web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 110
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 92
Total: 92

ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนที่ 4  (อ่าน 2192 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Admin

  • แอดมิน
  • เริ่มติด
  • *****
  • กระทู้: 251
  • I'm sociopath. I don't have feelings.
ตอนที่ 4
« เมื่อ: 07 มกราคม 2014 เวลา 19:17:32 »
ตอนที่ 4

   หญิงสาวร่างเล็กลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะบิดขี้เกียจอยู่นาน จากนั้นจึงเดินไปที่หน้าต่างพร้อมกับเปิดม่านเผื่อว่าวันนี้เธออาจโชคดีได้เจออะไรดีๆเหมือนกับทุกเช้าที่ผ่านมา
   ละอองดาวทำหน้าผิดหวังเล็กน้อยท่าทางวันนี้เธอคงตื่นสายไปหน่อยถึงได้อดเห็นหน้าคนที่ต้องการเจอแต่นั่น…หญิงสาวหันไปมองหน้าบ้านที่เหมือนมีตัวอะไรซักอย่างโบกธงขาวพร้อมกับกระโดดขึ้นลงไปมา
   “เป็นบ้าอะไร”
   เป็นเพียงคำบ่นพึมพำเท่านั้นเมื่อคนตัวเล็กรีบดึงม่านมาปิดทันทีเพราะเกรงว่าตัวเองอาจจะซวยแต่เช้าหากยังไม่เลิกมองคนบ้าหน้าบ้าน
   ทางด้านรวิกานต์ที่ตอนนี้ลงทุนแต่งชุดขาวแถมด้วยธงสีขาวที่เธอพยายามโบกไปมาเพื่อให้เพื่อนบ้านสาวได้รู้การมาเยือนของตัวเองแต่เท่าที่เห็นจากท่าทีของคนที่รีบปิดม่านอย่างเร็วตอนเห็นหน้าเธอมันก็บอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าของบ้านต้อนรับเธอมากแค่ไหนหญิงสาวตัดสินใจวางธงก่อนจะเดินมาที่กริ่งหน้าบ้านจากนั้นจึงเอื้อมมือไปกดรัวไม่ยั้ง
   ละอองดาวแทบกริ๊ดเมื่อคนที่เธอปิดม่านใส่กำลังก่อกวนเธอด้วยเสียงอีกทั้งยังจัดมาเป็นชุดทำเอาเธอตกใจแทบแย่
รวิกานต์ฉีกยิ้มทันทีเมื่อเจ้าของบ้านรีบออกมาต้อนรับเธอจากนั้นเธอจึงค่อยๆลดมือลงก่อนจะย่อตัวไปเก็บธงขึ้นมาโบกต่อ
   “ไม่ต้องรีบขนาดนั้นกานต์รอได้ค่ะ”
   “แต่ฉันรอไม่ได้!”
   ละอองดาวตะคอกใส่คนที่ยืนยิ้มทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่นอกประตูรั่วบ้านเธอ
   “มีอะไร”
   “ทำเสียงแบบนี้ใส่แขกที่มาบ้านได้ไงล่ะคะ”
   “เรื่องของฉันเธอมีธุระอะไร”
   เจ้าของบ้านเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์เสียพร้อมกับทำตาขวางใส่คนที่มากวนโมโหเธอแต่เช้า
   “จะคุยตรงนี้เลยเหรอ”
   “พูดมาเถอะน่ะ”
   “ใจร้ายจัง”
   “นั่นแหละฉัน”
   รวิกานต์หุบยิ้มลงก่อนจะหันหลังทำท่าเหมือนจะเดินกลับบ้านตัวเอง
   “ถ้างั้นสัญญาก็ถือเป็นโมฆะแล้วกันนะ”
   คนพูดเอ่ยออกมาก่อนจะก้าวขาเข้าบ้านช้าๆแต่ยังไม่ทันที่เท้าจะแตะลงพื้นก็มีมือเล็กๆมากระชากที่แขนพร้อมกับฉุดเธอเข้าบ้านทันที

   รวิกานต์มองสำรวจภายในบ้านที่ตกแต่งแนวเรียบหรูดูดีไม่แพ้กับบ้านตัวเองไม่อยากจะเชื่อว่ายัยโหดนี่จะมีรสนิยมแนวนี้เมื่อความคิดวนเข้าหาเจ้าของบ้านสายตาของรวิกานต์จึงหันมาหยุดจ้องที่คนตัวเล็กก่อนจะรีบเบือนหน้าไปทางอื่นเพราะสายตาอำมหิตที่จ้องกลับมา
   “มองหน้ามีปัญหาเหรอ”
   “เปล๊าใครจะกล้า”
   “ก็เธอไง”
   รวิกานต์หันมายิ้มให้กับคนที่กำลังจะหาเรื่องเธอก่อนจะหยิบธงขาวขึ้นมาโบกอีกครั้ง
   “กวนประสาทชัดๆ”
   ละอองดาวเอ่ยออกมาเบาๆก่อนจะเดินนำแขกไปห้องนั่งเล่น
   “นั่งสิจะได้คุยกันซะที”
   “ไม่มีน้ำให้แขกเหรอคะ”
   คนถูกถามหันไปมองคนพูดตาเขียวก่อนจะลุกเดินไปทางหลังบ้าน
   “อะ…ที่บ้านไม่มีกินหรือยังไง”
   คนดื่มน้ำถึงกับสำลักกับประโยคเด็ดที่ได้ยินก่อนจะรีบหยิบทิชชูมาเช็ดน้ำที่หกอย่างเซ็งๆ
   “ซุ่มซ่ามจริงๆ”
   “นี่คุณ…พูดจาดีๆเป็นมั้ย”
   “อย่างเรื่องมากน่ะเอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า”
   ละอองดาวพูดออกมาด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่จริงจังมากซะจนคนฟังเกร็งตามไปด้วยเพราะไม่รู้ว่าเรื่องที่แม่ตัวเล็กพริกขี้หนูจะพูดมันจะไปในแนวทางไหน
   “ฉันอยากให้เธอช่วยเรื่อง…”
   คนพูดเว้นประโยคก่อนจะยิ้มหน้าแดงออกมา
   “ช่วย…”
   ละอองดาวชะงักอีกครั้งพร้อมกับม้วนชายเสื้อของตัวเองแก้เขิน
   “ช่วย…”
   รวิกานต์มองคนตรงหน้าที่พูดติดอ่างจนน่ารำคาญแล้วไหนจะท่าทางแปลกๆนั่นอีกนี่ถ้าไม่มีสัญญาบ้านั่นเธอไม่มีวันมานั่งทนแบบนี้แน่นอน
   “ช่วย…”
   “จะพูดไม่พูดเนื่ย”
   คนกำลังอายหันไปทำตาขวางใส่คนที่ทำเธอเสียอารมณ์ก่อนจะหยิบน้ำที่วางอยู่มาดื่มเพื่อดับความร้อนในตัว
   “นี่คุณ”
   “อะไร”
   “น้ำ…”
   “ก็น้ำอะดิเห็นเป็นถั่วฝักยาวหรือยังไง”
   ละอองดาววางแก้วลงก่อนจะหันไปทำตาดุใส่คนข้างๆอีกครั้ง
   “แต่น้ำนั่นมันของฉันนะ”
   “ของเธอที่ไหนของฉันต่างหากไม่เชื่อเธอลองดูสิว่านี่บ้านใคร”
   คนพูดชี้ไปรอบๆบ้านก่อนจะหันมายักคิ้วให้คนที่ทำหน้าบูดเหมือนเด็กโดนแย่งของเล่น
   “เข้าใจตรงกันแล้วนะมาพูดธุระกันต่อ”
   “แม่มดชัดๆ”
   “อะไรนะ”
   “เปล๊าต่อเลย”
   รวิกานต์รีบเอามือปิดปากตัวเองเพราะเกรงว่าจะหลุดคำพูดอะไรออกมาอีกดีนะที่ประโยคที่พูดตะกี้คนข้างๆไม่ได้ยินไม่งั้นเธอคงไม่รอดแน่ๆ
   “ฉันจะให้เธอเป็นแม่สื่อให้ฉันกับคุณภาสกร”
   “อะไรนะ”
   ละอองดาวหันมามองหน้าคนที่จู่ๆก็ทำเป็นหูตึงไม่ได้ยินที่เธอพูด
   “ขออีกที”
   “ฉันจะให้เธอช่วยเป็นแม่สื่อให้ฉันกับพี่ชายเธอได้ยินหรือยัง”
   คราวนี้รวิกานต์ได้ยินชัดเจนเพราะคนพูดกรอกเสียงลงรูหูเธอแบบจัดหนักไม่มีหลุดรอดซักคำ
   “เบาๆก็ได้ใกล้กันแค่นี้”
   “อย่าเรื่องมาก”
   “เรื่องมากตรงไหนก็แค่…”
   พูดไม่ทันจบประโยครวิกานต์ก็ถูกคนข้างๆเอามือปิดปากทันทีก่อนจะคลายออกช้าๆเมื่อเห็นเธอหยุดพูดแล้ว
   “อย่าพูดมากฉันไม่อยากได้ยินเสียงเธอบอกตรงๆรำคาญ”
   คนถูกสั่งพยักหน้ารับก่อนจะค่อยๆเขยิบตัวออกห่างจากอีกคนเพราะเล็งเห็นถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อหากอยู่ใกล้ผู้หญิงตัวเล็กคนนี้
   “ทำเป็นใช่มั้ย…แม่สื่อ”
   น้ำเสียงบวกกับสายตาคาดคั้นทำให้คนถูกถามรีบพยักหน้าตอบรับทันทีเพราะเกรงว่าตัวเองอาจจะไม่ปลอดภัยหากปฏิเสธ
   “อีกอย่าง…”
   ละอองดาวขยับเข้าไปหาคนที่นั่งข้างๆพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆทำเอารวิกานต์หายใจแทบไม่ทั่วท้อง
   “กันยัยอรวรรณออกไปไกลๆด้วยฉันไม่ชอบขี้หน้า”
   จบประโยคคนพูดก็ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูอย่างรวดเร็วก่อนจะหันกลับมายังคนที่นั่งอยู่ในห้อง
   “หมดธุระเธอแล้วกลับไปได้ไว้เย็นนี้มารับฉันไปกินข้าวที่บ้านด้วยล่ะ”
   รวิกานต์ค่อยๆลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปอย่างว่าง่ายแต่ก่อนที่จะก้าวออกจากประตูไปคนตัวสูงก็หันกลับมาอีกครั้ง
   “มีอะไร”
   “ถ้าสำเร็จสัญญานั่น”
   “สัญญานั่นจะถูกทำลายทันที”
   “แล้วถ้าไม่สำเร็จล่ะ”
   “ก็จ่ายมา”
   “เฮ้ย!...งี้ก็แย่ดิจะเอาเงินมาจากไหนตั้งเยอะแยะ”
   ละอองดาวหันไปจ้องหน้าคนพูดก่อนจะจัดการฟาดฝ่ามือลงไปยังแขนของอีกฝ่ายอย่างแรง
   “เจ็บนะ”
   “สมควร!มีอย่างที่ไหนกล้ามาดูถูกเสน่ห์ของฉัน”
   “เสน่ห์”
   คนตัวสูงทวนคำก่อนจะมองสำรวจคนตรงหน้าอย่างละเอียด
   “เป็นไงชัดมั้ย”
   “เอาความจริงหรือให้โกหก”
   “นี่!ฉันเป็นเพื่อนเล่นเธอเหรอ”
   รวิกานต์ยิ้มแห้งๆก่อนจะยกมือขึ้นเป็นการยอมแพ้แล้วค่อยๆเดินย่องออกไปช้าๆ
   “เดี๋ยว”
   คนถูกเรียกทำหน้าสงสัยเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปหาคนตัวเล็กพร้อมกับใช้สมองคิดว่าตัวเองทำอะไรผิดอีก
   “เธอยังไม่ได้ตอบเลย”
   “ตอบ…”
   “เรื่องพี่ชายเธอกับเสน่ห์ของฉัน”
   รวิกานต์ยกมือขึ้นเกาที่ท้ายทอยเบาๆก่อนจะหันไปจ้องหน้าคนที่พยายามหาคำตอบจากเธอ
   “เอ่อ…จะรอดมั้ยเนื่ย”
   “ว่าอะไรนะ”
   น้ำเสียงเย็นๆที่ส่งมาทำเอาคนฟังถึงกับชาวาบไปทั้งตัวก่อนที่จะยิ้มออกมาเพื่อกลบเกลื่อนสิ่งที่ตัวเองพลั้งปากออกไป
   “เธอ…พูดว่าอะไรนะ”
   “บอกว่าพี่กรไม่รอดแน่นอนค่ะ”
   ละอองดาวยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะปิดประตูบ้านใส่หน้าคนที่ยืนอีกฝั่งหนึ่งทันทีวันนี้ก็ถือว่าเป็นวันดีอีกวันหนึ่งเพราะเธอได้กามเทพมาช่วยเรื่องหัวใจถึงจะไม่ค่อยญาตดีกันเท่าไหร่ก็เถอะ
   ส่วนทางด้านรวิกานต์ก็เดินกลับบ้านแบบมึนๆงงๆเพราะจู่ๆก็ต้องมาทำหน้าที่แม่สื่อจำเป็นแต่ในเมื่อมันไม่มีทางเลือกเธอก็ไม่รู้จะทำยังไงได้แต่ภาวนาให้พี่ชายของตัวเองหลงเสน่ห์ของยัยแม่มดนั่นด้วยเถอะ…
   “อุ๊ย!”
   รวิกานต์กระโดดหลบแทบไม่ทันเมื่อจู่ๆก็มีของบางอย่างหล่นลงมาเกือบโดนหัวเธอหญิงสาวก้มลงหยิบขึ้นมาก่อนจะหันไปหาตัวการที่ยืนยิ้มอยู่ริมรั่วอีกฝั่งหนึ่ง
   “เธอลืมของ”
   พูดจบเพื่อนบ้านตัวแสบก็เดินยิ้มหน้าบานเข้าบ้านทันทีปล่อยให้คนที่เกือบหัวแตกยืนสั่นเป็นเจ้าเข้าอยู่คนเดียว
   “ยัยแม่มด!ไม่ใช่ๆเธอมันปีศาจพันปี…ไม่ๆนางมารชัดๆจะว่าไปอะไรก็ไม่เหมาะกับเธอเลยนะยัยพริกขี้หนูตัวแสบคอยดูนะถ้าฉันทำลายสัญญาได้เมื่อไหร่เธอได้เจอดีแน่!”
   คนตัวสูงเดินหน้ามุ่ยเข้าบ้านพร้อมกับบ่นพึมพำคนเดียวนี่คงเป็นวิธีการระบายที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้สำหรับเธอ…




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.