web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 129
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 107
Total: 107

ผู้เขียน หัวข้อ: คืนนั้น...ของฉันและเธอ บทที่ 1  (อ่าน 5686 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ อาพัทธ์ อันธการ

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 74
คืนนั้น...ของฉันและเธอ บทที่ 1
« เมื่อ: 26 ธันวาคม 2013 เวลา 23:32:53 »




บทที่ 1
กิตติญามองวิวทิวทัศน์ผ่านกระจกใสในห้องทำงานที่เงียบสงบ พระอาทิตย์สีแดงกำลังลับหายไป แสงสีส้มพาดผ่านใบหน้าเรียว

ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำไม่ได้จับจ้องสิ่งใดภายนอกเป็นพิเศษ นัยน์ตานั้นมีความเบื่อหน่ายแฝงอยู่ลึกๆ ใจของหญิงสาวไม่ได้อยู่ที่แฟ้มตั้งสูงที่วางไม่เป็นระเบียบบนโต๊ะไม้มันปลาบ แต่ใจที่เกือบเฉยชาคิดถึงใบหน้าของคนๆ หนึ่ง ซึ่งไม่ได้พบเจอกันเกือบปีแล้ว อาจเพราะอีกฝ่ายมีเรื่องสำคัญต้องทำ และอาจเพราะตัวเธอเองยุ่งวุ่นวายกับการบริหารงานบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งก็เป็นได้

หล่อนหลับตาลง ความรู้สึกอ่อนล้าเหน็ดเหนื่อยถาโถม งานของเธอช่างมากมายเหลือเกินเหมือนไม่มีวันหมดสิ้น ล้ากับหัวใจที่ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่อาจลืมใบหน้าหวานได้เสียที ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายไม่เคยมีใจและนั่นก็หลายปีมาแล้ว

'ตือ ดือ ดื้อ' เสียงโทรศัพท์รุ่นล่าสุดดังขึ้น ดึงกิตติญาให้พ้นจากความคิดของตัวเอง ร่างสูงหันกลับมามองหน้าจอโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนถอนหายใจแผ่วเบาแล้วรับสาย

"พี่หญิงคะ" เสียงใสดังขึ้น

"ว่าไงคะ" น้ำเสียงเธอราบเรียบเช่นเคย ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ

"วันนี้ว่างไหมคะ ไปเที่ยวกับปายนะ" อีกฝ่ายทำเสียงออดอ้อน แลดูน่ารัก

"งานพี่ยังไม่เสร็จ" หล่อนตอบ

"ไว้ทำพรุ่งนี้สิคะ เราไม่ได้เจอกันนานแล้วนะคะ ปายคิดถึง" ดวงตาใสแจ๋วเหมือนแมวของปลายสายผุดขึ้นมาในห้วงความคิด นานแล้วจริงๆ ที่ไม่ได้เจอกันตามที่สาวน้อยว่าไว้ แต่เธอไม่ได้รู้สึกอยากเจออีกฝ่ายแต่อย่างใด ปายก็เหมือนผู้หญิงอีกหลายคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตช่วงหนึ่ง และก็ผ่านไป กิตติญาไม่เคยรักใคร ไม่แม้แต่รู้สึกห่วงใยหรือคิดถึง เพราะใจของหล่อนอยู่ที่ผู้หญิงคนนั้น

"พี่หญิงเงียบเลย" เสียงของปิยะดาปนความน้อยใจ

"ไว้มะรืนละกันค่ะ ตกลงไหม" หญิงสาวพูดเพื่อตัดความวุ่นวาย พลางนึกถึงตารางงานอันยุ่งเหยิงของตัวเอง

"ตกลงค่ะ ปายรักพี่หญิงที่สุดเลย จุ๊บๆ"

'ติ๊ด' หญิงสาวตัดสายสนทนาพร้อมกับแค่นยิ้ม

เธอไม่เคยให้ความหวังใคร ทุกคนเข้าใจและยอมรับสิ่งที่หล่อนเป็น หลายคนก็เป็นเหมือนกันเหงาและต้องการ และมันก็ง่ายที่จะจบลงบนเตียงนุ่มของโรงแรมสักแห่ง ปรนเปรอ ตอบสนอง และสุขสม เมื่อทุกอย่างดำเนินไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตัวเธอเองกลับรู้สึกเบื่อหน่าย ผู้หญิงคนใหม่แต่ทุกอย่างยังคงเดิม

หญิงสาวถอนหายใจอีกครั้ง นั่งลงบนเก้าอี้นุ่มตัวใหญ่ ลืมทุกสิ่งทุกอย่างก่อนจะหยิบแฟ้มสีดำหนาที่เขียนว่า 'ด่วน' ขึ้นมาอ่าน


'I guess I should have tried to make her mine. But all that I could do was make her smile. I guess I should have known how this would end. And now I'm stuck with yet another friend.'* เสียงเพลงจากโทรศัพท์ดังขึ้น กิตติญาไม่ได้รับสายในทันที แต่ปล่อยให้เสียงดนตรีจบ หล่อนอยากฟัง อยากย้ำกับตัวเอง

"ฮัลโหล" คนหน้านิ่งเอ่ยคำพูดปกติ

"หญิง" เสียงหวานใสดังขึ้น

"เป็นไงบ้าง" เธอยิ้มทั้งๆ ที่อีกฝ่ายมองไม่เห็น

"คิดถึงหญิงจัง"

"หญิงก็คิดถึงพิมเหมือนกัน" หล่อนบอกเสียงนุ่มกว่าเคยโดยไม่รู้ตัว

"เย็นนี้ว่างไหม" ในน้ำเสียงนั้นมีความคาดหวังอยู่

"ว่างสิ" กิตติญายิ้มกว้าง เพื่อนของเธอน่ารักเสมอไม่ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่

"งั้นเจอกันที่บ้านพิมนะ เดี๋ยวพิมเตรียมของไว้" อีกฝ่ายพูดรัวเร็วด้วยความดีใจ

"แล้วภาคล่ะพิม" หล่อนท้วง เพราะปกติจิณณพัตจะไม่ดื่มของมึนเมาเมื่ออยู่กับสามี มักจะนัดเธอออกไปสนุกข้างนอกเสียมากกว่า

"ไม่อยู่หรอก ไปต่างจังหวัดอาทิตย์หนึ่ง" เสียงหวานฟังดูอบอุ่นเมื่อพูดถึงคนรัก "อีกอย่างพิมขี้เกียจออกไปข้างนอกด้วย ที่บ้านแหละสะดวกดี" หล่อนพยักหน้าเล็กน้อยรับรู้

"โอเค งั้นอีกสักชั่วโมงหนึ่งเจอกันนะ"

"จ้า" เสียงหวานยังคงก้องกังวานอยู่ในหู แม้ปลายสายจะตัดไปได้สักพักใหญ่แล้ว



รถ Mercedes benz SLR Mclaren สีขาวจอดอย่างนุ่มนวลหน้าบ้านขนาดกลางหลังหนึ่ง รั้วสีฟ้าอ่อนเป็นลวดลายดอกไม้ดูสวยงาม

กิตติญาก้าวลงมาจากรถพร้อมกดล็อคยานยนต์คันหรู ตาสีท้องฟ้ายามค่ำคืนมองผ่านรั้วเห็นร่างบางในชุดเดรสสีฟ้าพริ้วเดินออกมาต้อนรับ

เมื่อเห็นเพื่อนเก่าในระยะใกล้ หล่อนก็อดยิ้มไม่ได้ จิณณพัตยังคงเหมือนเดิมทุกประการ ตาสีน้ำตาลดูอบอุ่นใจดี ใบหน้ารูปหัวใจ จมูกโด่งรั้นเล็กน้อย ผมดำยาวสลวย และหุ่นทรงนาฬิกาดูบอบบาง เธอนึกถึงวันเก่าๆ ที่มักจะต้องบอกกับคนตรงหน้าเสมอว่าให้ทานเยอะกว่านี้ แต่ไม่เคยได้ผลสักที



พิมมองร่างสูงของเพื่อน หญิงยังคงดูมีเสน่ห์ ด้วยความสูง 175cm. บวกกับใบหน้าสวยที่มักนิ่งอยู่เป็นนิจ แค่นี้ก็ดึงดูดทั้งผู้ชายและผู้หญิงให้เข้ามาหาไม่เคยขาดสาย ถ้ายิ้มเมื่อไหร่ล่ะก็คนรอบข้างใจละลายทุกครั้งไป ขนาดเธอซึ่งเป็นเพื่อนยังรู้สึกหลงรอยยิ้มสวยๆ นั้นเลย

กิตติญาในชุดสูทและดูทะมัดทะแมงและมั่นใจกว่าครั้งสุดท้ายที่เคยเห็น คนตัวสูงดูผอมลงเล็กน้อย แต่ยังคงดูดีไม่เปลี่ยน หล่อนเดาว่าคงเพราะงานของอีกฝ่ายยุ่งมากจนไม่มีเวลาได้ดูแลตัวเองเหมือนเคย

"เข้ามาสิหญิง" จิณณพัตเปิดประตูเชื้อเชิญ

คนหน้าเฉยเดินเข้าบ้านหล่อนอย่างเงียบๆ ไม่เอ่ยคำพูดใด มีเพียงรอยยิ้มบาดใจ



"หืม ไมเยอะจัง" คนยิ้มหวานพูดเมื่อเห็นเครื่องดื่มที่หล่อนเตรียมไว้

"ก็นานๆ จะได้เจอกันสักทีก็เลยอยากให้หญิงเมาเต็มที่"

"จุดประสงค์ชัดเจนเลยนะ ให้หญิงเมาคนเดียวเหรอ แล้วพิมล่ะ" อีกฝ่ายยิ้มอบอุ่น

"พิมเป็นเจ้าบ้าน จะเมาได้ไง" หญิงสาวยักคิ้วหนึ่งที สาวหน้าสวยส่ายหัวเป็นเชิงว่าไม่เห็นเกี่ยวเลยเอาเปรียบกันแบบนี้

"ไม่รู้แหละ พิมจะมอมเหล้าจนหญิงเมาเลย คืนนี้หญิงค้างนี่แหละไม่ต้องกลับหรอก" เธอตอบพลางนั่งลงและรินเครื่องดื่มลงแก้ว

"อ่ะ" หล่อนยื่นน้ำสีอำพันให้กิตติญา ก่อนที่จะรินให้ตัวเองแต่ความเข้มข้นน้อยกว่า



"พิม เปิดเพลงได้ไหม" คนตัวสูงพูดเมื่อดื่มไปได้เกือบครึ่งชั่วโมง

"ได้ แปบนะ" หญิงสาวลุกขึ้นไปเปิดเพลงตามคำเรียกร้อง

เมื่อกลับมานั่ง เสียงเพลงก็ดังขึ้นพอดี เป็นเพลงรักช้าๆ แบบที่อีกฝ่ายชอบ เธอเคยถามว่าทำไมถึงชอบเพลงแนวนี้ หญิงยิ้มเล็กน้อยและบอกว่า ฟังแล้วสบายใจ ตรงกับความรู้สึกดี หล่อนถามต่อว่ารักใคร อีกฝ่ายยิ้มเศร้าไม่ตอบคำถาม เธอจึงเดาได้ไม่ยากว่าคนหน้าสวยคงแอบรักใครสักคนอยู่ จิณณพัตเลยไม่ได้ถามอะไรต่ออีก

"พิมกับภาคเป็นไงบ้าง" น้ำเสียงคนถามยานแสดงอาการเมา

"ก็ดีเหมือนเดิมแหละ" เธอตอบยิ้มๆ

"แล้วหญิงล่ะมีใครรึยัง" หล่อนถามกลับ

"ยัง" อีกฝ่ายตอบสั้นๆ เหมือนไม่ใส่ใจ

"หญิงก็อายุไม่น้อยแล้วนะ จะ 30 แล้ว น่าจะจริงจังกับใครสักคน พิมเชื่อว่าผู้หญิงหลายคนพร้อมที่จะเป็นคนๆ นั้นของหญิงนะ" จิณณพัตเอ่ยด้วยความหวังดี

"มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก" เสียงนุ่มเจือแววเศร้า

"ทำไมล่ะ" เธอมองคนตรงหน้าอย่างสงสัย

กิตติญาไม่ตอบ นัยน์ตาสีสวยนั้นเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง พลางยกแก้วขึ้นดื่มเหมือนน้ำเปล่า

หญิงสาวลุกขึ้นแล้วไปนั่งข้างๆ เพื่อนรัก มือดึงแก้วใสออกจากปากอีกฝ่าย แล้วรั้งร่างสูงเข้ามากอดปลอบใจ เห็นเพื่อนเจ็บหล่อนก็พลอยเจ็บไปด้วย เธอไม่จำเป็นต้องถาม เมื่อไหร่ที่คนในอ้อมกอดอยากพูดก็คงบอกออกมาเอง

"พิม" เสียงนุ่มแหบพร่า

"หือ" เธอขานตอบ

คนตัวสูงผละออกจากอ้อมกอดอย่างช้าๆ ในดวงตาที่เกือบดำสนิทนั้นมีบางอย่างแฝงอยู่ มันทำให้หัวใจเธอกระตุก ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่รู้สึกได้ คนสองคนจ้องตากันยาวนาน คนหนึ่งเปิดเผย อีกคนค้นหา

มือเย็นของอีกฝ่ายแตะที่แก้มใสของเธอ มันสั่นเล็กน้อย สีหน้าของคนตัวสูงเปลี่ยนจากเรียบเฉยเป็นโหยหา มีความทรมานแทรกอยู่ในดวงตา ชัดเจน ลึกล้ำ จิณณพัตกำลังจะเอ่ยถาม แต่ปากรูปกระจับทาบทับลงมาบนปากของเธอ



จิณณพัตลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ รู้สึกอึดอัดอย่างประหลาด ราวกับมีอะไรทับร่างกายอยู่ จึงมองไปยังบริเวณนั้น ก็พบกับท่อนแขนเรียวบางบนเนินเนื้อหยุ่น ขาขาวๆ พาดผ่านเฉียดจุดซ่อนเร้น

เธอไล่สายตาไปยังใบหน้างามที่แม้ในแสงสลัวก็ยังดูสวยไม่เปลี่ยน ความทรงจำเมื่อวานกลับคืนมาอีกครั้ง อีกฝ่ายยังคงหลับใหล หล่อนมีเวลาคิด แต่ก็คิดอะไรไม่ออกสักอย่างเดียว มีเพียงคำถามหนึ่งที่ค้างคาอยู่ในหัวใจ ทำไมถึงไม่ขัดขืน เธอไม่มีคำตอบให้กับตัวเอง

มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น การมีอะไรกับคนที่ไม่ใช่สามี แต่เมื่อนึกถึงความรู้สึกหอมหวานปนกลิ่นแอลกอฮอล์แล้ว กลับพึงพอใจอย่างประหลาด

หญิงสาวไม่ใช่คนไม่ประสีประสาเรื่องเพศ หล่อนแต่งงานได้ 5 ปีแล้ว คนรักทำให้เธอมีความสุขเสมอทั้งร่างกายและจิตใจไม่มีขาดตกบกพร่อง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนช่างแตกต่าง มันเร่าร้อน นุ่มนวล เย้ายวนใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึก

"อือ" คนหน้านิ่งขยับตัว ใบหน้าคมขมวดคิ้ว ตากระพริบถี่



กิตติญารู้สึกว่าศีรษะหนักอึ้ง เมื่อคืนเธอคงดื่มมากเกินไป ปกติแล้วหล่อนไม่ยอมดื่มจนเมาถ้าอยู่นอกบ้าน แต่คราวนี้เธอไว้วางใจเพราะเพื่อนสาวชวนให้ค้าง

เมื่อสายตาปรับกับแสงอาทิตย์ที่แผ่วอ่อนของยามเช้าได้ ภาพที่งดงามที่สุดก็ปรากฎต่อสายตา พิมเปลือยเปล่า อกขาวหยุ่นมือ หล่อนรู้ เพราะมือกอบกุมเนินนั้นอยู่ข้างหนึ่ง หัวใจกิตติญาเต้นแรงขึ้นเมื่อมองต่ำลงไป

หล่อนพยายามคิดทบทวน แต่ความจำสุดท้ายคือบอกให้อีกฝ่ายเปิดเพลงเท่านั้น หลังจากนั้นมีเพียงความว่างเปล่า จิณณพัตเงียบ ไม่ต้องพูดออกมาสิ่งที่เห็นอยู่ก็พอจะบอกได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น

หญิงสาวไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองจะทำเรื่องแบบนี้ลงไป พิมมีสามีแล้ว และยังเป็นเพื่อนรักของเธออีกด้วย

"ขอโทษนะ" เสียงเธอเบาราวกับกระซิบ

คนข้างกายยังคงไม่ปริปากพูดอะไร อาจเพราะไม่รู้จะพูดกับหล่อนว่าอย่างไร มีเพียงสายตาสับสนที่มองมา

"พิม...หญิงจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ เอ่อ...หญิงได้ขืนใจพิมรึเปล่า" กิตติญาถามด้วยความกังวล

"เปล่า" สาวร่างบางตอบเสียงแผ่วเบากว่าปกติ หลบตาเล็กน้อย

คำตอบของเพื่อนไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก แต่อย่างน้อยเธอก็รู้สึกโล่งใจไปอย่างหนึ่งที่ไม่ได้บังคับฝืนใจ ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจลบเลือนเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ มันคือความผิดพลาด เมื่อคืนหล่อนเป็นชู้ เธอจะกล้ามองหน้านนทพันธ์สามีของเพื่อนได้อีกเหรอ แล้ว...เราจะเป็นเพื่อนกันได้อยู่ไหม

"พิม...จะทำยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น" หญิงถามลองเชิงความคิดอีกฝ่าย เป็นเรื่องจำเป็นในสถานการณ์อันเปราะบางนี้

"ไม่รู้สิ" คำตอบมาพร้อมกับเสียงถอนหายใจ

"งั้น...เราลืมเรื่องนี้เถอะ" คนตัวสูงกลั้นใจพูดออกไป นี่เป็นทางออกทางเดียวที่คิดได้

"เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมนะ" หล่อนเห็นอีกฝ่ายสูดหายใจลึก

"อือ" จิณณพัตเงียบอยู่พักใหญ่ก่อนตอบ

ใจหนึ่งก็ดีใจที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ แต่อีกใจหนึ่งก็ทรมานเสียยิ่งกว่าที่เคยผ่านมา หล่อนเกลียดตัวเองที่ยังดิ้นรนหวังว่าเพื่อนจะเป็นมากกว่าเพื่อน

แสงสีส้มอ่อนแรงขึ้น ทำให้เห็นทุกอย่างชัดเจนกว่าเมื่อครั้งลืมตา กิตติญากล้าพูดได้ว่า พิมช่างสวยเหลือเกิน เหมือนนางฟ้า ถ้าให้หล่อนมองร่างงามนี้ทั้งวันก็คงไม่มีเบื่อหน่าย แต่นึกถึงคำพูดเมื่อครู่ได้ จึงเสมองออกไปนอกหน้าต่างแทน

"หญิงต้องไปแล้ว มีงานแต่เช้า" คนหน้านิ่งพยายามคุมเสียงให้ราบเรียบ แม้ว่าใจลึกๆ จะรู้สึกตรงกันข้ามก็ตาม

"อือ" เสียงหวานตอบ

หญิงสาวเอามือและขาที่วางอยู่บนตัวอีกฝ่ายออกอย่างช้าๆ ระมัดระวัง ก่อนจะลงจากเตียงนุ่ม แล้วเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นและเก้าอี้



พิมมองร่างสูงโปร่งอวดเนื้อหนังมังสาโดยไม่ตั้งใจ หล่อนรู้สึกสับสนไปหมด ไม่รู้จะพูดอะไรออกไป สิ่งที่คนตรงหน้าตัดสินใจก็ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดี แต่เธอจะยังคิดว่าคนหน้าสวยเป็นแค่เพื่อนอยู่รึเปล่า มันมีความรู้สึกแปลกประหลาดเกิดขึ้นในใจ เมื่อนึกถึงความทรงจำอันแสนหวาบหวาม ร่างบางถอนหายใจก่อนจะลุกไปแต่งตัว เพื่อไปส่งอีกฝ่ายที่รถ

ไม่มีคำร่ำลาใดๆ มีเพียงความเงียบสงัดยามเช้า ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากัน ความอึดอัดอยู่ในแววตา เธอกลับขึ้นมาบนห้องนอน มองผ้าปูที่นอนสีฟ้าอ่อนยับยู่ยี่ หมอนเป็นรอยยุบ ย้ำเตือนให้รู้ว่านี่คือความจริงไม่ใช่เพียงฝันที่อยากให้เป็น

โชคดีที่สามีของพิมไปสัมนากว่าจะกลับก็อีกหลายวัน สิ่งที่ต้องทำคือใช้เวลาที่เหลือลืมทุกสิ่งทุกอย่างตามคำของเพื่อนสาว ไม่เคยมีสักครั้งในความคิดที่จะนอกใจนอกกายคนรัก เพราะเขาดีกับจิณณพัตเหลือเกิน เป็นคนดี ซื่อสัตย์ ไม่เจ้าชู้ และมีความเป็นสุภาพบุรุษเต็มเปี่ยม เรื่องนี้จะเป็นความลับในใจของเธอตลอดไป ไม่มีวันที่เขาจะได้รู้ เขาดีเกินไปที่พิมจะทำให้เสียใจ



กิตติญาถอนหายใจ ผลักแฟ้มงานออกจากตัว 2 วันมานี้เธอไม่มีสมาธิทำงานเลยแม้แต่น้อย อุณหภูมิในห้องค่อนข้างเย็นเพราะเครื่องปรับอากาศ แต่ใจข้างในกลับสับสน ร้อนรุ่ม

หล่อนได้ครอบครองคนที่แอบรัก แต่ดันจำอะไรไม่ได้สักอย่างเดียว ถ้าอีกฝ่ายไม่มีคนรักอยู่แล้ว หญิงสาวอาจเอ่ยปากขอให้เป็นแฟนแทนคำว่าเพื่อน เธอมีความหวังอันน้อยนิด จากการที่อีกฝ่ายยินยอมให้ล่วงล้ำ แต่นั่นแหละคิดไปจะมีประโยชน์อะไร เพราะยังไงเธอก็พูดออกไปแล้ว และสาวเสียงหวานก็มีสามีอยู่แล้วเช่นกัน

คนหน้านิ่งเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างเหนื่อยหน่าย ไม่มีอารมณ์ทำงานหรือมองดูภาพด้านนอกอาคารเหมือนเช่นเคย

เกือบทุ่มแล้ว ป่านนี้เด็กน้อยคงตั้งหน้าตั้งตารอ แม้ลึกๆ จะอยากยกเลิกนัดนี้ก็ตาม แต่ไหนๆ ก็พูดออกไปแล้วก็ควรจะไป บางทีอาจจะทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้างก็ได้ ถ้าได้พบเจอผู้คน อย่างน้อยก็ดีกว่าอยู่คนเดียวแล้วคิดเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมา



"พี่หญิงขา ไปที่นู้นกันนะคะ" สาวน้อยอายุไม่เกิน 23 เกาะแขนเธอพลางชี้มือไปยังผับชื่อดัง

"ค่ะ" หล่อนตอบตกลง คนตัวเล็กเลยจูงมือให้เดินเข้าไป

แสงดิสโก้สาดส่องไปทั่ว ดนตรีกระหึ่ม จังหวะสนุกสนานชวนโยกย้าย กิตติญาไม่ชอบเต้นนักจึงนั่งดูอีกฝ่ายวาดลวดลายยั่วเย้าแทน หล่อนดื่มเหล้าเล็กน้อยเหมือนเคย มองสีอำพันเข้มแล้วนึกถึงร่างบาง ดึกป่านนี้แล้วจะนอนรึยังนะ

"พี่หญิง" เสียงใสพูดกึ่งตะโกน

"หือ" คนตัวสูงขานรับ แต่จังหวะของดนตรีกลบจนอีกฝ่ายไม่ได้ยิน

สาวผมหยักศกตัวเล็กส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เข้าใจแต่ก็ไม่พูดอะไร เพียงแต่จูงมือเธอให้ไปยังสถานที่ทำธุระส่วนตัวของผู้หญิง

"เป็นอะไรคะ วันนี้พี่เหม่อแปลกๆ" ปิยะดาพูดพร้อมกับอิงแอบแนบอกนุ่มของคนหน้านิ่ง

"ก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก" กิตติญาตอบเสียงเนือยเล็กน้อย

"คืนนี้อยู่กับปายนะคะ" ปลายนิ้วเล็กเรียวของสาวตาใสไล้ผ่านรอยแยกของกระดุมกลางทรวงอกลงไปยังหน้าท้องแบนราบ

หญิงสาวยิ้ม รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร...ความต้องการ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เธอคงไม่ลังเลที่จะตอบรับและตอบสนอง แต่ตอนนี้หล่อนไม่รู้สึกต้องการเลยสักนิดเดียว

"พี่ไม่มีอารมณ์ โทษที" กิตติญาเสยผมยาวของตัวเองก่อนตอบอย่างช้าๆ

"เดี๋ยวปายจะทำให้พี่มีเองค่ะ" น้ำเสียงออดอ้อนถูกงัดมาใช้

"ไปเต้นต่อเถอะค่ะ เสร็จแล้วพี่จะไปส่งที่บ้าน" หญิงตัดบท ไม่สนใจน้ำเสียงใสๆ นั้น

สาวร่างเล็กชักสีหน้าไม่พอใจทันทีที่ได้ยินคำตอบ ก่อนจะสะบัดหน้าเดินออกจากห้องน้ำไป หล่อนมองตามอีกฝ่ายอย่างเบื่อๆ รู้ว่าปายอยากจะอาละวาด แต่ไม่ทำเพราะรู้ว่าเธอไม่ชอบ คงหวังว่าครั้งหน้าหล่อนจะใจอ่อนกว่าวันนี้

ปิยะดาดูเหมือนจะไม่มีอารมณ์ที่จะเต้นต่อ คนตัวสูงจึงลุกขึ้นเดินออกไปรอที่รถหรู เธอไม่สนใจลูกแมวน้อยอยู่แล้วว่าจะรู้สึกยังไง



ในมุมหนึ่งของผับ จิณณพัตพนั่งดื่มเพียงลำพัง หญิงสาวเห็นทุกอย่างตั้งแต่เพื่อนเข้ามาในร้านพร้อมกับสาวน้อยน่ารัก เห็นคนตัวเล็กเต้นยั่ว เห็นจูงมือกันไปห้องน้ำ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเข้าไปเพื่ออะไร เธอรู้ว่าหลายคนมักจะชอบไปมีเพศสัมพันธ์อย่างง่ายๆ ที่นั่น แต่ก็ต้องแปลกใจที่เพียงครู่เดียว เด็กสาวก็เดินหน้าบึ้งออกจาก ส่วนเพื่อนของหล่อนหน้าตาเบื่อหน่ายอย่างเห็นได้ชัด

ทำไมต้องไปสนใจด้วยนะ ว่าเขาจะไปทำอะไรกัน เราเป็นแค่เพื่อน หญิงสาวบอกตัวเอง เรื่องส่วนตัวไม่ควรไปยุ่ง

พิมถอนหายใจดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว ก่อนเดินออกไปยังลานจอดรถ จากนั้นจึงสตาร์ทรถเก๋งสีดำขับตามรถสปอร์ตคันหรูไป
--------------------------------------------------------
* เพลง Crush โดย Palmy Feat. Erlend Øye
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 มกราคม 2014 เวลา 07:54:46 อาพัทธ์ อันธการ »



email+facebook : N.Rattanawadikant@gmail.com
fanpage : www.facebook.com/อาพัทธ์-อันธการ/107884562739822

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.