web stats

ข่าว

 


Coffee Break [แฟนฟิค] - ตอนที่ 13 Just So You Know

โพสต์โดย: anhann วันที่: 19 ธันวาคม 2016 เวลา 20:26:27 อ่าน: 616







ตอนที่ 13 Just So You Know




เจสสิก้าประสานสายตากับยุนอาตรงบันไดบ้าน (ร้าน)  เธอไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้ายังไงอยู่  แต่เห็นอีกคนหน้าซีดยิ่งกว่าไก่ต้มในร้านข้าวมันไก่  เธอไม่คิดว่าตัวเองทำอะไรน่ากลัวเลยนะ  แค่ลากกระเป๋าเดินทางใบโตมาใบเดียว  แล้วก็แค่มาค่ำไปหน่อย  เพราะเครื่องบินดีเลย์

"ทำหน้าเหมือนโจรกระจอก"  เจ้าของร้านพูดออกไป  แล้วเบี่ยงตัวจะเดินขึ้นไปตามช่องว่างของบันได  แต่แล้วคนที่ตัวแข็งทื่ออยู่เมื่อกี้ก็กุลีกุจอมาช่วยเธอยกกระเป๋า  เธอก็ปล่อยให้ทำ  แค่มองตามเฉยๆ  ไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าทำไมถึงยังไม่กลับบ้าน  ทั้งที่ร้านปิดเสร็จเรียบร้อยแล้ว

"เอาไว้แค่หน้าห้องนั่นแหละ"  เจสสิก้าเอ่ยเมื่อเดินขึ้นมาถึงชั้นบนที่เป็นส่วนของบ้านแล้ว  ยุนอาทำตามคำสั่งเธออย่างไม่ปริปาก  แต่ยังไม่ทันจะได้ถามตามที่สงสัย  คริสตัลก็โผล่ออกมาจากห้องนอน  เข้ามาสวมกอดเธอ

"เจมาช้า"  คริสตัลบ่นพึมพำอยู่บนบ่าบางที่เอาคางถูไถอยู่  เจสสิก้าหันมาจูบแก้มน้องสาวดังจุ๊บ  ลูบเส้นผมยุ่งๆ ให้เข้าที่เข้าทาง  "นึกว่าจะไปไหนต่ออีกแล้ว"

"ไม่ได้ไป  บอกแล้วไงว่าเครื่องดีเลย์  หิมะตกหนัก"  เจสสิก้าตอบ  ความหงุดหงิดยังติดอยู่ในน้ำเสียง  จนยุนอาเหมือนจะหน้าซีดหนักกว่าเดิม

"ทำท่าเหมือนโจรขโมยอะไรมาจริงๆ งั้นล่ะ"  เธอพูด  ยุนอาทำท่าจะพูดอะไร  แต่คริสตัลพูดแทรกขึ้นมา 

"ยุนหงุดหงิดที่ฉันไม่ให้กลับบ้านน่ะ" 

เจสสิก้าเลิกคิ้ว  รอฟังน้องเล่าต่อ

"ก็เจเจอเขาข้างล่างไม่ใช่เหรอ  นั่นแหละ  จะหนีแล้ว"

"ทำไมเหรอ  กลัวฉันจะกินหัวเอาหรือไง"  เจสสิก้าพูด  ดูไม่ออกเลยว่าแค่แซวให้ขำหรือดุจริงๆ  จึงมีแค่คริสตัลเท่านั้นที่ยังยิ้มอยู่  ส่วนยุนอาเหมือนวิญญาณหลุดลอยออกจากร่างไปแล้ว

"เจ  มาเถอะ  เอาของไปเก็บกัน  --  ยุน  อย่าเพิ่งกลับนะ"  คริสตัลพูด  แต่ดูเหมือนจะขู่สาวตัวสูงที่ยืนเหมือนคนใบ้อยู่ตรงทางออกไปด้วย  เธอให้พี่เดินเข้าห้องไปก่อน  และหันมามองว่ายุนอายังอยู่หรือไม่  จากนั้นก็ยิ้มเมื่อเห็นอีกคนเดินมานั่งตุบอยู่ตรงโซฟาหน้าทีวีแล้ว  ถึงจะค้อนเธอกับแยกเขี้ยวให้ด้วย

"ยังดีที่กลับมาแล้วร้านไม่เละไปหมด  บ้านด้วย"  เจสสิก้าพูด  พลางลูบผ้าปูที่นอนที่เรียบตึงอย่างชื่นชม  ไม่มีใครมาซนในห้องนอนเธอ  แต่เธอจะไม่ขอไปดูห้องน้องสาวแน่นอน  ถ้ายังอยากอารมณ์ดีอยู่

"เจ  ฉันโตแล้วนะ  เชื่อใจกันหน่อย"  คริสตัลบ่น  แล้วเดินงอนๆ ไปนั่งลงข้างพี่สาวบนเตียง  เพราะโดนพยักหน้าเรียก  "อะไร  จะจัดของให้ไง"

"เธอไม่ได้ลืมฉันไปแล้วนะ"  เจสสิก้าเอ่ย  จ้องน้องอย่างระแวง  แต่คริสตัลรู้ดีว่าควรทำยังไงจึงเข้ามากอดเธอ  พยายามทำตัวเล็ก (ทั้งที่ไม่สำเร็จ)  แล้วซบอกเธอแบบเอาหน้าแนบชิด  แล้วเวลาน้องอ้อนแบบนี้ทีไร  ใจเธอก็อ่อนปวกเปียก  ก้มหน้าลงจูบศีรษะเขาด้วยความรัก

"ห้ามรักใครมากกว่าฉันนะ"  เธอบอกอย่างเอาแต่ใจ  และคิดว่ามันค่อนข้างเห็นแก่ตัวด้วย  แต่คริสตัลกลับพยักหน้าอย่างว่าง่าย  เงยหน้าขึ้นมาจูบเบาๆ ตรงมุมปาก  ยิ้มให้ด้วยดวงตาใสๆ  ไร้เดียงสา

"ฉันให้อภัย  ไปได้ละ"  เจสสิก้าพูด  จิ้มหน้าผากน้องเบาๆ  คริสตัลกอดเธออีกที  แล้วขอตัวออกไปจากห้อง  พอน้องไม่อยู่แล้ว  เธอก็ถอนหายใจแล้วล้มตัวลงนอน  หลับตาลง  นั่งเครื่องบินกับนั่งรถอีกนิดหน่อยไม่ได้เหนื่อยอะไรมากหรอก  ตอนนี้เธอเหนื่อยใจมากกว่า

สเตฟานี่ทำให้เธอปวดหัว  แม่คนนั้นคิดว่าตัวเองเป็นใคร  ทำไมเธอถึงจะต้องไปนอนที่บ้านด้วยอีกทั้งที่อยู่ด้วยมาตั้งสามคืนแล้ว  คิดว่าเธอใจง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ  เธอยังไม่ได้ตกลงจะกลับมาคบกันแบบเก่าสักหน่อย  ก็แค่บอกว่าจะพยายามคุยด้วยเท่านั้น 

ความรู้สึกของเธอที่สูญเสียไปคราวนั้น  ใช่ว่าจะเรียกคืนกลับมาได้ง่ายๆ เหมือนกู้คืนข้อมูลในคอมพิวเตอร์แบบที่ยายแม่มดนั่นถนัด  เธอเป็นคน  มีความซับซ้อนกว่าระบบใดๆ ทั้งมวลในโลกนี้  แต่เธอยังหวังให้สเตฟานี่เข้าใจ  เหมือนที่คริสตัลเข้าใจเธอเสมอ

"เจ  ออกมากินข้าวด้วยนะ  อีกยี่สิบนาที"  คริสตัลส่งเสียงผ่านประตูเข้ามา  แต่ไม่ได้พาตัวมาด้วย  แค่นั้นเธอก็ดีใจแล้วละ

.....................................

ยุนอาเลิกเกร็งไปได้หน่อยตอนคริสตัลมาบอกว่า  เจสสิก้าไม่ได้ว่าอะไรเรื่องพวกเธอ  แต่เจ้านายของเธออาจจะแค่ใจดีกับน้องสาว  ไม่ได้เกี่ยวกับเธอก็ได้  ยังไงเสียเธอก็ยังไม่ควรทำตัวน่าหมั่นไส้ให้โดนรังเกียจ  เพราะถ้าไม่มีคนบ้านนี้แล้ว  เธอก็จะเหลือแค่ซอฮยอนเท่านั้น  โลกใบนี้ก็จะกว้างขึ้นอีก

กว้างขึ้น  แล้วก็จะเหงามากขึ้น...

"โซลตอนหน้าหนาว  หนาวกว่าที่นี่อีกใช่ไหม"

"ค่ะ  แต่ฉันอยู่ปูซานนะ  ไม่ใช่โซล"  ยุนอาตอบ  มองคนที่ยืนเกาะราวกันตกของดาดฟ้าอย่างไม่ให้เสียมารยาทเวลาคุยด้วย  "ฉันชอบทะเลค่ะ"

"ว่าแล้วเชียว"  เจสสิก้าตอบ  จับเส้นผมที่ปลิวเพราะแรงลมมาทัดหู  "ฉันชอบอากาศเย็นนะ  แต่นิวยอร์กหนาวเกินไป  พระอาทิตย์ก็ตกเร็วเกินไป  มันเหมือนวันๆ นึงมันหมดเร็วเกินไป  แต่ฉันคงคิดไปเอง"

"เวลาหนาวๆ  มันทำให้เหงามากขึ้นค่ะ"  ยุนอาเอ่ย  รู้ตัวว่าพูดเรื่องประหลาดไปแล้ว  แต่มันหยุดไม่ได้  "ฉันไม่ชอบหน้าหนาวเท่าไหร่  ฉันไม่ชอบโลกที่เป็นสีเทาๆ  อย่างปารีส"

"ทำไมเธอถึงว่า  ปารีสเป็นสีเทา  มันเป็นเมืองแฟชั่น"

"เพราะอากาศค่ะ  แล้วก็ชุดที่ผู้คนสวมใส่  เพราะอากาศมันแปรปรวนมากเกินไป  ผู้คนต้องสวมชุดที่เตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลาสำหรับทุกสภาพอากาศ  แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นสีดำ  อาจจะเพราะมันกลืนไปกับความสกปรกก็ได้  แล้วพอท้องฟ้าครึ้ม  มองไปทางไหน  มันก็ทะมึนไปหมด  แล้วมันก็น่ากลัว"

"เธอต้องหัดเมินข้อผิดพลาดของบางสิ่งบางอย่างบ้างนะ  หรือไม่ก็ยอมรับมัน  ในเมื่อมันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้"

"แต่ถ้ายอมรับไม่ได้จริงๆ  เราก็มีสิทธิที่จะหนีออกมา  ไม่ใช่เหรอคะ"

เจสสิก้าเลิกคิ้วแปลกใจแต่ต่อมาก็พยักหน้า "มันคือทางสุดท้าย  และบางครั้งการถอยออกมา  ก็ไม่ได้หมายความว่า  เราแพ้แล้วนี่  ใช่ไหมล่ะ"

"ค่ะ  บางทีก็แค่อยากจะออกมายืนมองว่าทางไหนเหมาะกับเราที่สุด"

"อืม  ฉันชอบนะ  ความคิดเธอใช้ได้  แต่ก็น่าเสียดาย" 

"เสียดายอะไรคะ"  ยุนอางง  โดยเฉพาะรอยยิ้มแปลกๆ ของอีกคน

"เธอคิดดีแล้วเหรอ  คบกับคริสตัล  เด็กนั่นไม่ได้ดีอะไรหรอกนะ  ก็แค่หน้าตาดีกับเก่งเรื่องกวนประสาทคน"

"นั่นเป็นคำพูดของคนหวงน้องที่สุดในโลกเหรอคะ"

เจสสิก้ายิ้ม  ล้วงลูกอมจากกระเป๋ากางเกงมาปาใส่ยุนอาที่ยกมือรับมันได้อย่างแม่นยำ  "ไปสมัครคณะละครสัตว์กับคริสตัลได้อยู่นะ"

"ไม่เอาหรอกค่ะ  ฉันชอบชงกาแฟมากกว่า"  ยุนอาตอบ  "หวังว่า  คุณคงไม่ไล่ฉันออกนะคะ"

"ฉันจะไล่บาริสต้าค่าจ้างถูกๆ กับชงกาแฟอร่อยแบบนี้ออกไปทำไมกันล่ะ  ถามบ้าๆ"  เจสสิก้าพูดหน้าตาเฉย  "ฉันไปนอนดีกว่า  เหนื่อยแล้ว"

"ฉันไปด้วยสิ  เริ่มหนาวแล้ว  ข้างบนนี้" 

"นั่นสิ  แต่หวังว่า  ที่นี่คงไม่ทำให้เธอเหงานะ"

ยุนอาสบตาเจสสิก้าอย่างตกใจ  ไม่คาดคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะพูดจาแบบนี้เป็น  และอยู่ๆ เธอก็นึกอยากจะกอดร่างที่หันหลังให้อยู่ตรงหน้าขึ้นมาเสียเฉยๆ  แต่แค่เจสสิก้าเอื้อมมือมาจับมือเธอก็ดูเหมือนจะอุ่นใจพอแล้ว

"อย่าร้องไห้นะ  บอกไว้ก่อน  ฉันปลอบคนไม่เป็น" 

"ฉันเปล่า"  ยุนอาเถียงทั้งตาแดงๆ  แต่ก็แกล้งทำหน้ามุ่ยใส่คนตัวเล็กที่หันมามองด้วยสายตาล้อเลียนก่อนหันไปจูงมือเธอนำเดินต่อ 

ใครบอกว่าพี่น้องบ้านนี้ไม่เหมือนกัน  ไม่จริงสักหน่อย

.........................

สเตฟานี่นั่งอมยิ้มอยู่หน้าแล็ปท็อปบนพรมหน้าโซฟาหนังสีกาแฟใส่นมนิดหน่อยตัวยาวในห้องนั่งเล่นตอนแทยอนโผล่เข้าประตูห้องพักมา  เธอร้องทักเพื่อนทั้งไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง  ทำให้คนขี้น้อยใจต้องย่องมาผลักหัวก่อนนั่งตุบลงบนโซฟาด้านหลัง

"ของฝากของฉันล่ะ  ไม่เอาโมเดลเทพีเสรีภาพนะ"

"ไม่ใช่  ตึกเอ็มไพร์สเตตต่างหากล่ะ"

"นั่นก็ไม่เอาเหมือนกันย่ะ  เอาที่มันดีกว่านั้นได้ไหม"

"เปล่า  ฉันเอาหิมะมาฝาก" 

แทยอนเลิกคิ้วแปลกใจ  แล้วหัวเราะเมื่อเพื่อนส่งลูกแก้วหิมะที่มีตัวละครดิสนีย์ที่เธอชอบมากมาให้  "ฉันชอบเอลซ่ามากกว่าแล้ว  ไม่เอาอันนา"

"ไม่ได้  เอลซ่าเป็นของฉัน"  สเตฟานี่บอกปัดอย่างเคร่งขรึม  "ฉันชอบผู้หญิงเย็นชาว่ะแท"

"ไม่ต้องบอกก็รู้"  แทยอนพูดพลางกลอกตา  "แล้ววันหนึ่งเธอจะแข็งตาย  สเตฟฟี่  หล่อนจะทำให้เธอตายสักวัน  เหมือนที่อันนาเกือบตาย"

"แต่รักแท้ช่วยได้นะ"

"รักแท้ของยายนั่นอยู่ที่เด็กคริสตัลต่างหากย่ะ  ไม่ได้อยู่ที่เธอ"

"พวกเขาเป็นพี่น้องกัน"  สเตฟานี่เถียงทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าความรักของเจสสิก้าทั้งหมดอยู่ที่น้องสาวคนเดียว  แต่เธอก็ยังหวังแค่เสี้ยวละอองที่เคยได้เหล่านั้นกลับมาอยู่ดี  "เขาบอกว่า  จะให้โอกาสฉัน"

"งั้นทำไมวันนี้เธอถึงอยู่บ้านคนเดียว"  แทยอนย้อนตรงๆ

"เจสสิก้าน่ะเหรอ  จะยอมมา  เจสสิก้าไม่ใช่เธอ"  สเตฟานี่ออกตัวปกป้องอดีตแฟน  แต่จริงๆ ก็น่าจะเป็นแฟนอยู่เพราะยังไม่ได้บอกเลิกกันอย่างเป็นทางการ  แค่ห่างเหินกันมากๆ เท่านั้นเอง

"แหม  ยังไม่ทันไรเลย  ฉันก็เป็นหมาหัวเน่าซะแล้ว  แต่ก็จริงนั่นแหละ  ไม่มีใครใจง่ายเท่าฉันหรอก  ฉันนอนกับอิยูลตั้งแต่ยังไม่ได้คืนดีกันเลย  แต่มันจะผิดตรงไหนล่ะ  ก็ฉันรักมันนี่หว่า  แล้วชีวิตมันก็สั้นเกินกว่าจะมานั่งเล่นตัว  หรือรอใครสักคนจนหยากไหย่ขึ้นด้วย"

"ฉันก็ไม่ได้ --"

"หุบปากไปเลยสเตฟ  ฉันไม่มีวันเข้าใจเธอหรอก  เหมือนที่เธอไม่มีวันเข้าใจฉันเหมือนกัน  ฉันอ่อนแอ  ฉันอยู่ไม่ได้  ถ้าไม่มีใครสักคน  มันก็แค่นั้น  แต่เธอคงคิดว่า  ฉันก็แค่เป็นฮีสทีเรีย  เป็นโรคประสาท"

"ฉันไม่เคยว่าเธอแบบนั้นเลย"

"แต่เธอคิดใช่ไหมล่ะ"  แทยอนพูดเสียงดังแต่อยู่ๆ ก็เปลี่ยนท่าที  "แค่เมนส์มาน่ะ  อารมณ์ไม่ดี  เข้าห้องดีกว่า"

"ฉันรอเธอกินข้าว  แต่เธอมาช้า  ฉันเลยกินไปก่อน  โทษทีนะ"

ผู้หญิงร่างเล็กชะงักอยู่หน้าประตูห้องตัวเอง  แล้วก็เดินกลับมาหยิบเอาลูกแก้วหิมะที่ลืมถือไป  ยืนสบตาคนซื้อมาฝากอยู่ครู่หนึ่งก็เบะปากใส่ก่อนก้มลงกอดคอ  "ฉันเกลียดเธอชะมัด  สเตฟานี่"

"เหรอ  แต่ฉันรักเธอนะ  จำไว้ด้วย"

"รู้แล้ว  ไม่งั้นเธอไม่ได้เห็นหน้าฉันนานแล้วย่ะ"  แทยอนบอกสุ้มเสียงเหมือนไม่เต็มใจ  ทั้งยังตบหลังอีกคนป้าบๆ  ก่อนผละออกมา

"ถ้าไม่รบกวนเกินไป  ต้มน้ำร้อนใส่กระเป๋าน้ำร้อนให้ด้วยนะ"

"ย่ะ  ไม่รบกวนเลย"  สเตฟานี่แกล้งทำเสียงไม่พอใจบ้าง  แทยอนหันมาขยิบให้เธอนิดนึงแล้วทำเป็นลูบท้องน้อยหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนจะบอกเธอว่าปวดท้องจริงๆ นะ  ไม่ได้แกล้ง  แล้วก็เข้าห้องไปพร้อมกับลูกแก้วหิมะที่เขย่าเล่นไปด้วย

"ยายเพี้ยน"  เธอพึมพำขยับตัวจะลุกขึ้น  แต่เสียงสัญญาณเตือนข้อความเข้าในกล่องข้อความของเฟซบุ๊กจากแล็ปท็อปที่เปิดค้างอยู่ก็ดังขึ้นมาให้ต้องคลิกขึ้นมาดูก่อน     

"นี่ก็อีกคน  จะเก๊กไปไหนนะ"  สเตฟานี่บ่นทั้งอมยิ้ม  แกล้งไม่พิมพ์ตอบข้อความคนที่ส่งมา 

[ฉันจะนอนแล้วนะ  ไม่ต้องมาชวนคุยแล้ว  บาย]

เห็นเมื่อ 21:58

...............................................

เจสสิก้ายิ้มให้ยุนอาที่กำลังกวาดร้านกับซอฮยอนที่เช็ดกระจกร้านอยู่  แล้วเดินออกประตูไป  ยกปกเสื้อแจ็กเกตให้ตั้งขึ้นกันลมปะทะลำคอ  อากาศไม่ได้หนาวจนต้องใช้ผ้าพันคอ  แค่ลมแรงนิดหน่อย 

เธอกำลังจะออกไปตลาดเช้า  ซื้อเบเกิลให้ตัวเองกับเด็กๆ  ซื้อของอื่นอีกนิดหน่อย  แล้วก็แวะทักเคเลบที่ร้านผลไม้  ขอบคุณเขาเรื่องที่ดูแลส่งของให้ร้านอย่างตรงเวลาเสมอ  แต่ที่สเตฟานี่โผล่มาเดินข้างๆ ด้วย  เป็นเรื่องนอกแผนการ  เธอแน่ใจว่าไม่ได้นัดแนะอีกฝ่ายไว้แต่อย่างใด

"เดินด้วยนะ"  สเตฟานี่ขออนุญาต  แต่ไม่ได้รอให้ตอบรับแต่อย่างใด

เจสสิก้าหรี่ตามองอีกคนนิดหน่อย  แล้วหันมาสนใจอย่างอื่นต่อ  ยังไงเธอก็ชอบบรรยากาศของซานฟรานซิสโกมากกว่านิวยอร์กจริงๆ  เพิ่งรู้ว่าคิดถึงมันมากแบบนี้ก็ตอนที่ไม่ได้มาเดินอย่างนี้มาสามวัน

"ที่เธอไม่ยอมย้ายไปอยู่สาขานิวยอร์กตอนนั้น  คงเป็นเหตุผลเดียวกับฉันตอนนี้มั้ง"  เธอเอ่ยขึ้นกะทันหันแล้วหันมามองหน้ามนุษย์กูเกิล  "ฉันน่าจะกลับมาตั้งนานแล้ว  ถ้าฉันรักที่นี่มากขนาดนี้"

สเตฟานี่ยิ้ม  เริ่มเข้าใจคำพูดน่างงของผู้หญิงแปลกๆ มากขึ้น  "ก็ฉันชวนเธอกลับบ้านตั้งนานแล้วนะ  แต่ก็เอาแต่พูดว่า  เอาไว้ก่อนๆ"

"เออ  ฉันขอโทษ"  เจสสิก้าพูด  แล้วเดินหนีไปต่อแถวซื้อเบเกิลที่ร้านเจ้าประจำ  แถววันนี้ก็ยังยาวยืดเหมือนเดิม  แต่เธอก็ไม่เบื่อที่จะรอ  แล้วก็ไม่ใช่เพราะมีเพื่อนยืนรอด้วยหรอกนะ  อย่างน้อยเธอก็คิดแบบนั้น

"แต่ยังไง  เธอก็อยู่ตรงนี้แล้ว  ขอบคุณพระเจ้า"  สเตฟานี่พูดเสียงระรื่นเหมือนหน้าตาที่ยิ้มร่าจนตาปิด  แม้เจสสิก้าจะหันมาทำหน้าดุใส่ไม่ให้ทำเสียงดังรบกวนชาวบ้าน  "ทำไมล่ะ  ฉันยังไปเข้าโบสถ์วันอาทิตย์อยู่นะ"

"ไปสารภาพบาปล่ะสิ"

"บาปอะไร  ไม่มีหรอก  แค่สวดมนต์  ภาวนานิดหน่อย"

"เหรอ"

"อือ"

"ฉันนึกว่า พระเจ้าของเธอชื่อคอมพิวเตอร์  หรือกูเกิลซะอีก"  เจสสิก้าพึมพำ  แล้วหันไปสั่งของที่ต้องการ  "จะเอาด้วยไหม  จะได้สั่งพร้อมกัน"  เธอถามสเตฟานี่ด้วย  รายนั้นก็ส่งเสียงแจ้วๆ พูดกับพ่อค้าเอง 

"นี่เธอซื้อไปถมที่เหรอ"

"เผื่อยุนไง  ยุนจะได้กินทั้งวัน"

"บ้า  เขาก็กินอย่างอื่นเป็นมั้ง"

สเตฟานี่หัวเราะแม้จะถูกอีกคนทำหน้ายุ่งใส่  แต่มาไม่ชอบใจตรงที่เจสสิก้าแวะคุยกับพ่อค้าร้านผลไม้นี่แหละ  ถึงจะรู้ว่าแค่มาติดต่องานกัน  ก็อดคิดไม่ได้ว่า  ยายแฟน(เก่า) ของเธอกำลังเช็กเรตติ้งตัวเองกับผู้ชายอยู่  หมอนี่ก็เหมือนจะติดกับยายตัวแสบไปแล้วด้วย

เจสสิก้าไม่เคยสนใจผู้หญิงที่ไหนหรอก  ทั้งที่มีผู้หญิงมาสารภาพรักตั้งเยอะแยะตอนเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับเธอ  แล้วตอนที่เธอตัดใจยอมเสียมิตรภาพระหว่างเพื่อนมาสารภาพรักกับเพื่อนสนิท  ก็ไม่ได้คิดหรอกว่าจะได้รับคำตอบว่า  ก็ลองดูก็ได้  ง่ายๆ อย่างนั้นเลย

แต่แล้วก็ดันเป็นเธออีก  ที่ทำลายโอกาสนั้นลงไปเอง

"ไปเหอะ  เสร็จแล้ว"

"ขอโทษนะ  ที่เมื่อคืนไม่ได้ตอบข้อความ"  สเตฟานี่พูด  ทั้งที่คิดว่าจะปล่อยมันไปในเมื่อเจสสิก้าไม่มีท่าทีว่าจะสนใจมัน  แต่เพราะเธอเพิ่งระลึกได้ว่าอาจจะไม่มีโอกาสนี้อีกแล้วก็ได้  ตอนนี้ที่ยังมีอยู่ก็ควรพยายามให้ถึงที่สุด

"ฉันแค่อยากจะแกล้ง  อยากรู้ว่าเธอจะทำยังไง"

"ฉันหลับ  ส่งเสร็จก็หลับเลย  ไม่ได้เปิดดูด้วยเมื่อเช้า"

"อ้าว"  สาวกูเกิลอุทานเสียงหลง  "โธ่  เจ...  เธอนี่นะ"

"ทำไมล่ะ  เธอไม่เคยจำเลยเหรอ  ว่าฉันไม่ชอบเล่นของแบบนั้น"

"สรุปว่า  ฉันผิดอีกแล้วเหรอ  ทำไมฉันเดาใจเธอไม่เคยถูกเลยนะ"

"เหรอ  แต่ฉันเดาออกอยู่ละ  ว่าเธอจะทำแบบนั้น"  เจสสิก้าพูด  "เธอสนใจฉันน้อยกว่าที่เธอคิด  เพราะงั้นเธอก็เลยเดาไม่ถูก  ง่ายๆ แบบนี้แหละ"

"แปลได้ว่า  เพราะเธอสนใจฉันเหรอ  ถึงเดาถูก"

"เปล่า  แต่เพราะฉันรู้จักเธอ"

"ฉันไม่เข้าใจ"

"โง่ต่อไปละกัน" 

สเตฟานี่อ้าปากค้าง  มองผู้หญิงตัวบางเดินลิ่วๆ ไปหาน้องสาวที่ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าร้าน  คุยยิ้มแย้มกับน้อง  กระตุ้นต่อมอิจฉาเธอให้เดือดปุดๆ  แถมยังต้องหันหนีสายตาเจ้าเล่ห์ของคริสตัลกับรอยยิ้มร้ายกาจที่ส่งมาให้จากตรงนั้นอีกด้วย

.....................................

ยุนอาใช้เวลาช่วงพักเที่ยงอยู่บนดาดฟ้าตึกร้าน  เพราะคริสตัลชวนให้มานั่งกินนั่งเล่นกันตรงนี้  เธอเพิ่งจบการกินขนมปังตบท้ายพาสต้าซีฟู้ดผัดเผ็ดที่เจ้านายใจดีสั่งมาจากร้านอาหารไทยให้  และกำลังควานหาน้ำดื่มบรรเทาความเผ็ด  แต่หันไปเห็นคริสตัลเอนหลังนอนอยู่ข้างๆ บนผ้าที่เราเอามาปูนั่ง

กินอิ่มเสร็จก็นอน  ช่างมีความสุขอะไรแบบนี้นะ

"มานอนด้วยสิยุน  เอาแรงไว้"  คริสตัลพูดทั้งไม่ได้เปิดตา 

"กินน้ำก่อนสิ  เผ็ด"

"มานี่มา  เดี๋ยวช่วย"

ยุนอากำลังจะถามว่า  จะช่วยยังไง  อีกคนก็ลุกขึ้นนั่งและจับหน้าเธอเข้าไปหา  กดริมฝีปากลงมาที่ปากเธอ  แล้วความเคยชินก็ทำให้เธอจูบตอบไป  อ้าปากรับเรียวลิ้นที่แทรกเข้ามาสำรวจข้างใน  ไม่นานก็รู้สึกว่าความเผ็ดลดลงจริงๆ  แต่มีความรู้สึกอื่นขึ้นมาแทน  เพราะมือคริสตัลเริ่มลามขึ้นมาจากเอวมาถึงหน้าอก 

"คริส..."

"ไม่ต้องอายแล้วยุน  ฉันเห็นหมดแล้ว"

"ดะ  เดี๋ยว  ว่าไงนะ" 

คริสตัลทำหน้ารำคาญนิดหน่อย  แล้วตอบเบาๆ  "ก็ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอตอนป่วยไง  ไม่ได้ลักหลับหรอกน่า  แถมเธอยังติดไฟแดงอีก  จะไปทำอะไรได้ไง  ขี้ระแวงจัง"

"แต่..."

"ฉันแก้ให้ดูก่อนก็ได้  เอ้า"

"ไม่เอา  อย่านะ  ไม่ใช่ที่นี่สิ"

"แต่ที่นี่บรรยากาศดีนะ"

ยุนอาส่ายหน้าถึงจะแอบคิดเห็นด้วยไปแล้ว  แถมยังแอบมองสิ่งที่เสื้อเชิ้ตปลดกระดุมไปสามเม็ดของคริสตัลเผยให้เห็นไปแล้วด้วย  ตอนนี้ใจเธอกำลังเต้นแรงสุดๆ ไปเลย  เป็นไปได้ว่าถ้าโดนจูบอีกนิดเดียว  เธอก็อาจจะห้ามตัวเองไม่ได้แล้ว  ไฟเขียวแล้วอีกต่างหาก

"โอเค  งั้นฉันนอนต่อ  หายเผ็ดแล้วใช่ไหม"  คริสตัลพูดอย่างไม่ใส่ใจ  และกำลังจะทิ้งตัวลงนอน  แต่มือผอมๆ ก็มากระชากคอเธอไปจูบก่อน

"ว้าว  นี่อะไรกันเนี่ย"  เธออุทานตาเป็นประกายขณะที่อีกฝ่ายหน้าเปลี่ยนเป็นสีชมพู  "ยังไม่หายเผ็ดหรือไง  ยุน"

"ฉันไม่อยากให้คริสไปจูบคนอื่น  แล้วก็เรื่องนั้นด้วย  แล้วถ้าฉันทำตัวน่าเบื่อ  เดี๋ยวสักพักคริสก็คง..."

คริสตัลอึ้งไปชั่ววินาที  แล้วยิ้มอย่างนึกสงสารคนคิดมาก  พลางจับคางยุนอาโยกไปมาเบาๆ  "ฉันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นมั้งยุน  ก็บอกแล้วว่า  รอได้ไง"

"แต่ว่า..."  ยุนอาจะเถียง  แต่ก็หมดคำพูดไปเฉยๆ  ตอนนี้เธอคงแค่อยากจะจูบแฟนตัวเองเท่านั้น

จูบได้พักนึงก็ลงมานอนมองหน้ากันตาแป๋ว  แต่คริสตัลตาปรือนิดๆ อาจจะเพลินที่นิ้วเธอไปลูบใบหูนิ่มๆ  "ฉันเห็นคริสทำหน้าแปลกๆ กับคุณสเตฟ  เมื่อเช้านี้"

"ตาดีจังเนอะ  หรือจ้องฉันอยู่ตลอด  ระวังทำออเดอร์ผิดนะ"

"ไม่ต้องพยายามเปลี่ยนเรื่องเลย  ทำแบบนั้นทำไม"

"โห  ดุเนอะ"  คริสตัลล้อเลียน  แต่เพราะสีหน้าจริงจังของแฟนก็ทำให้เธอเปลี่ยนท่าที  ไม่อยากทะเลาะด้วยเลย  "แกล้งพี่เขาเล่นน่ะ  หมั่นไส้แทนเจ"

"อ้าว  ทำไม"  ยุนหันไปห่วงเจสสิก้ามากกว่าตัวเองแล้ว  แต่มือก็ยังเล่นกับหูคริสตัลอยู่  เหมือนจะเพลินกว่าเจ้าของมันเสียอีก

"ก็ทำอะไรชักช้าไม่ทันใจเลยน่ะสิ" คริสตัลตอบเซ็งๆ "ช่างเหอะ  สนใจเรื่องของเราดีกว่า"  เธอพูดด้วยรอยยิ้มง่วงๆ  แล้วขยับตัวมานอนซุกอกยุนอาที่เปิดอ้าไว้ต้อนรับกันอย่างดี     


............................................................


มาละ  ถึงไม่มีใครทวงก็มา 

แต่อยากให้มีคนคิดถึงเรื่องนี้นะ  อิอิ

ขอบคุณค่า   :44: :45:

Rating: ***** โดย 1 สมาชิก
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น