสืบอะไรๆ มั้ง"  คริสตัลเล่าเป็นฉากๆ  ยุนอาพยักหน้ารับ  พอจะเข้าใจการทำงานของพวกที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดพวกนี้อยู่บ้าง

"ถ้างั้นฉันคงไม่ต้องแปลคาถาแม่มดอะไรนั่นแล้วใช่ไหม"  แทยอนถาม  ยุนอาเงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่ก้มอ่านอยู่มาส่ายหัวให้เธอ  "ทำไมล่ะ  ก็มันไม่เกี่ยวกับมนตร์คาถาอะไรแล้วนี่"

"รู้ไว้ก็ไม่เสียหลายหรอก  วันหนึ่งอาจจะได้ใช้ก็ได้"

"แล้วคุณล่ะ  จับหนอนของคุณได้หรือยัง"

"มันหนีไปแล้ว"  ยุนอาตอบหน้าตาเฉย  "ฉันให้คนตามตัวมันอยู่  แต่ฉันกลัวว่ามันจะโดนฆ่าตัดตอนเสียก่อนน่ะสิ"

"ดูเหมือนเป็นอาชญากรรมระดับประเทศเลยนะ"  แทยอนวิจารณ์  ทำหน้าเหลือเชื่อ  เธอรู้สึกถึงกลิ่นแปลกๆ จากเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา

ยุนอาพยักหน้าเห็นด้วย  "ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น  สำหรับสังคมของเรามันเรื่องใหญ่นะ  เธอน่าจะรู้"

แน่นอน  แทยอนรู้เรื่องนี้ดี  ในสังคมของเชฟชิฟเตอร์แบบเรา  นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่  มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี  มันเป็นการหยามกัน  มันเหมือนถูกรุกล้ำอาณาเขต  แต่เธอคงไม่รู้สึกอะไรมากมายเท่าที่พวกผู้ชายหรืออัลฟารู้สึก  จำเป็นต้องยอมรับว่ากลไกในสมองของเรามันแตกต่างกัน  เมื่อมีเรื่องฮอร์โมนเข้ามาเกี่ยวข้อง

"งั้นฉันไปดูลูกๆ ก่อนนะ  พวกคุณทำงานกันตามสบาย"

"ฉันไปเอง"  ยุนอาอาสา  "ฉันอยากพักสมองน่ะ  อยู่กับลูกดีกว่า"

แทยอนพยักหน้า  แม้จะไม่เข้าใจนัก  แต่เธอก็รู้สึกได้อยู่ว่า  ช่วงนี้ยุนอาดูเหนื่อยจริงๆ  ไม่ได้เหนื่อยกาย  หากเหนื่อยใจ  และจริงอย่างว่า  การได้อยู่กับลูกๆ บางทีก็สบายใจกว่าการไปรบกับผู้คนข้างนอกและงานเยอะ

"เธอไม่พักบ้างเหรอ  คริส"  เธอถาม  มาก้มมองเขาทำงานใกล้ๆ 

"อีกแป๊บนึงค่ะ"  เขาตอบ  ละมือหนึ่งจากแป้นพิมพ์มาโอบเอวเธอ  แทยอนก็เอนตัวพิงเขาอัตโนมัติ  เธอมองจอแล็บท็อปของเขาแต่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย  เธออ่านโค้ดไม่ออก  ไม่เหมือนภาษาโบราณที่เธอเชี่ยวชาญ

"ทำไมเธอชอบมัน  ฉันหมายถึง...นั่นน่ะ"  เธอถาม  พเยิดหน้าไปทางจอแบนๆ  ที่ตาสองสีของเขากำลังจ้องมันอยู่  เขาไม่ได้ตอบเธอทันที  แต่ใช้มือลูบสะโพกเธอเบาๆ  ราวกับจะถ่วงเวลา  เขาเคยบอกเธอว่าเวลาที่เขาคิดงานอยู่  สมองของเขาจะคิดคำพูดช้ากว่าปกติ  เขาบอกไว้เพราะเขาไม่อยากให้เธอโกรธ  และเธอก็ชอบที่เขาใส่ใจ 

เขาเปลี่ยนไปเยอะ  จนเธอนึกไม่ออกว่าทำไมตอนนั้นเขาดูร้ายกาจเหลือเกิน  แล้วทำไมเธอถึงชอบเจ้าตัวร้ายกาจคนนั้นได้นะ 

เพราะเธอหลงเด็ก...ยูริชอบพูดแบบนี้ประจำ

"เพราะฉันชอบเล่นเกมมั้ง  ฉันเลยอยากสร้างมันด้วย"  ในที่สุดเขาก็ตอบออกมาได้  และวางมือจากงานตรงหน้ามาหาเธอ  ดึงเธอลงนั่งตัก  เธอโอบคอเขา  เบียดตัวเข้าหาความอบอุ่น  ไม่รู้หรอกว่าตัวเองคิดถึงเขามากแค่ไหน  ถ้าไม่ได้มาอยู่ใกล้ๆ แบบนี้  บางทีเธอก็อิจฉาลูกๆ นะที่ได้อยู่กับเขามากกว่า  โดยเฉพาะไอรีน  เขารักลูกสาว  จริงๆ เขาก็คงรักลูกทุกคน  แต่กับไอรีน  เขาคงจะห่วงมากกว่า  เพราะไอรีนเป็นผู้หญิงแท้ๆ คนเดียว

"เธอรู้ไหมว่าตอนนี้  ยุนอาทำอะไรอยู่"  เธอถาม  เบี่ยงเบนตัวเองออกจากกลิ่นยั่วใจของสามี  แต่เธอก็พบว่าเขี้ยวเธอฝังลงลำคอเขาไปแล้ว

"สร้างครรภ์เทียมค่ะ  ยุนไม่อยากให้คุณอุ้มท้องแมกซ์"  เขาตอบ  ลูบศีรษะภรรยาไปด้วยขณะเธอดื่มเลือดเขา  ลิ้นเล็กๆ ของเธอเลียรอยเขี้ยวของตัวเองก่อนที่รอยนั้นจะจางไป  มันทำให้เขาขนลุกชัน  และกระตุ้นอะไรๆ ที่ไม่ควรมาตื่นตอนนี้ให้ลุกขึ้นมาด้วย  "ชื่อ 'แม็กซ์เวล' มันติดอยู่ที่หลอด"

"ทำไม"  เธอถาม  เสียงนิ่งเย็น  ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่มีแสงสีส้มมาแทนที่  มือเธอปลดกระดุมเสื้อเขาทีละเม็ดอย่างใจเย็น  เขาก็ลูบเรียวขาเธอขึ้นมาช้าๆ  และเธอก็ช่วยขยับให้เขาสัมผัสกับส่วนร้อนชื้นของเธอได้ถนัดขึ้น  เธอครางแผ่วเบาเมื่อนิ้วของเขาไล้ลูบกลีบอ่อนนุ่มภายนอกกางเกงชั้นใน

"ไม่อยากให้ฉันร่วมเป็นแม่ของลูกเขาหรือ"  เสียงเธอเกรี้ยวกราดขึ้นมาพร้อมกับที่มือเธอกระชากกระดุมกางเกงเขาออกและล้วงเข้าไปข้างใน  เขาเป็นใบ้ไปชั่วขณะ  ระหว่างที่เธอสัมผัสส่วนนั้นของเขาอย่างเป็นงาน

"คริส"  เธอกระตุ้นเมื่อเขาไม่ตอบสักที  เหมือนเธอไม่รู้ว่าทำให้เขาเป็นอะไรอย่างนั้นแหละ  แล้วเธอก็บีบเขาจนคราง  ตอนนี้เธอคงรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น  เธอจึงหยุดถามมากระทำแทน  เธอขบติ่งหูเขาระหว่างที่มือขยับแรงๆ  เธอเปลี่ยนท่านั่งมาคร่อมเขา  ดึงดูดเขาเข้าสู่ตัวเธอ

มันแตกต่าง...เธอไม่อาจร้อนแรงได้เท่ายุนอา  เธอขี้อายกว่า  และไม่ชอบอะไรพิสดารเท่าไร  เธอเป็นสาวโบราณที่อยากมีความสุขกับสามีบ้าง  เรื่องนี้ทำให้เธอมีเสน่ห์  เขามองว่าเธอน่ารัก  เขาอบอุ่นมีความสุข  ทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกัน  เธอทำให้เขาผ่อนคลาย  คล้ายกับเธอปลอบโยนเขา  ผู้หญิงคนอื่นอาจทำให้เขาสนุก  แต่เธอไม่ใช่  เขาจึงอยากให้เธอมีความสุขด้วย

เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้  ยกร่างเธอไปพร้อมกัน  เธอตัวเล็กเหมือนเด็ก  แต่เขากลับรู้สึกเหมือนกลับเป็นเด็กอีกครั้งเวลาถูกเธอกอด  คงเพราะมีความเป็นแม่สูงมากๆ  --  แน่ละ  เธอเป็นแม่ของลูกเขาถึงสามคนเชียวนะ

เธอสวยมากยามเส้นผมสีบลอนด์อ่อนกระจายเต็มหมอนแบบนี้  เขาแทบหยุดตัวเองให้พุ่งไปชื่นชมเธอไม่ได้เลย  เธอครางเหมือนเจ็บเมื่อเขาลงน้ำหนักตัวลงไป  หากส่ายหน้าตอบเมื่อเขาถาม  เธอประคองหน้าเขาไปประกบจูบ  เผยอริมฝีปากให้เขาสอดลิ้นเข้าไป  เธอดูดมันพร้อมครางพึงใจ  ภายในของเธอร้อนรุ่มและเต้นตุ้บตั้บ  มันส่งมาถึงเขา  มันดีมากๆ  แม้ยามเธอเผลอกัดปากเขาเพราะถูกกระแทกแรงไปหน่อย  เขาค่อยๆ ผ่อนแรงลง  เสียงของเธอจึงเปลี่ยนจากเจ็บปวดเป็นมีความสุขมากขึ้น  เธอใช้สันเท้ากดหลังของเขาไว้ไม่ให้เขาดึงตัวเองออกมาเมื่อมันถึงขีดสุด  เธอชอบเป็นแบบนี้  แล้วก็ชอบมาบ่นเขาทุกทีเวลารู้สึกเหนอะหนะไม่สบายตัว  หรือกลัวจะท้อง

เธอน่ะเหรอ  กลัวท้อง...ไม่มีซะล่ะ

"เขาบอกหรือเปล่า  ว่าทำไม"  เธอถาม  ยังไม่ลืมจริงๆ  นิ้วเล็กๆ ของเธอไล้ไปบนหน้าอกเขาตามรอยสัก  เขาจับมันมาจูบก่อนจะพลิกตัวขึ้นมาคร่อมเธอและจูบปากเธออีก  เธอจิกเส้นผมเขาขณะเขาดูดยอดถันข้างหนึ่ง  มือขยำอีกข้าง  เธอแอ่นกายให้เขาทั้งตัว  เขาสอดตัวเองเข้าไปในตัวเธออีกครั้ง  คราวนี้ลึกกว่าเดิม  เขาเคลื่อนไหวรุนแรงกว่าครั้งก่อน  แต่เธอไม่ว่าอะไร  คล้ายจะชอบมัน  แล้วมันก็ผ่านไปพร้อมอาการหมดแรงของเขา

"คริส  ห้ามหลับสิ  มาคุยกันก่อน"  เธอประท้วง  หยิกแก้มเขาแรงๆ 

"ฉันไม่ไหวแล้ว  คุณแท  คุณนี่ตัวดูดพลังแท้ๆ เลย"

"อย่ามาพูดแบบนี้นะ  เธอทำฉันเจ็บ"

"คุณชอบเจ็บๆ  นี่นา"  เขาพูดกึ่งล้อ  เธอหน้าแดง  เขาจูบปากเธอแผ่วเบาอย่างรักใคร่  "อย่าคิดมากสิคะ  ที่รัก  ยุนแค่ห่วงคุณเท่านั้นเอง"

"เขากลัวอะไร  บอกฉันได้ไหม"

"ยุนบอกว่า  แม็กซ์ค่อนข้างจะ...ดุร้ายค่ะ"  เขาตอบอย่างไม่เต็มใจ

เธอเหม่อเล็กน้อย  ก่อนจะเกยตัวขึ้นมาทับตัวเขาราวกับชอบที่ร่างชื้นเหงื่อของเราสัมผัสกันแนบสนิทแบบนี้  เขาก็ชอบ  แต่เขาต้องบอกตัวเองไม่ให้เหลิงว่าเธออยากได้อีกรอบ

"แล้วเธอคิดว่าไง"  เธอถามความเห็นเขา  จิ้มปลายจมูกเขาเล่น  ทำเหมือนเล่นกับลูก  เขาจึงแกล้งไล่งับนิ้วเธอจนเธอหัวเราะคิก  แล้วเธอก็มาจูบเขาเอง  จูบเบาๆ แต่อ่อนโยนมากมาย

ใครจะไม่รักเธอก็บ้าแล้วละ  เขาก็บ้านะ  แต่เขารักเธอจริงๆ  และเขาก็รู้สึกผิดมากๆ ด้วย  ที่ต้องนอกกายเธอบ่อยๆ  เขาคิดว่าเธอก็รู้นะ  แต่เธอไม่พูด  ยิ่งเธอไม่พูด  เขาก็ยิ่งเกรงใจ  บางทีมันก็ดี  เขาอยากทำแบบนั้นน้อยลงกว่าเดิมมาก  ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ  เขาจะไม่ทำเลย

"ฉันไม่อยากทนเห็นคุณเจ็บอีกแล้ว"  เขาตอบตามตรง  จ้องตาเธอนิ่งนาน  "ถ้าคุณอยากใกล้ชิดเขา  คุณก็แค่เลี้ยงเขาก็พอค่ะ"

"แต่ถ้าฉันไม่ท้อง  ฉันก็จะไม่มีน้ำนม"

"ฉันคิดว่ายุนทำให้คุณมีได้นะ"

"ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นแม่วัวยังไงไม่รู้"  เธอพูดหน้าแดง  และยิ่งแดงขึ้นเมื่อเขาหัวเราะ  "ไม่ต้องมาหัวเราะ  เธอจับนมฉันเจ็บหมดเลย  นี่ดูสิ  เป็นรอยเขียวๆ ด้วยแหละ"

"ไหนๆ ขอดูหน่อย"

"ไม่ต้องดู  อย่างเธอไม่ใช่แค่ดูหรอก  ไอ้บ้า"  เธอว่า  ดึงผ้าห่มมาปิดหน้าอกสวยๆ ที่ขนาดมีลูกสามคนแล้วก็ยังเต็มตึงอยู่ 

"งั้นฉันขอสิบนาทีนะ  ฉันเหนื่อยมากเลยวันนี้" 

"นอนคนเดียวนะ  ฉันไปดูลูกก่อน"  เธอพูด  พลางจูบหน้าผากเขา  ตีไหล่เขาที่ไม่ยอมปล่อยตัวเธอออกจากอ้อมแขน  "อย่าดื้อสิ  คริส  นอนนะ"

"อย่าทะเลาะกับยุนนะคะ  ยุนแค่เป็นห่วงคุณ"

"รู้แล้วน่า  ไม่ต้องมาทำตัวเป็นกาวหรอก"  เธอว่า  ตีมือเขาอีก  "ใส่กางเกงด้วย  เผื่อลูกวิ่งเข้ามาในนี้  รู้จักอายบ้างเถอะ"

"ครับผม"  เขายกมือขึ้นจดหางคิ้วอย่างขี้เล่นเมื่อเธอโยนบ็อกเซอร์มาให้  เขามองตามหลังเธอที่หอบเสื้อผ้าหายเข้าไปในห้องน้ำ  แล้วถอนใจ 

ถ้าเรื่องบ้าๆ พวกนี้มันเกิดขึ้นเพราะเขาล่ะ  เขาจะทำยังไงต่อไปดี  ชีวิตครอบครัวที่เขารักจะมาพังเพราะมือเขาเองหรืออย่างไร  ทำยังไงเขาถึงจะหยุดมันได้ 

ทั้งไอ้เวรนั่นและตัวเอง



......................


ยาวๆ กันไป   :21: :61: :27: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

03 มิถุนายน 2018 เวลา 22:18:49
ทำไมอ่านตอนนี้แล้วง่วงนอนจัง เจก็คึกเกินไปนะ น่องโตไม่รู้ด้วย
แสดงความคิดเห็น