web stats

ข่าว

 


ความรักของต้นข้าว 2 : ตอนที่สิบ

โพสต์โดย: ลำเนา วันที่: 13 มกราคม 2017 เวลา 20:56:54 อ่าน: 174

   นวลณฎาเดินออกมาหน้าบ้าน หลังจากได้ยินเสียงรถยนต์ ซึ่งนานๆ จะมีขับเข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นต้นน้ำพี่ชายของต้นข้าว หรือไม่ก็พิมพรรณซึ่งเป็นพี่สะใภ้ นวลณฎามองดูสาวสวยร่างบางที่ลงมาจากรถยนต์และส่งยิ้มให้พร้อมกับพนมมือไหว้

   "สวัสดีค่ะ ดารัณค่ะ ผู้รับเหมาบ้านริมทะเลค่ะ" ดารัณยิ้มเจื่อนๆ ให้นวลณฎาที่ยิ้มและรับไหว้

   "สวัสดีค่ะ นวลณฎาค่ะ"

   "ดินมีเรื่องรบกวนปรึกษาค่ะ โทรฯ หาต้นข้าวแต่ไม่รับสาย พอดีดินจะมาแถวนี้อยู่แล้วเลยแวะเข้ามาค่ะ" ดารัณยิ้มน้อยๆ ให้กับนวลณฎา หลัง จากที่ดารัณบอกว่าโทรศัพท์หาต้นข้าวไม่รับสาย จึงตัดสินใจมาที่บ้าน

   "ต้นข้าวไม่อยู่ค่ะ กว่าจะกลับคงอีกนานพอดู เรื่องบ้านริมทะเลมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ เผื่อนวลช่วยได้" นวลณฎาบอกและเชิญดารัณเข้ามาในบ้าน

   "บ้านสวยมากเลยค่ะ" ดารัณบอกเจ้าของบ้านที่นำน้ำดื่มมาให้

   "ขอบคุณค่ะ"

   "ให้ดินเรียก พี่นวล ได้ไหมคะ ต้นข้าวคงบอกเรื่อง"

   "ได้ค่ะ" นวลณฎายิ้มให้ดารัณและอมยิ้มมากขึ้นเมื่อนึกถึงวันที่ต้นข้าวมาบอกว่า โดนสาวสวยซึ่งเป็นผู้รับเหมาจูบ

   สองสาวได้พูดคุยกัน ดารัณรู้สึกสบายใจมากขึ้นในความเป็นกันเองของนวลณฎา ซึ่งถือได้ว่า เป็นสาวไฮโซของวงสังคมมาก่อนหน้านี้ แอบกังวลใจอยู่บ้างกับเรื่องที่ไปทำรุ่มร่ามกับคนรักของนวลณฎา

   "ดินจัดการได้เลยค่ะ เอาไว้ถ้างานคืบหน้าสักระยะ พี่จะแวะไปดูนะ" นวลณฎาไม่อยากให้ดารัณอึดอัดนัก จึงใช้คำพูดให้รู้สึกว่า ตัวเธอเองนั้นไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

   "พี่นวล น่ารักกว่าต้นข้าวอีก" ดารัณอมยิ้ม

   "เฮ๊ย ห้ามจูบนะ" นวลณฎาหัวเราะ

   "พี่คะ ใครจะจูบพร่ำเพรื่อขนาดนั้น ถ้าเจอพี่นวลก่อนก็ไม่แน่นะ"

   "พูดเล่นด้วยหน่อย เอาใหญ่เลยนะคะ" นวลณฎาแกล้งพูดเสียงเข้มแล้วแอบอมยิ้ม เมื่อเห็นดารัณยิ้มเจื่อนๆ พร้อมกับรีบขอโทษและพนมมือไหว้

   "หนูขอโทษค่ะ" ดารัณพูดเสียงอ่อยๆ

   "พี่ล้อเล่น รีบกลับหรือเปล่าทานกลางวันด้วยกันก่อนไหม"

   "พี่นวล เหมือนตบหัวแล้วลูบหลังเลยค่ะ เล่นเอาจ๋อย เสียงดุน่ากลัวมากๆ ใจฝ่อหมด ดุแล้วเลี้ยงข้าวค่อยยังชั่ว" ดารัณยิ้ม

   "ต้องรอสักครู่นะคะ ยังไม่ได้ทำเลย รอไหวไหม"

   "ไหวแน่นอนค่ะ เป็นลูกมือให้ไหมคะ" ดารัณยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เมื่อเห็นนวลณฎายืนยิ้มทำท่าคิด

   "จะไหวไหมล่ะ ดิน"

   "พี่นวลก็สอนดินสิ ดินสอนง่ายจะตายไปค่ะ แม่บอกว่า ดื้อนิดหน่อย" ดาริณหัวเราะ นึกถึงมารดาที่ชอบพูดตรงกันข้ามเรื่องความดื้อรั้นของลูกสาว

   "อืม ชักลังเล แต่มีผู้ช่วยก็ดีค่ะ หวังว่าจะเสร็จเร็วขึ้นเนอะ"

   "รับรองได้ค่ะ อย่างน้อยก็ล้างผัก ล้างชามได้แน่นอนค่ะ พี่นวล"

   "เห็นพูดถึงคุณแม่ งั้นเดี๋ยวพี่ฝากผลไม้ไปด้วยนะคะ" นวลณฎาบอกแล้วเดินนำหน้าเข้าไปในห้องครัว

   "ใจดีที่สุดในโลกเลยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ รบกวนเปล่าๆ"

   "ไม่กวนเลย พี่โทรฯ บอกที่สวนแป๊บนึง ดินชอบทานผลไม้หรือเปล่า"

   "ชอบมากค่ะ ยิ่งของฟรี สดจากสวนด้วย" ดารัณหัวเราะเล็กๆ

   "ผู้รับเหมา เป็นนักธุรกิจ มีความงกนะนั่น"

   "โห หมดกัน"

   "ล้อเล่นน่า ให้ไวคะ ลูกมือเริ่มเร็ว เสร็จเร็ว ได้ทานอาหารเร็วนะคะ"

   "จะทำบ้านหลังนี้บอกนะคะ จะลดราคาพิเศษให้เลย" ดารัณอมยิ้มเมื่อเห็นนวลณฎาหันมายิ้มน้อยๆ

   "จริงดิ น่าจะฟรีนะ"

   "โหพี่นวลคะ ว่าแต่ดิน ตัวพี่นวลก็อดีตนักธุรกิจเหมือนกันแหละ"

   "รู้ด้วย"

   "รู้สิคะ ทุกวันนี้ยังติดตามงานที่สำนักพิมพ์อยู่เลยค่ะ"

   "ขอบคุณจ๊ะ ไปล้างผักได้แล้ว" นวลณฎายื่นตะกร้าผักให้ดารัณ

   "ครับ เจ้านาย"

   "ทะเล้นจริงนะ เรา" นวลณฎายิ้มๆ กับสาวสวยที่เพิ่งรู้จักและกำลังล้างผักอย่างขะมักเขม้น

   ต้นข้าวกลับมายังบริเวณที่ได้พบกับนักดนตรีสาวเมื่อวาน ตามเวลาเดิมทั้งๆ ที่แต่แรกตั้งใจว่า จะออกเดินทาง ไม่มีเสียงไวโอลินหรือดนตรีชนิดไหนเลยให้ได้ยิน ต้นข้าวยิ้ม นึกถึงน้ำเสียงที่ออกจะดุๆ ซึ่งได้ยินไปเมื่อวาน

   "หมดกัน ข้อมูลหายวับน่าเสียดาย ออกเดินทางได้สินะ เรา" ต้นข้าวรำพึงกับตัวเอง มัวแต่คิดหันรีหันขวางไม่ทันได้มองคนที่เดินมาใกล้ๆ จนกระทั่งชนเข้ากับใครบางคน

   "ขอโทษค่ะ" ต้นข้าวรีบบอกในทันที

   "ถามจริง ตั้งใจชนหรือเปล่า" เสียงเข้มๆ นั้นทำให้ต้นข้าวยิ้ม หลัง จากมัวแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ทันได้มองคนที่ตัวเองเพิ่งชนไป

   "โลกกลมมั้งคะ" ต้นข้าวยิ้มกันคนที่ทำหน้าดุและถลึงตาใส่

   "ไม่สำเร็จหรอกนะ ไม่ต้องมาดักรอ เอาเงินคืนไปดีกว่า" สาวสวยหยิบเงินออกจากระเป๋าสตางค์แล้วส่งคืนให้

   "ไม่รับคืน ขอบคุณที่เล่นเพลงเพราะๆ ให้ฟัง ไปล่ะ รู้ว่าไม่อยากคุย"

   "รู้ก็ดีแล้ว"

   "เชื่อไหมล่ะ เดี๋ยวเราก็ได้เจอกันอีก" ต้นข้าวยิ้ม แล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปปล่อยให้สาวนักดนตรียืนทำปากขมุบขมิบ ซึ่งพอจะดูออกว่า ไม่ด่าก็คงบ่นอยู่

   นวลณฎายิ้มๆ ฟังดารัณซึ่งเป็นสาวช่างพูดช่างคุย เห็นแล้วก็อดไม่ ได้ที่จะคิดถึงต้นข้าว ซึ่งคงจะรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ต้นข้าวนั้นพูดน้อยกว่ามาก หากว่าดารัณก็ทำให้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว คนช่างพูดหยุดพูดแล้วยิ้มอายๆ เมื่อนวลณฎายิ้มและจ้องมอง

   "พี่นวลกับต้นข้าวเหมาะกันดีนะคะ" ดารัณพูดระหว่างที่ยังคงง่วนอยู่กับหน้าที่ๆ ได้รับมอบหมาย นั่นคือ ทำความสะอาดผักสด

   "ถ้าไม่มีพี่ ดินจะจีบต้นข้าวล่ะสิ" นวลณฎาหัวเราะเล็กๆ

   "เปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหมคะ" ดารัณหันมายิ้มสวยๆ ให้นวลณฎา

   "เจ้าตัวรู้เข้าเสียใจแย่เลยสิคะ ท่าทางเสน่ห์จะจางเสียแล้วละมั้ง"

   "ไม่หรอกค่ะ ต้นข้าวก็น่ารักแบบต้นข้าวนั่นแหละค่ะ"

   เสียงหัวเราะของนวลณฎานั้น ทำให้ดารัณสุขใจอย่างน่าประหลาด เวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วยืนยันและเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ ดารัณยิ้มมองสบตากับคนที่ยิ้มอายๆ เวลาถูกจ้องมอง ซึ่งคนที่จ้องมองอยู่นั้นรู้ว่า เสียมารยาท แต่ใบหน้ากับรอยยิ้มอันแสนสดใสของนวลณฎานั้นตรึงดารัณให้จ้องมองอย่างไม่วางตา เจ้าบ้านสังเกตเห็นสายตาแปลกๆ แต่ไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่ามิตรคนหนึ่ง ซึ่งอายุน้อยกว่าและเพิ่งรู้จักกัน ดารัณเป็นเด็กน่ารัก ร่าเริง สดใส มีเรื่องเล่าขำๆ มาเล่าได้ตั้งมากมาย ช่วยให้คลายความคิดถึงต้นข้าวไปได้ชั่วขณะ หนึ่ง หรือต้องเรียกว่านานพอสมควรก็น่าจะได้

   "ดินกลับดีกว่าค่ะ มากวนพี่นวลนานแล้ว ขอบคุณนะคะ"

   "ยินดีค่ะ ว่างก็แวะมาได้นะ ผลไม้คนงานคงเอาไปไว้ท้ายรถแล้ว"

   "ขอบคุณค่ะ เอาไว้มาคราวหน้า จะให้แม่ทำของอร่อยมาให้ทานค่ะ" ดารัณอมยิ้ม เมื่อเห็นรอยยิ้มของคนที่ทำคิ้วขมวดเข้าหากัน

   "นึกว่าจะทำเอง ไปรบกวนคุณแม่นะ เรา"

   "ซื้อมาฝากดีกว่าค่ะ ถ้าขืนทำเอง พี่นวลอาจท้องเสียถึงกับต้องส่งไปพักรักษาตัวในโรงพยาบาลกันเลยทีเดียว" ดารัณหัวเราะคิกคัก เดินตามเจ้าบ้านที่ดินนำหน้าออกมาส่ง

   "หัดบ่อยๆ ก็เป็นเองแหละ ถ้าตั้งใจทำ ไข่เจียวก็อร่อยแล้วล่ะ เพราะคะแนนความตั้งใจจะได้มากกว่าคะแนนของความอร่อย" นวลณฎาหัวเราะกับรอยยิ้มจ๋อยๆ ของดารัณ

   "เป็นลูกมือให้พี่นวลดีกว่า สนุกสนาน ใจดีไม่ดุด้วย เวลาไปเป็นลูก มือแม่ทีไร แม่ไล่ตะเพิดออกจากครัวทุกทีเลยค่ะ" ดารัณหัวเราะ

   "นินทาผู้ใหญ่บาป ขับรถดีๆ นะ ดิน ถึงบ้านแล้ว ถ้าสะดวกก็บอกพี่หน่อยส่งข้อความก็ได้จ๊ะ" นวลณฎายิ้ม ในฐานะคนที่อายุอานามมากกว่าทำให้เกิดความห่วงใยเป็นเรื่องธรรมดา

   "ดีใจจัง เป็นห่วงด้วย" ดารัณยิ้มกว้างขึ้นในทันที

   "ไม่ได้ห่วง แต่อยากให้ถึงบ้านอย่างปลอดภัย"

   "โห ใจร้ายอ๊ะ พี่นวล งอนแล้ว" ดารัณบ่นงึมงำ นวลณฎายิ้มๆ กับคนที่นั่งหน้างออยู่บริเวณที่นั่งคนขับ

   "ขี้ใจน้อยอีกต่างหาก ชื่อดินต้องหนักแน่สิคะ" นวลณฎาเอามือทาบทับไปที่ศีรษะของดารัณ

   "หายแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ วันหลังจะมากวนใหม่" ดารัณหันมายิ้มยักคิ้วหลิ่วตาล้อนวลณฎาที่ส่ายหน้ากับความทะเล้นนั้น

   "ยินดีต้อนรับจ๊ะ"

   "พรุ่งนี้เลยได้ไหมคะ นะคะ พี่นวลนะ" ดารัณพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนจนนวลณฎาอดที่จะขำไม่ได้

   "ขยันขับรถก็เชิญเลยค่ะ จะพาปั่นจักรยานชมสวน"

   "น่ารักที่สุดในโลกเลย บ๊ายบายค่ะ" ดารัณพนมมือไหว้ แล้วโบกมือลาก่อนที่จะเคลื่อนรถขับออกไป

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น