Chapter 11 ที่เดียวไอ้น้อง... คืนนี้พี่จองโต๊ะมุมด้านใน
ขอมุมสลัวสลัว รู้ตัวว่าต้องร้องไห้
ไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตา
เสียงเพลงราชันย์ฝันสลายของคาราบาวจากการประสานเสียงของโชค ตั้ม และปรีชาดังขึ้นหน้าบ้านพักในจังหวัดอุดรธานี คืนวันนี้พวกเขานั่งดื่มกัน บนโต๊ะด้านหน้าพวกเขามีขวดเหล้าอยู่สองขวดพร้อมกับโซดาและขวดน้ำ อีกด้านหนึ่งของโต๊ะเป็นสาวๆ กี้กับสองที่ยังคงนั่งอยู่
“กี้ เหล้ามึงหมดแล้ว มาๆๆๆ เดี๋ยวกูชงให้” ปรีชากวักมือเรียกหญิงสาวเจ้าของชื่อให้ส่งแก้วเหล้าให้ กี้ทำตามที่เพื่อนบอก
“เอามาเข้มๆ เลยมึง โซดาล้วนน้ำไม่ต้อง” สาวเซอร์พูด
“กี้ คืนนี้มึงกินเยอะไปป่าววะ” สองพูดพลางมองไปที่เพื่อนร่วมงานที่ยังทำหน้าเฉยๆ
“ไม่นี่ ปกติ”
“กูว่าไม่ว่ะ... มึงดูแปลกๆ” สาวหมวยพูดต่อ
หนุ่มสกินเฮดปรามสอง “ไอ้สอง มัวแต่ห้ามไอ้กี้แก้วมึงก็หมดแล้ว เอามานี่มาเดี๋ยวชงให้”
“แก้วนี้พอแล้วนะพี่ ไม่เอาแล้ว” สาวหมวยยื่นแก้วให้
“ป๊อดว่ะ อ่อนเกลือ” ตั้มล้อรุ่นน้อง แต่สองก็ทำเป็นไม่ใส่ใจ
กี้ที่รับแก้วเหล้ามาก็บอกเพื่อนว่า “พวกมึงยังร้องเพลงไม่จบเลย ร้องให้จบดิวะ เสียชื่อลุงแอ๊ดหมด”
สิ้นเสียงของสาวเซอร์ หนุ่มๆ ก็ร้องเพลงที่ยังค้างอยู่ต่อไป คราวนี้มีเสียงของกี้แทรกเข้ามาด้วย
คืนนี้พี่เป็นราชา ราชันย์อกหัก
แห่งอาณาจักรชื่อรักสลาย
ไม่มีมเหสี ไม่มีหญิงใด
มีแต่เพื่อนใจชื่อว่าสุรา
รีบชงไอ้น้อง... คืนนี้ไม่กองไม่มีเลิกรา
คบคนมันมีแต่ท้อ คบแอลกอฮอล์มันกว่า
คำสั่งราชา ยกมาอีกแบน
(เพลงราชันย์ฝันสลาย: คาราบาว)
VIDEO สาวหมวยส่ายหน้ากับเพื่อนร่วมงานที่กำลังร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน แต่แล้วเสียงร้องก็เงียบลงเพราะเสียงโวยวายของจอยที่เปิดประตูห้องออกมา
“เฮ้ย! เงียบๆ หน่อยสิวะ ดูละครไม่รู้เรื่องแล้ว”
“กินเหล้าด้วยกันมั้ยคะคุณนาย” หนุ่มตี๋ร้องเรียกเพื่อน
“วันนี้มันวันพระนะเว้ย กูไม่กินเหล้าวันพระ” สาวอวบพูดเสียงเข้ม “พรุ่งค่อยกิน”
“วันพระมันเป็นกิจของสงฆ์ ไม่เกี่ยวกับฆราวาสอย่างพวกเรา” โชคตอบ “พรุ่งนี้อย่าลืมมาดวลกันล่ะ”
“พอเลยมึง ละครมาแล้ว เงียบเลยนะ ถ้าได้ยินเสียงร้องเพลงของพวกมึงอีกละก็ แม่เอาตาย” จอยพูดเสียงเข้ม
“ทราบแล้วค่ะ คุณนายขา... ขอให้ดูคนตบกันอย่างมีความสุขนะคะ” หนุ่มสกินเฮดรับด้วยเสียงแต๋วแตก
สาวอวบด่าออกมาแบบไม่มีเสียง อ่านปากได้ความว่า “ไอ้สลัด!” แล้วปิดประตูอีกครั้ง
“ไปนอนแล้วนะพี่ ไม่ไหวแล้ว” สองลุกขึ้นจากเก้าอี้
“อะไรวะไอ้สอง... ไอ้อ่อนเกลือ...” ปรีชาว่าเพื่อนไล่หลัง
“เออ กูยอม... กี้กูเข้าไปก่อนนะ” สาวหมวยบอกเพื่อน
“เออ เดี๋ยวตามไป” สาวเซอร์ตอบ
กี้เดินเข้ามาในห้องหลังจากสองประมาณครึ่งชั่วโมง สาวหมวยกำลังดูโทรทัศน์อยู่และก่อนที่สาวเซอร์กำลังจะเข้าไปอาบน้ำนั้นเพื่อนร่วมห้องก็พูดขึ้นมาเบาๆ ว่า
“โฆษณาตัวใหม่ของคุณนัสนี่”
เท้าของกี้ที่กำลังจะเดินเข้าห้องน้ำก็หยุดทันทีแล้วหันมามองที่โทรทัศน์ ภาพที่เธอเห็นคือวีนัสในโฆษณาครีมอาบน้ำยี่ห้อหนึ่ง ดาราหน้าหวานดูสวยมากในชุดกระโปรงพลิ้ว ท่าทางของดาราสาวดูแปลกตาจากที่เคยเห็นประจำ แต่สิ่งสะกดให้สาวเซอร์ยืนดูอยู่ตลอดคือรอยยิ้มของพรีเซ็นเตอร์เป็นรอยยิ้มที่เธอชอบและอยากให้เธอคนนั้นยิ้มให้กับเธอบ่อยๆ
“คุณนัสน่ารักเนอะ” สองพูดหลังจากที่โฆษณาจบลง
“อื้อ” สาวเซอร์รับคำสั้นๆ แล้วเดินเข้าห้องน้ำ
กี้ยืนอาบน้ำอยู่ใต้ฝักบัวพลางคิดถึงคำพูดสุดท้ายที่เธอกับวีนัสได้คุยกัน และคำพูดนั้นจบลงด้วยการทะเลาะและไม่เข้าใจกัน เธอปิดเครื่องหนีอีกฝ่ายเพราะรู้สึกเหนื่อยกับการรับมือหลายๆ ด้าน ทั้งจากเรื่องงานและเรื่องของดาราหน้าหวาน
‘เวลามีเรื่องกดดัน มีใครกดดันเยอะๆ จะเงียบ แล้วจะหนี ถ้าหนีไม่ได้จะไม่พูด ไม่ทำอะไรเลยจนกว่าเรื่องจะเงียบถึงค่อยออกมาพูด’ คำพูดของสองดังขึ้นมาในหัว ดูท่าทางเธอกำลังจะหนีจากดาราสาวจริงๆ
เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วสาวเซอร์เดินไปที่โทรศัพท์มือถือแล้วก็ต้องปิดเครื่องเพราะไม่มีสัญญาณ กี้ล้มตัวลงนอนบนเตียงแบบเซ็งๆ เพราะหลังจากวันนั้นเธอก็ไม่ได้คุยกับวีนัสอีกเลย ดูท่าทางดาราสาวกำลังยุ่งกับงานที่ทำอยู่ ส่วนเธอก็มัวแต่ยุ่งกับหน้าที่ๆ ได้รับผิดชอบ
‘คนอย่างฉันคงต้องอยู่คนเดียวแล้วละมั้ง’ กี้คิดในใจ เธอชอบดาราหน้าหวาน และชอบมากขึ้นเรื่อยๆ เธอแทบจะอดใจไม่ไหวในวันที่วีนัสมาหาที่บ้านแล้วทั้งสองเกือบจะมีอะไรกัน ถ้าอีกฝ่ายไม่ห้ามไว้ป่านนี้เธอก็คงพยายามที่จะหาทางโทรหาดาราสาวเหมือนกับสองที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อโทรหาอุ้มทุกครั้งเวลาออกต่างจังหวัด เธอรู้สึกว่าเวลาที่อยู่ใกล้อีกฝ่ายนั้น รอยยิ้มสวยๆ ของวีนัสทำให้เธอรู้สึกดีและมีชีวิตชีวา ความอ่อนโยนที่ได้รับทำให้คนแข็งกระด้างและมโนหยาบอย่างเธอคิดอยากจะลุกขึ้นมาดูแลและเอาใจเพื่อจะได้เห็นยิ้มสวยๆ ยิ่งตอนที่เห็นดาราหน้าหวานนอนหลับอยู่ข้างๆ นั้นให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจราวกับเธอได้ครอบครองสิ่งที่ดีที่สุดในโลกและอยากมองหน้าอีกฝ่ายแบบนี้ตลอดไป
“แล้วคุณอยากให้ฉันทำอะไรล่ะ”
สาวเซอร์พูดขึ้นมาเบาๆ พลางมองไปที่โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างหัวเตียง เธอไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองว่าวีนัสมีใจให้เธอ ความสัมพันธ์ของเธอกับอีกฝ่ายอาจจะเป็นเพียงความสัมพันธ์ดีๆ ที่เพื่อนผู้หญิงมีให้กันอย่างที่เพื่อนผู้หญิงชาวต่างชาติของเธอหลายคนเคยเล่าให้ฟังว่าพวกเธอเคยรู้สึกดีๆ และเคยมีความสัมพันธ์เกินเลยกับเพื่อนผู้หญิงด้วยกันแต่ก็ยังคงสถานะไว้เป็นเพียงแค่เพื่อนที่เรียกว่า Friends with benefits* ดาราสาวอยู่ต่างประเทศมานานจนเคยชินกับวัฒนธรรมทางนั้นและอาจจะคิดกับเธอเหมือนอย่างคนที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง แถมอีกฝ่ายเพิ่งจะเลิกกับแฟนด้วย คงยังไม่อยากจะมีใครในหัวใจในเร็วๆ นี้ก็เป็นได้
*Friends With Benefits (FWB) หมายถึง เพื่อนหรือคนที่ตกลงมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแต่ไม่ผูกพัน (ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง) มีงานวิจัยจาก Michigan State University กล่าวว่าความสัมพันธ์แบบนี้มีแนวโน้มว่าคนที่เป็นเพื่อนเริ่มมีความรู้สึกเสน่หากับอีกฝ่ายมากกว่าเพื่อนเฉยๆ แต่ขณะเดียวกันก็เกรงว่าต่างฝ่ายต่างจะตกหลุมรักกันเกินพอดี FWB มีกฎเหล็กเรียกว่า No string attached คือไม่มีความผูกมัดทางใจต่อกัน สิ่งเดียวที่สองฝ่ายพึงใจจะร่วมแชร์ด้วยกันคือเรื่องของความต้องการทางเพศล้วนๆ หากเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งที่ความสัมพันธ์แบบนี้ไม่สามารถเป็นไปได้อีกต่อไปกับทั้งสองฝ่าย ต่างคนก็ต่างพร้อมจะถอยออกมาคนละก้าวเพื่อดำรงความสัมพันธ์แบบเพื่อนสนิทเอาไว้ กี้ยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก หลังจากที่พ่อแม่ตายเธอก็เคยชินกับการนอนท่านี้อยู่พักหนึ่ง แต่ก็เลิกทำหลังจากที่สถานการณ์ของที่บ้านดีขึ้นและไม่เคยนอนท่านี้อีกเลยจนกระทั่งวันนี้... เธอกำลังคิดมาก คิดมากเรื่องวีนัส ดาราสาวที่เธอไม่รู้จัก ดาราที่ทำความรู้จักกับเธอเพราะได้รับบทที่เธอเป็นต้นแบบ และมันไม่ควรจะมีอะไรที่มากเกินไปกว่านี้ แต่มันเป็นไปแล้ว...
“บ้าชิบ” สาวเซอร์พูดขึ้นมาเบาๆ แล้วหลับตาลง คิดถึงกอดอุ่นๆ และกลิ่นหอมๆ ที่มาจากตัวของดาราหน้าหวาน
...
วีนัสอยู่ที่กองถ่ายหนัง เธอกำลังอ่านบทของเธออยู่... ซีนที่เล่นในวันนี้เป็นซีนที่เธอในบทของกี้ต้องปลอบใจเอ ดาราสาวหน้าเกาหลีที่รับบทเป็นพริมนางเอกของเรื่องที่มีเรื่องไม่เข้าใจกันกับพระเอกของเรื่อง ดาราหน้าหวานพยายามตั้งสมาธิกับบทที่อยู่ตรงหน้าแต่ก็ทำไม่ได้สักที เพราะคำพูดในบทนี้เป็นคำพูดที่คล้ายกับกับพูดของกี้ตัวจริงที่เคยพูดกับเธอมาก ดาราสาวพยายามท่องบทในซีนนี้อยู่ตลอดคืนแต่ก็ไม่สำเร็จ เธอได้แต่หยิบหมอนใบเล็กที่ต้นแบบคาแรคเตอร์ของเธอซื้อมาเป็นของฝากขึ้นมากอดแล้วหลับไป
‘ตั้งสติสิวีนัส ตั้งสติ เธอต้องมีสมาธินะ’ วีนัสพยายามบอกกับตัวเองแล้วท่องบทไปเรื่อยๆ แต่ยิ่งอ่านก็ยิ่งหงุดหงิดตัวเองเพราะเธอไม่สามารถเอาภาพของสาวเซอร์ออกจากหัวได้เลย
“นัสเป็นอะไรหรือเปล่า ดูท่าทางไม่ค่อยดีเลย” เอที่นั่งอยู่ข้างๆ ถามหลังจากสังเกตอาการของอีกฝ่ายอยู่นาน
“เอ่อ... พอดีว่าเมื่อคืนนอนไม่ค่อยพอน่ะค่ะ ก็เลยรู้สึกง่วงนิดหน่อย”
“เหรอคะ...” ดาราหน้าเกาหลีรับคำ “อื้อ... มะรืนนี้เอต้องไปงานของสถาบันฯ ด้วยล่ะ นัสจะฝากอะไรให้กับพวกพี่ๆ เจ้าหน้าที่มั้ย เห็นพี่แจนบอกว่านัสสนิทกับเจ้าหน้าที่ของสถาบันฯ หลายคนอยู่”
“ค่ะ... ถ้านัสคิดออกแล้วจะบอกนะคะ ถามตอนนี้ยังนึกอะไรไม่ออกเลยว่าจะฝากอะไรไปให้ดี แล้วพรุ่งนี้นัสจะเอามาฝากเอนะคะ”
“ค่ะ”
ดาราหน้าหวานถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก การถ่ายทำในวันนี้เป็นไปได้ด้วยดีและไม่มีข้อผิดพลาดในส่วนของเธอ สายป่านเดินเข้ามาชมเธออีกครั้งว่าเธอสามารถสวมบทบาทได้เหมือนกี้ที่นักเขียนบทจินตนาการเอาไว้พร้อมยังพาดพิงถึงตัวจริงเล็กน้อย เธอทำได้แค่เพียงยิ้มกลับไป เมื่อสาวแว่นเดินจากไปเธอก็ถอนหายใจอีกครั้ง
‘ถอนหายใจประจำเลยนะคุณ วันหลังฉันจะเริ่มนับว่าคุณถอนหายใจวันละกี่ครั้ง’ เสียงของกี้ที่เคยแซวเธอเรื่องถอนหายใจดังขึ้นมาในห้วงความคิด
วีนัสยิ้มออกมาเล็กน้อย
‘ฉันถอนหายใจมาสองครั้งแล้วนะ ก็เพราะคุณนั่นแหละ’ เมื่อดาราหน้าหวานกลับมาถึงที่คอนโดเธอก็พบกับพ่อและแม่ของเธอที่มาหา ทั้งสองนำของฝากมาให้เธอมากมายเพราะกลัวว่าลูกสาวคนโตจะเบื่อกับการที่ต้องซื้อของกินเอง รวมทั้งกลัวว่าจะเบื่อกับข้าวกล่องของกองถ่ายที่เธอเคยบ่นให้ฟัง
“ก็แม่นั่นแหละไม่เคยสอนลูกทำกับข้าว โตมาก็เลยทำอะไรกินเองไม่เป็นเลย” วีระชัย คุณพ่อร่างสูงแขวะนัทรียา คุณแม่ร่างผอมที่มีใบหน้าคล้ายกับเธอ
“พ่อต่างหากที่ผิด เวลาแม่จะสอนนัสทำกับข้าวทีไรก็บอกว่า อย่าเพิ่งเลยให้ลูกทำอย่างอื่นก่อนดีกว่า ไม่ต้องมาโยนความผิดให้แม่เลยนะ เชอะ”
ของที่พ่อกับแม่ของเธอเอามาฝากส่วนใหญ่จะเป็นของทะเลที่พร้อมรับประทานได้ทันที ดาราหน้าหวานไม่ค่อยทำกับข้าวกินเองสักเท่าไหร่นักเพราะไม่มีเวลา และอีกเหตุผลหนึ่งก็อย่างที่พ่อกับแม่ว่า... ไม่มีใครสอนเธอทำอาหาร เธอเลยทำไม่ค่อยได้ อย่างดีที่สุดก็แค่ต้มซุปธรรมดาๆ หรืออาหารตระกูลไข่ จอมแฟนเก่าของเธอเคยสอนทำอาหารตอนที่อยู่อเมริกา แต่ก็เป็นกับข้าวง่ายๆ ที่พวกนักเรียนนิยมทำกินกันเองด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้าหรือไมโครเวฟเท่านั้น
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตอนนี้หนูมีเพื่อนทำอาหารเก่ง เดี๋ยวขอให้เค้าสอนก็ได้” วีนัสพูด
“ใครเหรอลูก ผู้หญิงหรือผู้ชาย ใช่พีทหรือเปล่า” แม่ของเธอถามทันที
ดาราหน้าหวานส่ายหน้า “ไม่ใช่ค่ะ เพื่อนผู้หญิง ช่วงก่อนหน้านี้หนูไปต่างจังหวัดเพราะโปรเจ็ค CSR ของบริษัทก็เลยเป็นเพื่อนกับพวกเจ้าหน้าที่ของสถาบันฯ ที่หนูเคยเล่าให้ฟังไงคะ พวกเค้าทำงานเก่งๆ กันทั้งนั้นเลยค่ะ ทำอะไรก็ได้ ดูคล่องไปหมดด้วย หนูเคยไปนั่งดูพวกเค้าทำกับข้าวอยู่พักนึง จากปลากระป๋องธรรมดาๆ กลายเป็นกับข้าวที่แบบน่ากินมากๆ แล้วก็ได้ตั้งหลายอย่างด้วย ก็เลยกะว่าจะขอให้เค้าสอนให้”
คนที่ดาราสาวพาดพิงถึงไม่ใช่ใครอื่นคนๆ นั้นคือกี้นั่นเอง สาวเซอร์เคยโชว์ฝีมือทำอาหารให้กับทีมงานของบริษัทกินกันในช่วงทริปที่ 2 ที่วีนัสเดินทางไปด้วย เพียงแค่ปลากระป๋องกับเนื้อหมูและผักสวนครัว 2 – 3 ชนิด กี้ก็สามารถเนรมิตเป็นกับข้าวได้ 3 – 4 อย่าง จนทำให้ทุกคนทึ่งกันไปเลย
“ดีๆ ลูกแม่จะได้ทำกับข้าวเป็นบ้าง แล้วตอนนี้เพื่อนลูกคนนั้นอยู่ไหนล่ะ”
“เค้าออกต่างจังหวัดน่ะค่ะ ตอนนี้รู้สึกว่าจะติดต่อไม่ได้สงสัยไม่มีสัญญาณ” ดาราหน้าหวานคาดเดาทั้งๆ ที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบที่เธอพูดหรือไม่
“แต่ว่าพรุ่งนี้ทีมที่บริษัทจะไปร่วมงานกับพวกเค้าน่ะค่ะ หนูกะว่าจะหาของฝากไปให้พวกเค้าหน่อย เห็นคราวที่แล้วเล่าว่าไม่ค่อยมีอะไรกินกัน ต้องไปกินข้าววัด พวกผู้ชายคงไม่เดือดร้อนอะไรมาก แต่มีผู้หญิงหลายคนไปด้วย กินอะไรแบบนั้นน่าสงสารจะตาย”
“งั้นพ่อว่าเอาของพวกนี้ฝากไปให้เพื่อนๆ นัสก็แล้วกันเนอะ แล้วเดี๋ยวเราค่อยเอาของมาให้ลูกใหม่ ดีมั้ยแม่” วีระชัยหันไปถามภรรยา
“ดีๆ คนทำงานแบบนี้ได้ต้องนับถือน้ำใจเค้าเลยล่ะที่ยอมเสียสละความสบายไปช่วยคนอื่นเค้า เอาไปให้เค้าหมดนี่เลยก็ได้นะลูก ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มอีกเดี๋ยวพวกเราออกไปซื้อกัน” นัทรียาหันไปบอกกับลูกสาวที่ยิ้มกว้าง
วันต่อมาดาราหน้าหวานหอบถุงของฝากถุงใหญ่ที่ได้จากพ่อกับแม่ไปฝากซีน PR สาวที่กำลังเตรียมตัวออกเดินทาง เอ ดาราสาวหน้าเกาหลีเห็นถุงของฝากก็อ้าปากค้าง
“นัส... นั่นของฝากให้ทีมสถาบันฯ เหรอ” ดาราสาวหน้าเกาหลีถามด้วยความตกตะลึง
“ค่ะ พอดีว่าเมื่อวานพ่อกับแม่มาหาแล้วก็ขนของพวกนี้มาด้วย นัสกินคนเดียวไม่หมดก็เลยกะว่าจะเอาไปฝากทีมที่อยู่ที่นั่นน่ะค่ะ”
“อื้อหือ ของพวกนี้พวกผู้ชายคงดีใจเลยล่ะ กับแกล้มเหล้าทั้งนั้นเลย” ภีม ช่างภาพหนุ่มเดินเข้ามามองของในถุงทำให้สาวๆ หัวเราะลั่น
“ก็มีแต่ของประมาณนี้แหละค่ะ ฝากเอกับพี่ซีนให้กับทีมด้วยนะคะ”
“จ้า” ซีนรับคำ
“เอ้อ แล้วก็... ฝากนี่ให้คุณกี้ค่ะ” ดาราสาวหยิบซองกระดาษสีน้ำตาลขนาดประมาณซองบุหรี่ขึ้นมาจากกระเป๋าถือ
“อะไรเหรอนัส” เอถาม
“บุหรี่แบบไม่มีนิโคติน สำหรับคนที่กำลังจะเลิกสูบน่ะ... เห็นว่าสูบบ่อยก็เลยอยากให้เลิก” ดาราหน้าหวานพูด พักหลังนี้เธอเห็นกี้สูบบุหรี่ค่อนข้างจัด ที่ทำความสะอาดห้องคงเป็นเพราะไม่อยากให้เธอได้กลิ่นบุหรี่ที่ติดอยู่ตามของใช้ เสื้อผ้า และผ้าม่าน เนื่องจากช่วงหลังมานี้เธอไปที่บ้านของอีกฝ่ายบ่อยแล้วเริ่มบ่นถึงกลิ่นบุหรี่ที่อยู่ในห้อง
“อ๋อ... เออเนอะ คุณกี้เค้าสูบบุหรี่ด้วยนี่” PR สาวพูด “ใจดีจังเลยนะคะน้องนัส”
“ก็เค้าเคยช่วยนัสนี่คะ ก็แค่อยากช่วยเค้ากลับบ้างก็เท่านั้นเอง” วีนัสพูด เรื่องที่สาวเซอร์โดนหมากัดแทนเธอกลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงค่อนข้างมากในหมู่คนที่ร่วมงานกับสถาบันฯ และถามเธอถึงอาการของกี้ทุกครั้งว่าเป็นอย่างไรบ้าง หายหรือยัง
ดาราหน้าหวานโบกมือให้กับรถตู้ที่กำลังจะเดินทางไปท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อขึ้นเครื่องบินไปสมทบกับทีมของสถาบัน เมื่อเธอเดินกลับเข้าไปในตึกเพื่อคุยงานเกี่ยวกับละครเรื่องใหม่ เธอก็เจอพีท...
“นัส หวัดดีครับ บังเอิญเจอกันอีกแล้ว” ดาราหน้าตี๋ทัก
“เอ่อ... ค่ะ” ดาราสาวยิ้มเจื่อนๆ ตอบกลับไป “ขอตัวนะคะพอดีว่าพี่จ๋ารออยู่”
“ไปชั้นไหนเหรอ”
“ชั้น 24 ค่ะ”
“พอดีเลยผมก็กำลังจะไปชั้นนั้นเหมือนกัน ไปด้วยกันเลยเนอะ” พีทรีบเดินไปกดลิฟต์ให้อีกฝ่ายทันที วีนัสกลอกตาไปมาด้วยความเซ็ง ในใจคิดออกมาดังๆ ว่า
‘Damn it! Leave me alone! (ให้ตายเถอะ! ขอฉันอยู่คนเดียวได้มั้ย!)’ ...
“ว้าว... คราวนี้ไม่อดแล้วเว้ยกับแกล้มเพียบ” ปรีชาพูดเสียงดังหลังจากเห็นถุงของฝากที่ทีมบริษัท GNN เอามาฝาก
“ของพวกนี้น้องนัสฝากมาให้ค่ะ” ซีน PR สาวพูด
หลังจากได้ยินเสียงของซีน ผู้ชายทุกคนรวมทั้งจอยพร้อมใจกันหันหน้าเข้าหาตัวอาคารที่รถตู้ของบริษัท GNN จอดอยู่ ด้านหน้าของพวกเขาเป็นร้านโชว์ห่วยที่มีโปสเตอร์ครีมอาบน้ำที่วีนัสเป็นพรีเซ็นเตอร์แปะอยู่ด้วย พวกเขานั่งชันเข่า ยกมือสองข้างขึ้นเหนือหัวประหนึ่งกำลังจะโค้งคำนับเทวดาฟ้าดินแล้วพูดพร้อมกันว่า
“ไฮน์ วีนัส พวกเราขอชาบู บูชา แม่พระมาโปรด ผู้ทำให้พวกเราไม่อดอยากในทริปนี้”
ทุกคนหัวเราะคิกส่วนกี้กับสองก็ส่ายหน้า
“พูดแบบนี้ถ้านายมาเห็นคงโดนกันหมด หาว่าสถาบันฯ เลี้ยงไม่ดีไม่ให้เงินเดือนอ่ะดิ เฮ้ย! พวกมึงอ่ะลุกเลย ลุกๆๆ อายคนอื่นเค้าบ้างดิ” สาวเซอร์ตะโกนบอกเพื่อน
“พูดแบบนี้แสดงว่ามึงไม่กินใช่มะไอ้กี้” ตั้มพูด
“กิน... ของเอามาฝากไม่ได้ระบุตัวคน พวกมึงกินได้กูก็กินได้” กี้ตอบแบบกวนๆ แล้วหันไปคุยกับ PR สาวเกี่ยวกับงานในวันพรุ่งนี้
สาวหมวยเดินเข้าไปดูของฝาก แล้วหันไปถามเอที่เดินมายืนดูข้างๆ ว่า “ของคุณนัสหมดเลยเหรอคะเนี่ย”
“ค่ะ... เห็นบอกว่าพ่อกับแม่มาหา เอาของมาฝาก เค้ากินไม่หมดก็เลยขอเอามาให้ทีมสถาบันฯ แทนน่ะค่ะ เอเห็นแล้วยังเหวอเลย ก่อนหน้านั้นแค่ถามว่าจะฝากของอะไรมั้ย ตอนนั้นนัสเค้าตอบว่ายังคิดไม่ออก พอวันต่อมาก็หอบของพวกนี้มาหมดเลย”
ดูเหมือนดาราหน้าเกาหลีนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอขอตัวแล้วเดินไปหากี้หลังจากนั้นก็ยื่นห่อกระดาษให้กับอีกฝ่าย เมื่อเอเดินเข้ามาหาสองอีกครั้งเธอก็บอกว่าอีกฝ่ายว่า
“นัสเค้าฝากของมาให้คุณกี้น่ะค่ะ เห็นบอกว่าเป็นบุหรี่แบบไม่มีนิโคติน อยากให้คุณกี้เลิกสูบ” ดาราหน้าเกาหลีอธิบาย
สาวหมวยพยักหน้าช้าๆ แล้วหันไปมองเพื่อนร่วมงานที่ยังคงคุยกับซีนอยู่
ช่วงค่ำของวันนั้น สาวเซอร์เดินออกมาข้างนอกห้องเพื่อสูบบุหรี่ เธอควักบุหรี่มวนสุดท้ายที่เหลืออยู่ในซองเก่าพลางจะจุดขึ้นสูบแต่ก็หยุดมือไว้เมื่อเห็นซองสีน้ำตาลที่ดาราหน้าเกาหลียื่นให้พร้อมกับบอกกับเธอว่าวีนัสเป็นคนฝากมา เมื่อแกะซองออกดูก็เธอก็เห็นซองบุหรี่ซองหนึ่ง เป็นบุหรี่ที่ทำมาจากใบผักกาดหอม ไม่มีส่วนผสมของใบยาสูบและไม่มีนิโคตินสำหรับคนที่อยากจะเลิกสูบบุหรี่เร็วๆ ของนำเข้าจากต่างประเทศ ตรงหน้าซองบุหรี่มีกระดาษโน้ตลายมือของดาราหน้าหวานเขียนว่า
‘Look before you leap (คิดให้ดี คิดให้รอบคอบก่อนที่จะทำอะไร)’ กี้หัวเราะกับตัวเอง “โดนเอาคืนจนได้” เธอชูซองบุหรี่ซองนั้นขึ้นเหนือหัวพลางมองไปที่ดาวศุกร์ที่ส่องแสงให้เห็นอยู่ไกลๆ บนท้องฟ้าแล้วพูดต่อว่า “ขอบคุณนะดาว ขอบคุณนะ... วีนัส”
สาวเซอร์ทิ้งบุหรี่มวนสุดท้ายทิ้งไป เก็บซองที่ดาราหน้าหวานให้ใส่กระเป๋าแล้วเดินกลับห้อง
...
ช่วงใกล้เที่ยงของวันธรรมดา วีนัสกำลังเดินหาร้านอาหารภายในห้างสรรพสินค้าแถวชานเมือง เธอรู้สึกสบายๆ เพราะมีผู้คนไม่มากนัก วันนี้เธอไปทำพิธีบวงสรวงละครเรื่องใหม่ที่เธอเล่นเป็นนางเอกคู่กับดาราชายที่อายุมากกว่าเธอแต่ก็คุ้นเคยกันดีเพราะเคยร่วมงานถ่ายแบบร่วมกันมาก่อน เมื่อเธอเดินดูของไปตามทางเรื่อยๆ ก็พบกับหญิงสาวที่คุ้นหน้าคุ้นตาคนหนึ่งกำลังยืนดูเสื้อผ้าอยู่หน้าร้านแบรนด์เนมแห่งหนึ่ง
“ใช่คุณอุ้มหรือเปล่าคะ” ดาราหน้าหวานเดินเข้าไปทักหลังจากมองอีกฝ่ายให้แน่ใจอยู่พักหนึ่ง
หญิงสาวคนนั้นเมื่อได้ยินเสียงทักก็หันมา เมื่อเห็นดาราสาวเธอก็ยิ้มให้ “คุณนัส หวัดดีค่ะ ดีใจจังคุณนัสจำอุ้มได้ด้วย”
“จำได้สิคะ คุณอุ้มชวนนัสไปช่วยงานสนุกๆ แบบนั้นทำไมจะจำไม่ได้ละคะ” วีนัสตอบ “คุณอุ้มมาซื้อของเหรอคะ”
“เปล่าค่ะ อุ้มมาติดต่องานข้างนอก พอดีว่าช่วงเช้าเสร็จแล้วก็รอนัดช่วงบ่ายค่ะ” สาวหน้าฝรั่งแฟนของสองมองดูนาฬิกาข้อมือ “ตอนนี้เที่ยงกว่าแล้ว คุณนัสทานข้าวหรือยังคะ”
“ยังเลยค่ะ นัสเพิ่งจะเสร็จงานตอนเช้าเหมือนกัน กะว่าจะมาหาอะไรทานแล้วก็จะกลับค่ะ”
“งั้น... วันนี้อุ้มขออนุญาตเลี้ยงข้าวคุณนัสนะคะ วันก่อนที่มาช่วยงาน อุ้มยังไม่ได้ตอบแทนอะไรคุณนัสเลย”
ดาราหน้าหวานรีบปฏิเสธทันที “ไม่ดีมั้งคะ วันนั้นนัสไปช่วยเพราะคุณกี้เค้าชวนน่ะค่ะ นัสว่างอยู่ก็เลยไปด้วย คุณอุ้มเองก็ยังแบ่งเงินส่วนแบ่งมาให้นัสด้วย ถ้าวันนี้ให้คุณอุ้มเลี้ยง นัสว่าคงไม่ดี”
อุ้มยิ้ม “อุ้มรู้นะคะว่าวันนั้นคุณนัสไม่ยอมรับเงิน ไม่รู้แหละวันนี้อุ้มขอเลี้ยงข้าวดาราให้เป็นเกียรติกับวงศ์ตระกูลสักวันก็แล้วกันนะคะ คุณนัสอย่าปฏิเสธเลยนะคะ”
ดาราสาวหัวเราะ “เป็นเกียรติกับวงศ์ตระกูลเลยเหรอคะ โห... นัสไม่กล้าหรอกค่ะ แต่ถ้าคุณอุ้มยืนยันแบบนั้นนัสก็... ไม่กล้าปฏิเสธน้ำใจคุณอุ้ม ขอบคุณนะคะ”
สองสาวเดินเข้าร้านสเต็กแห่งหนึ่งและเลือกโต๊ะที่นั่งตรงมุมเพื่อความเป็นส่วนตัว ทั้งสองคุยกันอย่างถูกคอเพราะดูเหมือนว่าจะชอบอะไรที่คล้ายกัน
“คุณอุ้ม... นัสขอถามเรื่องส่วนตัวหน่อยได้มั้ยคะ” วีนัสถามอีกฝ่ายและได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้า
“คุณอุ้มคบกับคุณสองมานานหรือยังคะ” สิ้นคำถามของดาราหน้าหวาน ใบหน้าของสาวหน้าฝรั่งก็แดงขึ้นเล็กน้อย
“คุณนัสรู้ด้วยเหรอคะ... หรือว่ากี้บอก”
“ก็ทั้งสังเกตแล้วก็ถามคุณกี้ด้วยน่ะค่ะ”
“อุ้มคบกับสองมาประมาณปีกว่าแล้วค่ะ... รู้จักกันเพราะการทำงาน สองเค้าน่ารักค่ะแต่ก็มีช่วงหลังๆ มานี้ทะเลาะกันบ่อยนิดนึงเพราะอุ้มงี่เง่าเอง อยากให้สองเอาใจ อยากให้สองโทรหาบ่อยๆ ทั้งๆ ที่รู้ว่างานของสองทำให้เค้าทำแบบนั้นไม่ได้ ทำให้สองเป็นเหมือนแฟนเพื่อนอุ้มไม่ได้ที่มาคอยเทคแคร์ เอาใจ ไปเที่ยวด้วยกันไม่ได้ แต่ตอนนี้ก็โอเคแล้วค่ะ คุยกันเยอะขึ้นปรับความเข้าใจกันมากขึ้น” อุ้มพูดยืดยาวราวกับอยากจะระบาย
“แล้ว... เห็นคุณกี้บอกว่าคนที่สถาบันฯ รู้กันหมดว่าคุณอุ้มกับคุณสองเป็นแฟนกัน คุณอุ้มไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอคะ แบบว่าถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ หรือมีคนนินทา เอ่อคือที่นัสถามเนี่ยเพราะว่าช่วงแรกๆ นัสเองก็เคยมีข่าวแบบนี้มาก่อน โดยมองโดนว่ามาก็เยอะน่ะค่ะ”
สาวหน้าฝรั่งยิ้ม “ก็มีค่ะ เยอะด้วย ก็รู้สึกแย่เหมือนกัน แต่อุ้มกับสองคบกันได้โดยไม่สนใจคนอื่นเพราะกี้นั่นแหละค่ะ กี้บอกว่าเราห้ามให้คนอื่นมองหรือว่าไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็อย่าไปใส่ใจ เพราะถ้ามัวแต่คิดถึงความรู้สึกของคนอื่น มันก็ทำให้เราเป็นทุกข์ สิ่งไหนที่ทำให้เรามีความสุขแล้วไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ทำต่อไป พอเอาคำพูดของกี้มาคิดก็เลยทำให้อุ้มกับสองไม่สนใจเสียงว่า เสียงนินทา จนเสียงพวกนั้นซาลงไปแล้วพวกเค้าก็เริ่มชินจนไม่พูดอะไรแล้วล่ะค่ะ”
ดาราสาวยิ้ม “คำพูดแบบนั้นก็สมกับเป็นเค้านะคะ... นัสหมายถึงคุณกี้”
“ค่ะ... เห็นบ้าๆ บอๆ กวนๆ แต่ก็มีอะไรดีๆ อยู่ในตัวเยอะ แบบที่พวกเราคิดไม่ถึงเลยล่ะค่ะ สองเองยังชอบพูดเลยว่า กี้ชอบทำตัวเหมือนคนที่ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจอะไร แต่จริงๆ แล้วเค้าสนใจ แต่ท่าทางการแสดงออกของเค้าจะตรงข้ามกันหมดเลย แบบว่าปากแข็ง ปากไม่ตรงกับใจ”
สองสาวหยุดพูดคุยกันแล้วลงมือทานอาหารอยู่พักหนึ่ง หลังจากนั้นสาวหน้าฝรั่งก็พูดขึ้นมาว่า
“อุ้มว่าคุณนัสคงจะเคยเห็นอะไรดีๆ ในตัวของกี้เหมือนอย่างที่อุ้มเห็น... อุ้มก็อยากให้คุณนัสกับกี้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะคะ เพราะกี้เองถึงเค้าจะเป็นคนสนุกสนาน มีเพื่อนเยอะ แต่ถ้าดูดีๆ แล้วมีน้อยคนจริงๆ ที่จะเข้าถึงตัวเค้าได้ รู้จักตัวตนของเค้าจริงๆ เท่าที่อุ้มคุยกับสองแล้วก็เห็นวันที่คุณนัสมาช่วยงาน... อุ้มรู้สึกว่ากี้เค้าก็เปิดกว้างให้คุณนัสได้รู้จักเค้ามากกว่าคนอื่นๆ นะคะ”
“คุณอุ้มดูจากตรงไหนเหรอคะ”
“ไม่รู้สิคะ แต่ความรู้สึกมันบอก แล้วก็สองเคยบอกว่าเห็นคุณนัสคุยกับคุณกี้บ่อย”
ดาราหน้าหวานยิ้มน้อยๆ กับคำพูดของอีกฝ่ายและลงมือทานอาหารต่อ วีนัสแอบสังเกตอีกฝ่ายที่เปิดโทรศัพท์มือถือแล้วยิ้มออกมาหลังจากที่ได้ยินเสียงข้อความ หลังจากที่จ่ายค่าอาหารเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะโบกมือจากกันอุ้มก็บอกกับวีนัสว่า
“เมื่อกี้ขอโทษทีนะคะพอดีสองส่งข้อความมาบอกว่า วันนี้จะกลับมาจากต่างจังหวัดแล้วค่ะ น่าจะมาถึงดึกพอสมควร รู้สึกว่าประมาณเกือบๆ ห้าทุ่มได้”
“คุณอุ้มจะไปรับคุณสองที่สถาบันฯ เหรอคะ”
“แน่นอนค่ะ กลับบ้านดึกคนเดียวน่าเป็นห่วงจะตาย ไปก่อนนะคะคุณนัส แล้วพบกันใหม่นะคะ”
“ค่ะ... ขอบคุณที่เลี้ยงนะคะ วันหลังนัสคงจะขอเลี้ยงข้าวคืนคุณอุ้มบ้าง”
“ค่ะ แต่ถ้ามีสองกับกี้มาด้วย คุณนัสก็อย่าหลวมตัวเลี้ยงเหล้าสองคนนั้นเด็ดขาดเลยนะคะ กินอย่างกะน้ำแหนะ อุ้มพยายามห้ามสองอยู่เนี่ยค่ะสุขภาพจะแย่เอาแต่ไม่ไหวจะห้ามกี้ ห้ามแล้วโดนกวนใส่จนหงุดหงิดทุกที”
ดาราหน้าหวานหัวเราะ “ค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ”
สองสาวโบกมือลา เมื่อสาวหน้าฝรั่งเดินคล้อยหลังไปแล้วดาราสาวก็พูดขึ้นมาเบาๆ ว่า “กลับวันนี้เหรอ”
...