web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 174
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 172
Total: 172

ผู้เขียน หัวข้อ: Vampire Hunter the beginning Chapter 1 : นักล่า (หัวใจ)  (อ่าน 2171 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Admin

  • แอดมิน
  • เริ่มติด
  • *****
  • กระทู้: 251
  • I'm sociopath. I don't have feelings.
Vampire Hunter the beginning Chapter 1 : นักล่า (หัวใจ)
« เมื่อ: 27 ธันวาคม 2013 เวลา 19:33:24 »


Chapter 1 :   นักล่า (หัวใจ)

ขายาววิ่งช้าลงและหยุดนิ่ง  เธอหันไปส่งสัญญาณให้อีกคนที่ตามหลังมาติดๆให้หยุดตาม  เข้ามาในเมืองแล้ว  พวกเธอไม่สามารถทำตัวแตกต่างเกินไปได้  แวมไพร์ยังคงเป็นความลับที่ไม่ต้องการให้ใครล่วงรู้  เพื่อความสงบสุขของชาวเมือง  ถึงตอนนี้จะยังเป็นเวลากลางคืนที่ผู้คนหลับใหลอยู่ก็ไม่ควรชะล่าใจ  ความลับย่อมเป็นความลับ

“อัลร์..  คราวนี้ฟลอเรนเจ๋งสุดๆเนอะ”  แอลชมเปาะระหว่างเดินคู่กันกับพี่สาวฝาแฝด  พวกเธอยังมีงานต้องทำต่อถึงจะไม่มีอันตรายจากแวมไพร์ตนอื่นแล้วในเมืองนี้  และธุระของพวกเธอก็เกี่ยวกับสาวฮันเตอร์คนที่ว่าด้วย  แต่ตอนนี้หล่อนอยู่ไหน..

อัลร์ไม่ตอบโต้อะไรได้แต่ยิ้มให้น้อง  หัวใจเธอหมายปองฮันเตอร์สาวน้อยผู้นั้นอยู่ก็จริง  แต่เธอรู้ดีถึงความแตกต่าง  แม้ตอนนี้จะเป็นฝ่ายเดียวกันด้วยเงื่อนไขแห่งสันติ  แต่อย่างไร  มนุษย์กับแวมไพร์ก็ยากที่จะอยู่ร่วม  ใช่ว่าหล่อนเป็นผู้หญิงเหมือนกันกับตนจึงเป็นเรื่องต้องห้าม  หากแต่เพราะความเป็นนักล่าแวมไพร์ของหล่อนต่างหากที่สำคัญ

ฉันคงรักเธอได้แค่เพียงในใจ..ฟลอเรน..

แฝดน้องเข้าใจความรู้สึกของแฝดพี่เสมอ  เธอจึงเลือกเลี่ยงจุดอ่อนของหล่อน  หันไปมองหาเด็กสาวคนที่ว่าและก็เห็นหล่อนแล้วในที่นัดพบเดิมด้านหลังสมาคมที่หล่อนทำงานให้  เช่นเดียวกันกับพวกเธอ  เด็กสาวร่างสูงกว่าคนในวัยเดียวกันทั้งยังทะมัดทะแมงกว่ามากยืนอยู่ข้างรถม้า  หล่อนงดงามโดดเด่นแม้ในเวลาที่ท้องฟ้ามืดดำแบบนี้  หรือเพราะมีแสงสีส้มนวลของคบไฟใกล้ๆด้วยจึงส่งเสริมความงาม  ใบหน้าหวานนิ่งขรึมแต่กระนั้นก็ยังมีเสน่ห์น่ามอง  ไม่แปลกเลยที่หล่อนมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่หมั่นมาขายขนมจีบให้ไม่เว้นแต่ละวัน  หากแต่สาวเจ้าก็ปฏิเสธทุกราย  อ้างว่ายังสนใจศึกษาเล่าเรียนอยู่  ผิดจากผู้หญิงรุ่นเดียวกันที่ต่างก็คงดีใจที่มีผู้ชายมาขอ  ไม่สนใจแล้วเรื่องการศึกษา  หาสามีดีกว่าเยอะ 

“อัลร์..  แอล..  รีบหน่อยค่ะ  ใกล้จะฟ้าสางแล้ว!” 

สองแวมไพร์เผยยิ้มเกือบจะพร้อมกันเมื่อได้ยินเสียงหวานของสาวในดวงใจเอ่ยเรียก  ถึงจะเรียกให้ไปทำงานก็ยังเป็นปลื้ม  แบบนี้เองที่ยัยจูเลียเขม่นพวกเธอนักหนา  หล่อนกล่าวหาว่าที่พวกเธอมาเข้าพวกกับมนุษย์เพราะหวังจะได้ฟันเด็ก  แน่นอนเพราะหล่อนรู้เรื่องรสนิยมทางเพศของพวกเธอ

ก็ทำไมล่ะ  ผู้หญิงมีอะไรน่าดูกว่าผู้ชายตั้งเยอะนี่..

ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความอีกแล้ว  สองฝาแฝดแวมไพร์ก้าวเข้าไปยืนตรงหน้าบรรดาผู้คนที่ฮันเตอร์เพิ่งต้อนลงมาจากรถม้า  ดวงตาของพวกเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงโดยฉับพลัน  จากนั้นอัลร์ก็เป็นคนแรกที่กระซิบ

“รถม้าของพวกคุณถูกสัตว์ร้ายโจมตี  คนขับรถม้าถูกหมาล่าเนื้อขย้ำคอและลากลงไป  พอดีกับที่คุณหนูมาแชลกลับมาจากนอกเมือง  เธอกับเพื่อนจึงเข้าช่วยเหลือและพากลับเข้าเมืองมาอย่างปลอดภัย”  พูดพร้อมดวงตาสีแดงที่เพ่งตาหญิงสาวตรงหน้าเขม็ง  เธอเลิกคิ้วรอฟังหล่อนพูดตาม  เป็นไปตามคาด  มนตร์สะกดของแวมไพร์ใช้ได้ดีเสมอ  หล่อนพูดตามเธอทุกคำ  เข้าใจเรื่องตามที่เธอกรอกข้อมูลใหม่ใส่เข้าไป  อัลร์ยิ้มกับผลงานนี้  หันไปดูแอลที่ทำหน้าที่คล้ายกันอยู่   น้องสาวหันมาขยิบตาขี้เล่น  เป็นอันรู้กันว่า  พูดเหมือนกันเป๊ะ  เหมือนลอกข้อสอบมา  ก็ลอกนั่นแหละ 

ใช่..เพราะแวมไพร์ต้องเป็นความลับ  จะมีใครรู้ไม่ได้นอกจากพวกเธอ  และคนในสภาสูงเท่านั้น  รวมถึงสาวในฝันของพวกเธอด้วย  ฟลอเรนคนสวยกำลังวุ่นวายกับการดูแลหนุ่มสาวที่ถูกเปลี่ยนความทรงจำจากเธอและแฝดน้อง  หล่อนพาพวกเขาไปรออีกด้าน  เตรียมที่จะส่งต่อ  ทางใครทางมัน  แล้วแต่ใจ  แล้วแต่หน้าที่  ขอเพียงลืมไปว่าคืนนี้โดนแวมไพร์ลอบฆ่าก็พอ

“พรุ่งนี้ทุกๆคนต้องมาพบนายอำเภอนะคะ  ลงทะเบียนคนเข้าเมืองให้ถูกต้อง  เพื่อความปลอดภัยของพวกท่านเอง”  ฟลอเรนกำชับกับชาวบ้านก่อนส่งพวกเขาแยกย้ายออกไป  ด้วยสาเหตุที่เมืองนี้มีกฎมากมาย  จะอยู่ได้อย่างมีความสุขสงบต้องปฏิบัติตามทางการเท่านั้นเธอมองตามหลังชาวบ้านคนสุดท้ายแล้วพูดขึ้น  “กลุ่มนี้ไม่ใช่พวกพ่อค้าวาณิชย์เหมือนกลุ่มที่แล้ว  เป็นพวกที่เดินทางมาเยี่ยมญาติ  บางคนก็ตั้งใจจะมาปักหลักปักฐานที่นี่” 

“ตั้งใจจะมาอยู่ที่นี่เหรอ..  อะไรเข้าฝันให้มา  ไม่รู้หรือไงว่าที่นี่มัน---”  แอลพูดแทรกและสะอึกกับสายตาดุๆที่หันขวับไปมองหน้า  ฟลอเรนรู้ดีถึงความปากเสียของเธอและหล่อนไม่ต้องการฟัง  ที่สำคัญหล่อนรักเมืองนี้ทั้งเมืองเหมือนบ้านตัวเอง  คนในเมืองก็ด้วย  ไม่มีใครในเมืองนี้ที่เดือดร้อนแล้วหล่อนไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ  น่าจะส่งเข้าแข่งขันเลือกตั้งประธานสภาชะมัด  เสียอย่างเดียวที่อายุไม่ถึง... 

เพราะรู้สึกถึงความโกรธภายใต้สีหน้าที่เรียบนิ่ง  แฝดคนพี่จึงก้าวเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์  ชวนฮันเตอร์คุยเรื่องอื่น  “งั้นคืนนี้ก็จบงานแล้ว  เธอกลับไปพักจะดีกว่ามั้ย  หรือจะนอนที่สมาคม”  ถามไปอีกฝ่ายก็อมยิ้ม  ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่  แต่ที่รู้คือมันชื่นใจที่ได้เห็นหล่อนยิ้มสักที  รู้ดีว่าฟลอเรนเป็นคนจริงจังกับงาน  หากแต่ความหวานของใบหน้านี้จะมีรอยยิ้มมาเสริมบ้างคงจะดีไม่น้อย  “ว่าไงคะ..”  เลิกคิ้วถามย้ำกับคนเงียบ  หล่อนเอียงคอทำท่าคิด  คราวนี้อัลร์รู้สึกว่าหลังเธอถูกสะกิดจึงเหลียวหน้าไปมอง  แอลกระซิบกลับมาเสียงเบาอย่างที่หูคนธรรมดาไม่มีทางได้ยินแม้แต่ฮันเตอร์

“หล่อนกำลังเล่นท่ากับพี่อยู่น่ะ  ฉันว่าแล้ว..ฮันเตอร์เป็นเกย์”

“ว่าไงนะ!”  หล่อนกระซิบแต่เธอกลับตะโกนถามเพราะตกใจ  ไอ้ที่ว่าจะนินทาระยะเผาขนโดยไม่ให้ใครได้ยินก็เป็นไปไม่ได้  นักล่าแวมไพร์ส่งเสียงถามงงๆ

“พวกคุณคุยอะไรกันอยู่คะ  หรือว่า---”

“เอ่อ  เอ่อ  ไม่มีอะไรจ้ะ  คือแอลมันพูดเรื่องบ้าๆอยู่น่ะ” แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ หามีความสมู้ทไม่  แต่คนฟังก็ดูท่าจะเชื่อเมื่อเธอก็ทำตัวน่าเชื่อถืออยู่แล้ว ก็ทำตัวดีมาตลอด
 
“อ๋อค่ะ” ฟลอเรนพยักหน้าหันไปเดินนำต่อทั้งที่ยังไม่ได้ตอบคำถาม  สบโอกาสที่หล่อนหันหลังให้  เธอเลยหันไปโบกกะโหลกน้องสาวหนึ่งที 

แอลยกมือขึ้นลูบหัวที่ถูกตบ  โวยออกมาแต่ได้ยินแค่สองคน  “ฉันพูดความจริงนะพี่  พี่เคยเห็นคนสวยของพี่มองผู้ชายที่ไหนมั้ย”  อัลร์อึ้งไป  ทำท่าคิดและนั่นมันก็ช้ากว่าใจเธอ  “และฉันเห็นนะ  สายตาที่หล่อนมองพี่น่ะ  ตางี้เยิ้ม  แล้วดูเมื่อกี้สิ  ทั้งที่โมโหฉันอยู่  แต่พอพี่พูดด้วย  กลับยิ้ม”

“แล้วไง..  ยิ้มแล้วผิดตรงไหน  ก็เค้าโกรธเธอไม่ได้โกรธพี่”  แฝดพี่ไม่พยายามคิดเข้าข้างตัวเองแต่เจ้าน้องสาวก็ยังไม่เลิกลุ้น   

“ปกติหล่อนเป็นเสือยิ้มยากนะ..พี่สาว”

อัลร์นิ่งไปเล็กน้อยเผลอยิ้มดีใจ  เราคิดตรงกันงั้นเหรอ..ฟลอเรน..  หนึ่งวินาทีให้หลังเธอสั่นศีรษะ  “ไม่จริงน่ะ  เธออย่ามาเชียร์มั่ว  วันนั้นฉันเห็นพ่อแม่เค้าส่งไปงานเลี้ยงดูตัวอยู่   และเค้าก็ดูจะชอบเจ้าหนุ่มคนนั้นด้วย”  พูดไปแล้วก็แอบกัดเนื้อกระพุ้งแก้มตัวเองให้เจ็บ  แต่เจ็บไหนจะเท่าเจ็บใจที่ไปเห็นภาพบาดตา 

สาวฮันเตอร์ที่เธอเคยเห็นแต่ในชุดกางเกงหนังรัดรูป  เสื้อเชิ้ตผู้หญิงพอดีตัวกับเสื้อแจ็ตเก็ตดูทะมัดทะแมงกับอาวุธนานาชนิด  กลับไปเปลี่ยนไปอยู่ในชุดราตรียาว  โชว์เนื้อหนังมังสา  อาจจะพูดเว่อร์ไปสักหน่อย  ฟลอเรนไม่ปล่อยตัวเองให้โป๊ขนาดนั้น  แต่อย่างน้อยชุดนั่นที่แม้จะมีผ้าคลุมไหล่อยู่ก็ยังทำให้ใครๆได้เห็นไหล่เปลือยขาวและเนินอกอูมเป็นบุญตา  หล่อนกำลังแตกเนื้อสาวอย่างชัดเจน ดังเปรี๊ยะๆ ไม่ใช่เด็กผู้หญิงเล็กๆที่เธอเคยแอบมองตรงช่องหน้าต่างห้องนอนอีกแล้ว

แม้จะถูกสั่งสอน  ฝึกปรือมาราวนักรบโบราณตั้งแต่วัยเยาว์  สองมือที่ใช้อาวุธได้ทุกแบบที่ใกล้มือและใช้ได้อย่างช่ำชอง  ก็ยังอ่อนนุ่มเสมอ  เธอเคยบังเอิญได้สัมผัสหนึ่งครั้ง  แค่ครั้งเดียวยังติดใจ  ทรวดทรงองค์เอวก็ใช่จะหนาเตอะตะอย่างสาวนักยกน้ำหนักที่เธอเคยเห็น  ฟลอเรนสูงระหง  บอบบางแต่แข็งแรง  มีทุกอย่างที่ผู้หญิงต้องมี

สวยแบบที่เทพีอะโฟรไดตียังต้องคิดหนัก  หากต้องประชันกัน.. 

นั่นแหละที่ทำให้เธอห้ามใจแทบไม่ได้  เกือบจะพุ่งเข้าไปกัดคอไอ้หนุ่มหน้าจืดแต่แววตาหื่นกามอย่างเห็นได้ชัดนั่นแล้ว  นายนั่นมันมีโอกาสได้มองหล่อนอย่างใกล้ชิด  อย่างที่เธอไม่มีสิทธิ์นั้น   และมันก็จ้องและจ้องหล่อนจนตาแทบจะหลุดไปอยู่ในเนื้ออกขาวๆเต่งตึงน่าสัมผัสนั่นเสียให้ได้  ส่วนเธอเหรอแค่แอบเกาะต้นไม้ขึ้นไปชะโงกหน้ามองในคฤหาสน์หรูของขุนนางเก่าแก่เท่านั้นแหละที่ทำได้   น่าสมเพชตัวเองที่สุด

“คนเป็นลูกที่ดี  ย่อมทำตามพ่อแม่สั่ง  และมารยาทของคุณหนูมาแชล  ก็ทำให้พี่เห็นแบบนั้น..อัลร์”  แอลเข้ามากระซิบที่ข้างหู  ตบบ่าพี่สาวปั๊บๆปลอบใจ  และเดินนำหน้า  ปล่อยให้หล่อนอยู่กับความคิดตัวเองสักพัก  เพียงไม่นาน  เธอก็แทบจะแอบดีดนิ้วเปาะ  เพราะหล่อนตะโกนเรียกให้รอด้วย

แวมไพร์คนน้องหันหน้าไปกะจะล้อพี่สาวอีกยก  แต่ข้างกายก็ว่างเปล่า  หล่อนเดินลิ่วนำหน้าไปโน่นแล้ว  พี่สาวเธอ  ถ้าจะเดินกระแซะคุณหนูบ้านมาแชลได้ ก็คงจะทำ  เกิดมาไม่เคยเห็นอัลร์ทั้งรักทั้งหลงใครขนาดนี้มาก่อน  So do  I…

ใช่..  ไม่ใช่อัลร์คนเดียวหรอกที่หลงเสน่ห์ฮันเตอร์  เธอเองก็แอบหลง.. แบบไม่มีใครรู้..   ก็เพราะแอบ   ก็เลยไม่มีใครรู้ไง...

“เฮ้..  แอล..  เร็วหน่อย   เดี๋ยวฟ้าสว่าง”  เสียงพี่สาวเรียกพาคนเผลอเหม่อกระพริบตา  เธอโบกมือให้หล่อนไป

“โอเคๆ..  แล้วตกลงไปไหนกัน”  โผล่มาถึงสองสาวที่เดินชะลอรออยู่ก็ถามขึ้น  และแอลก็คิดว่าเธอแทบจะล้มตึงกับรอยยิ้มของฮันเตอร์  ต้องแอบจับหัวใจตัวเองเอาไว้  สาวหน้าใสเกือบฆ่าแวมไพร์ได้ด้วยรอยยิ้ม  ไม่น่าเชื่อ...

“เบื่อที่บ้านค่ะ  ขอไปนอนเล่นบ้านพวกคุณก่อนได้ไหม..”

อ๊าย.. ที่แท้ยิ้มแบบนี้ก็เพราะจะอ้อนนี่เอง..  อ้อนเลยจ้ะ..  อ้อนอีก..  เอาอีก.. 

ฟลอเรนจะรู้ตัวไหมว่า เวลาวางอาวุธน่ากลัวแล้ว  และเอารอยยิ้มเข้ามาใส่บนใบหน้าหวานๆ  หล่อนน่ารักจนคนมองสะท้านในอก   อยากลากฮันเตอร์เข้าถ้ำไปเล่นอะไรแบบที่ผู้ใหญ่เขาทำกันเหลือเกิน   มามะพี่จะสอนน้องเอง เรื่องอะไรที่ไม่รู้  พี่จะสอนจะบอกทุกซอกทุกมุมเลย..  คิดแล้วก็แอบน้ำลายไหลอยู่ลำพังจนเผลอยกมือขึ้นปาดปากตัวเองให้คนสองคนที่มองอยู่  ทำหน้ามึน  แอลสะลัดศีรษะตัวเองแรงๆ  คิดได้ว่า  ถ้าทำแบบนั้นจริงเธอคงจะโดนพี่สาวหักคอเสียก่อน   มองสาวอื่นเหอะ..แอล..

“ได้สิ  ถึงเวลาไปเรียนแล้วจะปลุกนะ”  แฝดพี่ตอบเสียงนุ่ม  คนที่เผลอหมกมุ่นอยู่กับความฝันลมๆแล้งๆก็ตื่นทันที  แอลกระพริบตา มองหน้าฮันเตอร์สาวน้อย  และตัดสินใจฉับ   ถ้าฟลอเรนเป็นเกย์และชอบผู้หญิงเหมือนพวกเธอจริงๆ  หล่อนก็คงจะสนใจพี่สาวเธอมากกว่าแน่ๆ 

ก็บอกแล้วไง.. หาคนอื่นเหอะ  ผู้หญิงมีคนเดียวในโลกที่ไหน  แต่คนนี้โคตรน่ารักเลยนะ  ห้ามใจแทบไม่ได้เลย..  ปวดหัวจัง..  ปวดหัวใจ...

“ค่ะ  จะหาแวมไพร์ที่ไหนใจดีเท่าพวกคุณได้เนี่ย..”  ฟลอเรนพูดขี้เล่นขยิบตาให้สองฝาแฝดและเดินนำ  ไม่สนใจว่าเจ้าของบ้านจะต้องนำทาง เธอรู้ทางไปบ้านเรฟแลนด์ดีอยู่แล้ว  ก็มันเป็นที่ที่เธอไปบ่อยๆเวลาไม่ต้องการเจอคนที่บ้าน  เบื่อกับการอยู่ในกรอบเต็มที   เบื่อกับชีวิตคุณหนูของบ้านตระกูลดัง  อยู่กับแวมไพร์ยังดีกว่า..

โชคดีเท่าไหร่แล้วที่เธอได้รับคัดเลือกเป็นฮันเตอร์  พ่อแม่จุกจิกกับเธอน้อยลง  แต่ความจริงพวกเขาก็ไม่ค่อยยุ่งกับเธอเท่าไหร่อยู่แล้ว  เพราะพวกเขาเชื่อว่า  เธอเป็นคนที่พระผู้เป็นเจ้าส่งมาให้มีหน้าที่ปราบมาร  เป็นคนสำคัญของมนุษยชาติ  ถึงกระนั้นความเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านที่มีแต่พี่ชายสองคน  ก็ทำให้เธอหนีไม่พ้นกับการถูกเรียกไปงานดูตัวอยู่เนืองๆ  นับตั้งแต่ย่างเข้าอายุสิบห้าเป็นต้นมาก็โดนมาแล้วหลายงาน  มีผู้ชายไม่ซ้ำหน้าเสนอตัวมาให้เธอเลือก จนเธอคิดไปเองว่า  การที่เธอต้องทำงานเสี่ยงๆทุกวันนี้ยังไม่น่าภาคภูมิใจพอเท่ากับที่เธอได้แต่งงานมีสามีและลูกๆให้พ่อแม่  ที่หากเป็นไปได้  พวกเขาคงไม่อยากให้เธอได้เข้าโรงเรียนเหมือนพี่ชายสองคนเท่าไหร่ 

ในสมัยนี้  ผู้หญิงเรียนหนังสืออย่างเธอ  นับหัวได้เลย  ถ้าครูฝึกฮันเตอร์ของเธอไม่ขอให้  และอ้างว่า การจะเป็นนักล่าปีศาจที่ดีได้  ต้องเป็นคนฉลาด  อย่างน้อยก็รู้หนังสือ  และเรื่องการมีครอบครัวก็ยังไม่จำเป็น  เธอยังเด็ก  และร่างกายของฮันเตอร์ก็ควรจะพร้อมทุกสถานการณ์  การมีสามีและมีลูกอาจเป็นอุปสรรคให้กับงานที่เธอทำอยู่  ต้องขอบพระคุณครูฝึกของเธอเหลือเกิน  ไม่เช่นนั้นบางที  วันนี้เธออาจจะเป็นฮันเตอร์เพียงคนเดียวที่ต้องกระเตงลูกไปทำงานด้วยก็ได้       

แต่ถึงจะรู้แบบนี้   พ่อแม่ผู้ร่ำรวยและมีชื่อเสียงของเธอก็ดูเหมือนยังไม่ยอมแพ้  เมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังจับเธอแต่งตัวน่าอึดอัดยัดส่งใส่งานเลี้ยงที่พวกเขาจัดขึ้นและเรียกลูกชายเพื่อนของพวกเขามาดูตัวเธอ  หาเรื่องหาสามีให้ลูกสาว  กว่าที่เธอจะคิดวิธีปฏิเสธหนุ่มหน้าจืดคนนั้นได้  ก็แทบจะแย่  ดีนะที่มีเรื่องงานมาช่วย  เธอต้องออกช่วยเหลือผู้คนที่จะโดนดักทำร้ายด้วยแวมไพร์และไลเคน   ได้เห็นประโยชน์ของการเป็นนักล่าปีศาจที่ตรากตรำฝึกฝนมาทั้งชีวิตก็จากเรื่องนี้เอง

“ตามมาเร็วๆสิคะ  คุณเจ้าของบ้าน  ฉันไม่อยากให้ใครคิดว่า  เป็นหัวขโมยย่องเข้าบ้านคนอื่นนะ”  สาวน้อยหันไปเร่งทีเล่นทีจริง  เมื่อเห็นว่าตัวเองยังเดินคนเดียวอยู่เหมือนเดิม  เป็นไปตามคาด  ไม่นานเท่าไหร่สองข้างของเธอก็มีสองสาวตัวสูงมาเดินขนาบ  พวกหล่อนยิ้มหวานจนหัวใจแทบละลาย  หน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบ..

“ช้าจัง.. ฉันง่วงแล้ว”  เธอบ่นและสอดแขนเข้าไปคล้องแขนสองแวมไพร์ที่เดินข้างๆ  ดึงพวกหล่อนเดินมากับตัวเองดื้อๆ  ไม่ได้สนใจว่าพวกหล่อนจะมีสีหน้าอย่างไร 

พวกเธอสามคนสนิทกันมาก   ทำงานด้วยกัน   ไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ  กินด้วยกันเป็นบางทีที่พวกหล่อนไม่ได้กินเลือดโชว์  นอนเตียงเดียวกันเป็นบางครั้ง  และเพราะความสนิทสนมจึงทำให้ได้เรียนรู้ว่า  แวมไพร์ไม่ได้ตัวเย็นเลยสักนิด

บางครั้ง..เธอก็แอบคิดว่า  ถ้าได้กอดอัลร์หรือแอลสักครั้งจะเป็นยังไง.. 

สักครั้งหากจะได้สัมผัสผิวกายขาวๆใต้ร่มผ้านั่น   สรีระที่งดงามที่เสื้อผ้าก็ปิดบังมันไม่มิด  พวกหล่อนตัวสูงชะลูดกว่าผู้หญิงทั่วไปที่เธอเคยเห็นแม้แต่จูเลียที่เป็นแวมไพร์เหมือนกัน  กระนั้นก็ยังสวยน่ามอง   และแค่คิดว่าความรู้สึกที่ได้สัมผัสมันจะเป็นยังไง  เธอก็แทบจะคลั่งแล้ว  และเธอก็แทบจะอยากกระโดดเตะตัวเองที่คิดเพ้อเจ้อ   เธอคิดแบบนี้กับผู้หญิงเหมือนกันได้ยังไง  เธอต้องคิดเรื่องนี้กับผู้ชายสิ  ถึงจะถูก..

แต่ยังไงก็ช่าง..  ตอนนี้เธออยากอยู่กับพวกหล่อน  นอนอยู่บนเตียงอันอบอุ่น  พักเหนื่อยจนกว่าดวงตะวันของรุ่งอรุณจะฉุดให้ลุกขึ้นยืนและเดินต่อ  และกงล้อแห่งโชคชะตาก็จะชักพาให้หน้าที่ของเธอเวียนกลับมาอีกครั้งเมื่อราตรีกาลมาเยือน... 

ฟลอเรนเงยหน้าขึ้นมองสองสาวตัวสูงข้างๆสลับไปสลับมา  พวกหล่อนกระพริบตางงทำท่าเหมือนสงสัยว่าเธอคิดอะไรอยู่ แต่เธอส่ายหน้ากลับ  ไม่ยอมพูดอะไร  คิดไม่ออกซะอย่างนั้น  บางอย่างบางเรื่องแค่เก็บเอาไว้ใจก็พอ  ฉันกลัวพวกคุณตกใจ...

“ไม่มีอะไรค่ะ  แค่อยากบอกขอบคุณที่คุณไม่รังเกียจที่จะพามนุษย์อย่างฉันไปบ้านอีกครั้ง”  สาวน้อยหาเรื่องพูดได้สำเร็จ  แวมไพร์ทั้งสองดูท่าทางไม่เชื่อเท่าไหร่  หากแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรกลับมา  เป็นอันว่า  ทุกอย่างเคลียร์   

ฟลอเรนแอบถอนหายใจ  เฮ้อ..  โล่งอกไปที  ไม่มีคำถาม.. เธอมองพวกหล่อนที่เดินคล้องแขนไปด้วยกันเป็นระยะ  พออัลร์หรือแอลมองกลับมา  เธอก็ส่ายหน้ายิ้มๆกลับไป  พวกหล่อนก็ไม่ได้ถามอะไรเธอ  ทั้งที่ความจริงก็อยากจะพูดเหลือเกินนะว่า...

มันน่ากลัวนะที่ต้องมีชีวิตอยู่บนความเป็นความตายทุกวัน  ฉันเหมือนเดินอยู่บนเส้นด้ายบางๆ  แต่หากว่า  เมื่อหันมามองไปข้างตัวแล้ว  ฉันเจอพวกคุณอยู่  เพียงเท่านี้   โลกที่มืดดำและน่ากลัว  ก็ดูน่าอยู่ขึ้นเป็นกอง...

ฉันรักพวกคุณเหลือเกิน..ฝาแฝดแวมไพร์...  ดีใจนะที่ได้เจอกัน..   




........................................................


ต่อเนื่องกันเลยกับตอนที่หนึ่ง  ของใหม่ๆแบบนี้  ก็มักจะน่าเขียนต่อเสมอ  (เป็นคนเดียวหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ  อิอิ)

แต่ขอบอกเอาไว้ตรงงนี้นะคะ  หากใครที่ยังไม่เคยอ่าน  Vampire Hunter ทั้งสองซีซั่นที่คนเขียนลงเอาไว้  อ่านภาคนี้ก่อนก็ได้ค่ะ  เป็นภาคเริ่มต้นเรื่อง  แล้วค่อยไปทำความรู้จักกับอีกสองภาคที่เหลือ...

แต่สำหรับวันนี้ไปก่อนค่ะ  แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าและเรื่องอื่นๆ ขอบคุณค่ะ    :55318906: :cd08785a: :3ca8b998:




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.