web stats

ข่าว

 


เกมรัก...สะดุดใจ ตอนที่ 2 - นางฟ้า

โพสต์โดย: meAyou วันที่: 02 มกราคม 2017 เวลา 16:06:31 อ่าน: 261

เกมรัก...สะดุดใจ
ตอนที่ 2 นางฟ้า

   "เบาๆ หน่อยได้ไหมคะ คุณกรินขา?"

   คำพูดกึ่งประชดกึ่งตำหนิของคุณหญิงกรรญญิการ์ดังขึ้นพร้อมกับสายตาที่จับจ้องไปยังการกระทำของบุตรสาวที่ช่างทำให้เธออยากหายาดมยาลมยาหม่องมาดมในคราวเดียวกันดูสิ!กริยามารยาทที่เธอผู้ได้ชื่อว่าเป็นมารดาอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เกิดมันได้หายไปไหนจนหมดสิ้นดูทำเข้านี่ขนาดเธอทำท่าทางน้ำเสียงไม่พอใจลูกสาวที่แสนดีก็แทบจะไม่เงยหน้ามามองเธอเลย ลูกคนนี้นี่จริงๆ เลย

   "ไปละนะแม่ วันนี้มีนัด"

   พูดจบกริญญาก็กระโจนเข้ามาหอมแก้มผู้เป็นแม่อย่างเอาใจใช่ว่าเธอจะดูไม่ออกว่าตอนนี้มารดากำลังอยู่ในสภาวะอารมณ์ไหนแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอที่จะเรียกรอยยิ้มของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่แม่ลูกกันนี่นา?จุดอ่อนแม่เธออยู่ตรงไหนมีเหรอที่เธอผู้เป็นลูกสาวจะไม่รู้ มุกอ้อนใช้มาตั้งแต่เด็ก โตมาก็ยังได้ผล?

   คุณหญิงกรรญญิการ์ส่ายหน้าน้อยๆจับไม่ได้ไล่ไม่ทันจริงๆลูกคนนี้แล้วรอยยิ้มก็ค่อยๆคลี่ออกมาลูกสาวของเธอคนนี้ออกแนวแข็งนอกอ่อนในถ้ายิ่งเธอไปบังคับก็จะยิ่งถูกลูกสาวคนนี้ต่อต้านสู้เธอปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว อาจดูไม่เรียบร้อยเข้าตาไปสักหน่อย แต่ขอให้เข้าใจกันเป็นดีที่สุด

   "ป้านิ่มจ๊ะ ขอกาแฟให้ฟ้าสักถ้วยสิคะ"

   ฟ้าลดาเดินลงมาจากชั้นสองพร้อมกับหันมาสั่งแม่บ้านวันนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองตื่นสายมากเป็นพิเศษสงสัยเมื่อคืนเธอคงนอนดึกมากไปทำให้รู้สึกเพลียๆว่าแต่คนที่บอกจะรีบมาหาตั้งแต่เช้ากลับเงียบเข้ากลีบเมฆดีนะที่เธอไม่รีบตื่นแต่เช้ามานั่งรอไม่งั้นละ น่าดูเชียว

   "มาแล้วค่า มาแล้ว"

   น้ำเสียงที่ดังมาแต่ไกลทำให้ฟ้าลดาหันไปหาเจ้าของเสียงด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มที่จริงเธอก็อยากจะแกล้งโกรธคนที่บอกจะมาตั้งแต่เช้าดูสิว่าจะทำยังไงแต่พอหันไปเห็นดวงตาที่แสนใสซื่อของคนที่เพิ่งเดินเข้ามาก็ตัดใจแกล้งไม่ได้

   ฟ้าลดาเดินตรงเข้าไปหาคนที่ยืนมองเธออยู่ห่างๆไม่ยักกะเดินเข้ามาหาเธอสักที จนเป็นเธอเองที่ต้องเดินเข้าไปใกล้

   "เป็นอะไรคะ หิวหรือเปล่า"

   น้ำเสียงเอื้ออาทรที่ส่งผ่านมาทั้งแววตารอยยิ้มทำให้คนฟังรู้สึกนุ่มหูที่ได้ยินซะนี่กะไรดูสินี่ขนาดเธอมาสายคนตรงหน้ายังไม่มีท่าทีที่จะโกรธหรือแม้แต่งอนเธอแต่กลับมีแต่ความอ่อนโอนห่วงใย ใส่ใจ โชคดีที่สุด ที่เธอได้รู้จักและรักผู้หญิงคนนี้ ฟ้าลดา กิตติอมรกุล นางฟ้าของเธอ

   "ว่าไงคะ มองพี่ขนาดนี้ หิวหรือจะอ้อนเอาอะไร"

   ฟ้าลดาเดินเข้าไปเกี่ยวแขนคนที่ยังไม่ยอมพูดให้เดินตามเธอเข้ามาในบ้าน แล้วบอกให้แม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารเช้าสำหรับสองที่

   "ที่จริงกรินกินมาแล้วแต่จะกินเป็นเพื่อนพี่ฟ้าแล้วกันนะคะดูสิผอมลงตั้งเยอะ"

   กริญญาไม่พูดเปล่าเธอใช้มือจับแขนคนข้างๆยกขึ้นมาดูดูสิมันเล็กมากจนเธอออกจะแปลกใจว่าคนที่เธอจับแขนอยู่วันๆกินข้าวบ้างหรือเปล่าผู้หญิงก็งี้เอะอะก็กลัวอ้วนกลัวอ้วนแล้วไม่คิดว่าถ้าผอมเกินไปมันจะดูไม่งามบ้างเหรอแต่จู่ๆกริญญาก็ต้องอมยิ้มให้กับความคิดของตัวเองก็จะอะไรซะอีกเธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่ดันมาวิจารณ์ผู้หญิงด้วยกัน หยั่งกะตัวเองเป็นผู้ชาย ซะงั้น?.

    "หิวจริงๆ ด้วยนะคะ"

   เจ้าของบ้านคนสวยคลี่ยิ้มบางๆแค่เห็นคนตรงหน้ากินได้เธอก็เหมือนจะอิ่มไปด้วยก็คนตรงหน้าเธอเล่นกินซะเยอะขนาดนั้นไม่รู้ว่าเอาไปเก็บตุนไว้ที่ส่วนไหนจะว่าคนตรงหน้าอ้วนก็ใช่ที่ดูสิหุ่นดียิ่งกว่าเธอซะอีก

   "กรินเสียดายของน่ะค่ะ แหมฝีมือแม่ครัวที่นี่ มาทีไรไม่เค้ย?ทำให้ผิดหวัง"

   คำพูดนี้คนพูดก็ชอบพูดเหลือเกินว่าอาหารที่บ้านของเธออร่อยซะจนปล่อยให้เหลือไม่ได้ ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าบ้านคนกินจุรวยล้นฟ้าขนาดไหน เธอคงจะคิดว่าผู้หญิงคนนี้คงไม่ได้กินอะไรดีๆมานานหลายเดือนแต่พอเห็นก็น่าเอ็นดูไปอีกแบบเห็นแล้วก็ชื่นใจคนทำ ดูสิ แม่บ้านของเธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ที่เห็นคนกินฝีมือตัวเองจนเกลี้ยง แทบจะไม่ต้องล้างจาน

   "พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ดีใจซะอีกที่กรินกินได้?"

   เจ้าของบ้านคนสวยลากเสียงยาวพร้อมกับจ้องลงไปยังจานอาหารที่ตอนนี้กลายเป็นของว่างด้วยฝีมือคนตรงหน้า แล้วก็เอ่ยแบบยิ้มๆ ออกมา

   "กินได้ขนาดนี้ แอบเอาไปตุนไว้ที่แก้มหรือเปล่าเนี่ย ไหนดูหน่อยสิ"

   ไม่พูดเปล่าเมื่อฟ้าลดาคว้าแก้มขาวเนียมมาบบีบเล่นอย่างมันเขี้ยวทำเอาคนกินจุถึงกับร้องลั่นบ้านแต่คนบีบก็ไม่ลดละในการบีบเพราะยิ่งได้ยิ่งเสียงคนตรงหน้าร้องเธอก็นึกหมั่นไส้อยากแกล้งอีกแกล้งอีกจนคนถูกบีบยกมือยอมแพ้เธอถึงเลิกแกล้งแต่ยังคงหัวเราะน้อยๆ กับปฏิกิริยาของคนตรงหน้า

   "พี่ฟ้าอะ แก้มคนนะไม่ใช่แฮนด์รถ บีบเอาบีบเอา"

   "ก็พี่อยากรู้ว่ากรินเอาอาหารไปซ่อนไว้ที่กระพุ้งแก้มหรือเปล่า"

   "คนนะไม่ใช่หนูแฮม?จะได้เอาไว้ได้"

   กริญญามองคนตรงหน้าอย่างเคืองๆแต่มีหรือที่เธอจะเคืองได้นานเมื่อเห็นรอยยิ้มที่มากมายจากคนตรงหน้าแน่ะ!ยังไม่หยุดหัวเราะเธออีกแต่เธอก็?อดหัวเราะตามไม่ได้คนอะไรหัวเราะแล้วก็ทำให้คนอื่นยิ้มตามได้ทุกครั้ง แปลก?แต่ก็?น่ารักอ่ะ!

   "ป่ะ ไปซื้อของกัน"

   คนตัวสูงยื่นมือมาหาคนที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเพลินๆฟ้าลดาลดหนังสือลง พร้อมกับเอียงคอเล็กน้อยด้วยความสงสัยเพราะปกติคนตรงหน้าไม่ชอบเดินเที่ยวห้างหรือซื้อของอะไรแต่วันนี้มาแปลกกว่าทุกวันจะแกล้งอะไรเธอหรือเปล่านะเมื่อนึกย้อนไปเรื่องที่เธอแกล้งเมื่อเช้า

    "ซื้ออะไรคะ"

   "กรินกำลังจะย้ายที่เรียน"

   คนฟังถึงกับขมวดคิ้วส่วนคนพูดก็รีบเอามือมาแยกคิ้วคนที่กำลังทำหน้าสงสัยหนัก เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้

   "กรินจะย้ายมาเรียน?ที่?เดียว?กับ?พี่ฟ้า "

   ฟ้าลดาอ้าปากจะถามกลับไปแต่คนพูดยกมือปิดไว้ซะก่อน

   "กรินอยากอยู่ใกล้ๆพี่ฟ้าอยากดูแลจนกว่า?"

   แต่ไม่ทันจะพูดจบประโยคคนที่ถูกเอามือปิดปากก็ดึงเอามือคนตรงหน้าออก

   "จะดีเหรอกรินที่มหาลัยเดิมพี่ก็ว่ามันเหมาะกับกรินแล้วนะถ้าย้ายมาจะเสียเรื่องเรียนหรือเปล่า"

   "ไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวนี้เขาโอนย้ายกันเยอะแยะ "

   "ถ้ากรินจะย้ายมาเพราะเป็นห่วงพี่ก็ตัดไปได้เลยนะ พี่ดูแลตัวเองได้"

   คำพูดที่เด็ดขาดและน้ำเสียงที่จริงจังทำให้คนฟังต้องรีบคิดเหตุผลใหม่ๆที่พอจะเข้ากับสถานการณ์เช่นนี้ กริญญาลุกขึ้น เดินไปที่ริมหน้าต่าง เธอหลับตาลงนิ่งไปอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมายิ้มให้กับคนที่นั่งรอฟังเหตุผลใหม่ๆ

   "กรินย้ายไปแล้วค่ะ ไม่ทันแล้ว"

   รอยยิ้มบางๆผสมกับหน้าตาที่บ่งบอกถึงความเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นมันฉายแววออกมาจนคนฟังได้แต่อ้าปากค้างเพราะไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาทำให้คนตรงหน้ายอมจำนนได้ซะทีและสุดท้ายกริญญาก็ชนะและสามารถลากตัวคนตัวเล็กไปเดินซื้อของเพื่อใช้เริ่มต้นในการเข้าเรียนในที่ใหม่ได้สำเร็จ

   ---

   กริญญาเดินนำคนตัวเล็กอย่างช้าๆเธอออกจะอายอยู่เหมือนกันที่เหตุผลของเธอไม่ค่อยเข้าท่าสักเท่าไรแต่พอจะคิดเหตุผลใหม่ๆเธอกลับเลือกใช้วิธีรวบรัดตัดตอนเช่นนี้ช่างน่าขันแต่ก็เอาเถอะนะในเมื่อมันทำให้คนที่เดินอยู่ข้างหลังหมดข้อโต้แย้งเธอก็ควรจะพอใจ

   "พี่ฟ้าโกรธกรินเหรอคะ"

   จู่ๆคนที่เดินนำหน้าเธอก็หยุดชะงักแล้วหันกลับมาพูดอ้อนเธอมาไม้นี้คิดเหรอว่าเธอจะใจอ่อน(ซะเมื่อไหร่)

   "พี่น่ะเหรอจะกล้าโกรธกริน"

   น้ำเสียงงอนๆ ที่ส่งมามีหรือที่คนฟังจะฟังไม่ออก ไม่โกรธ แต่!งอน ฟันธง!

   "เดี๋ยวกรินเลี้ยงไอศกรีมนะคะ คนสวยจะได้อารมณ์ดี"

   คนสวยหันมามองคนที่บอกจะเลี้ยง แล้วก็เชิดหน้างอนเล็กน้อย

   "ทุ่มหมดตัว!"

   ไม่พูดเปล่ากริญญารีบควักกระเป๋าสตางค์ของตัวเองออกมาโชว์พร้อมกับทำทางเขย่ากระเป๋าไปมาจนคนที่งอนอดหัวเราะกับท่าทางและใบหน้าทะเล้นนั้นไม่ได้

   "ดี จะกินให้หมดตัวเลย"

   เมื่อพูดจบฟ้าลดาก็เดินลิ่วๆนำหน้าตรงดิ่งไปยังร้านไอศกรีมเอาของโปรดมาล่อเหรอ ได้ เดี๋ยวจะกินจนไม่มีเงินเหลือกลับบ้านเลยคอยดู?

   ----

   "ธีร์ พิมพ์ว่าเราไปร้านอื่นกันดีกว่านะ"

   "ทำไมล่ะพิมพ์"

   ธีรทัศน์หันไปถามเพื่อนสาวที่อยู่ในท่าทางแปลกๆพร้อมกับหันไปมองทางเดียวกับคนที่บอกจะเปลี่ยนร้านและในวินาทีนั้นเองเขาแทบจะทรุดลงตรงนั้นเลยฟ้าลดา! กับผู้หญิงคนนั้น ท่าทางที่สนิทสนม หยอกล้อกันจนไม่คิดจะสนใจคนรอบข้าง ยิ่งเห็นก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกปวดใจด้านคนที่ยังไม่รู้ว่าถูกซุ่มดูก็ยังคงหัวเราะต่อกระซิกกันอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้จนในที่สุดกริญญาก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำโดยให้เหตุผลว่ากินเยอะจนต้องขอระบายทำเอาคนฟังรีบยกมือไล่ตะเพิดออกไปอย่างเร็ว

   -----

   "ทำไมเร็วจัง"

   คนถามถึงกับทำหน้าไม่ถูกเพราะคิดว่าเป็นคนที่เพิ่งลุกไปเธอกะจะแซวสักหน่อย แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นไปกลับพบว่าไม่ใช่คนที่เธอรอ

   "สวัสดีฟ้า"   

   คำทักทายสั้นๆพร้อมกับรอยยิ้มแห้งๆถูกส่งมาทำให้คนฟังต้องรีบยิ้มตอบกลับไปน้อยๆด้วยเกรงว่าเพื่อนที่เข้ามาทักจะรู้สึกไมดีที่จู่ๆเธอก็หุบยิ้มลงทันทีเมื่อเห็นหน้าเพื่อนคนนี้

   "สวัสดีธีร์?พิมพ์"

   "สวัสดีฟ้า มากินไอศกรีมเหรอ แล้วมากะใคร มาทำไม?. "

   คำถามที่ถูกส่งมาเยอะแยะมากมายจนคนถูกถามเริ่มอึดอัดเลยส่งสายตาเป็นเชิงปรามๆคนตรงหน้า ทำให้คนถามถึงกับทำหน้าเหวอด้วยเพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองเริ่มมากไปจริงๆ

   "อากาศร้อนต้องกินไอศกรีมเนาะเดี๋ยวพิมพ์กับธีร์ขอตัวก่อนนะไว้เจอกันที่มหาลัย"

   พูดจบพิมพ์วราก็ลากตัวเพื่อนชายออกมาจากที่เกิดเหตุเพราะสายตาของเธอแลเห็นคนที่เป็นเจ้าของโต๊ะอีกคนกำลังเดินกลับมาและหากมาประชันหน้ากันอะไรๆ ก็คงจะแย่ลงยิ่งกว่านี้ตรงกับสุภาษิตที่ว่ารู้หลบเป็นหลีกรู้หลีกเป็นหลบ เอ?แปลกๆ อ้อ! ที่จริงต้องรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหางต่างหากล่ะคุณพิมพ์วราจ๋า?.

   ---

   ทางด้านคนที่เพิ่งเดินกลับมาก็หันไปมองตามคนที่เพิ่งเดินออกไปจากโต๊ะเธอ เห็นหลังไวๆ ใครกันนะ

   "เพื่อนพี่เอง กรินไม่รู้จักหรอก"

   คนพูดกล่าวออกมายิ้มๆ

   "แล้วนี่หมดตัวหรือยังน่ะเรา"

   กริญญาหันมายิ้มกว้าง ก่อนจะตอบออกมาอย่างอายๆ

   "ไม่เท่าไหร่ค่ะ แต่ถ้าให้กินทั้งร้านก็?ไหวอยู่"

   จากนั้นทั้งสองก็หัวเราะออกมาพร้อมๆกันจะว่าไปทุกครั้งที่เธออยู่กับคนตรงหน้าเธอก็พบเจอแต่รอยยิ้มกริญญาทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยไม่รู้สึกเหงาเลย ฟ้าลดาหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะส่งยิ้มน้อยๆให้กับท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ "ขอบคุณนะคะ" 

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น