web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 369
Most Online Ever: 369
(วันนี้ เวลา 14:41:34)
Users Online
Members: 0
Guests: 358
Total: 358

ผู้เขียน หัวข้อ: One night stand Vol.3 Chapter 1 : บางคนที่เปลี่ยนไป..  (อ่าน 1995 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
One night stand Vol.3 Chapter 1 : บางคนที่เปลี่ยนไป..
« เมื่อ: 17 มกราคม 2014 เวลา 10:25:04 »


Chapter 1 : บางคนที่เปลี่ยนไป..

ช้อปปิ้ง.. ช้อปปิ้ง.. ช้อปปิ้ง.. ราเชลฮัมคำนี้เป็นเพลงในใจ ยิ้มรื่นเริงระหว่างเข็นรถอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต และแน่นอน เธอไม่ได้มาคนเดียว มีสาวน้อยกับอีกหนึ่งสาวมาด้วยกัน แอนนาเบลล์กำลังเข็นรถอีกคันอยู่ข้างๆ แต่รถคันนั้นไม่ได้ใส่ของเหมือนคันของเธอ มันเล็กกว่าและยังมีคนตัวน้อยๆอยู่ในนั้น เขากำลังมองดูนั่นดูนี่อย่างสนใจ เห็นแล้วน่าเอ็นดู

อิซซาเบลน้อยเพิ่งได้ออกจากบ้านมาครั้งนี้เป็นครั้งที่สองเท่านั้น เนื่องจากเธอเชื่อว่า ภายนอกบ้านมีแต่ความอันตราย เชื้อโรคที่สายตามองไม่เห็นมีอยู่เต็มไปหมด สำหรับทารกอย่างลูกน้อย เธอจึงไม่ยอมให้เขาได้เจอมันเร็วเกินไป อาจจะดูเหมือนคิดมาก แต่เรื่องนี้หม่ามี๊ของเขาก็เห็นพ้องกับเธอ คราวนี้จึงไม่แปลกใจนักที่จะได้เห็นเจ้าตัวเล็กดูตื่นตาตื่นใจกับของแปลกใหม่ในชีวิตของเขา

“เฮ้..เบบี๋.. เดี๋ยวปะป๊าอุ้มลูกดีกว่าเนอะ” ปะป๊าแสนเซ็กซี่ตัดสินใจ เธอหยุดรถเข็นและขอแอนนาเบลล์ทางสายตา คว้าประคองร่างน้อยๆออกมาจากรถประจำตำแหน่ง ช้อนก้นเล็กไว้ด้วยมือข้างเดียวโดยที่สองแขนน้อยเกาะบ่าเธอ เพราะความที่ลูกตัวเล็กกว่าเธอมากๆ จึงไม่ลำบากเลยถ้าเธอจะอุ้มเขาไปด้วยและเข็นรถเข็นของไปพร้อมกัน แอนนาเบลล์น่ะ แค่เข็นรถเด็กก็พอแล้ว ตัวเล็กนิดเดียว

“สบายกว่าเลยเนอะ” ราเชลพูดไปยิ้มไปกับลูกสาว ส่วนอีกสาวที่เดินเคียงกัน ส่งเสียงบ่นทั้งที่ยิ้ม

“ชอบทำให้ลูกเคยตัวจังนะคะ”

คนโดนบ่นหัวเราะเบาๆ หอมแก้มยุ้ยๆของเด็กที่อุ้มอยู่ไปหนึ่งที “หอมจริงๆเล้ย..” พึมพำรื่นเริงกับเจ้าตัวน้อยที่ยิ้มให้และหันไปเลิกคิ้วยิ้มให้คนที่ส่ายหน้าให้อยู่ข้างๆ “โธ่เบลล์ก็.. ก็เห็นมั้ยคะว่า อิซซี่ไม่ชอบนั่งรถเข็น เค้าดูอะไรไม่ถนัด”

“รู้ค่ะ แต่ฉันกำลังคิดว่า คุณตามใจลูกมากไปแล้วราเชล ถ้าวันไหนฉันต้องมาซื้อของกับเค้าสองคน แล้วเค้าเกิดไม่อยากนั่งรถ อยากให้อุ้มตลอด ฉันจะทำไง ไม่ได้ซื้อของพอดี” หม่ามี๊ตัวเล็กชี้แจงแต่คนฟังก็ใช่ว่าจะดูสนใจ หล่อนยักไหล่และพาลูกพร้อมรถเข็นของเดินนำไปข้างหน้าเสียอย่างนั้น เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน เอาแต่ใจ.. แล้วฉันไม่ต้องมีลูกนิสัยเหมือนปะป๊าเค้าหรือไงเนี่ย แย่ล่ะ..

แอนนาเบลล์ยืนถอนหายใจกับความคิดที่ทำให้สยองของตน หากสักพักก็ลืมมันไปเพราะเสียงใครบางคนมายืนบ่นงึมงำข้างๆ “ฉันไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง นั่นราเชลจริงๆหรือไง” เธอหันมามองหน้าหล่อน คนที่ไม่คิดว่าจะเจอที่นี่แต่ดีใจที่ได้เจอ หล่อนเป็นเพื่อนสนิทของสามี เป็นบางคนที่ทำให้โชคชะตาเธอเปลี่ยนไป

มอลลี่ยังทำตาโตอยู่ พาให้เธอยิ้มขำๆ “ก็คนเราเปลี่ยนกันได้นะคะคุณมอลลี่” หม่ามี๊คนสวยบอก สาวอวบถอนหายใจเบาๆ แล้วยิ้มน้อยๆ แต่ส่ายหน้า

“เรื่องนั้นฉันรู้แอนนาเบลล์.. แต่ถ้าเธอรู้จักผู้หญิงคนนั้นมาก่อน แบบว่า ตั้งแต่เรียนอนุบาลอย่างฉัน เธอจะต้องช็อค หล่อนไม่ได้เป็นแบบที่เธอเห็น มัน....” มอลลี่หยุดเล็กน้อย ทำท่าพยายามหาคำที่ถูกต้องมาพูด “มันเซอร์ไพร์ส.. รู้มั้ย!” พูดแล้วก็ถลึงตาไปด้วย อีกสาวกลับหัวเราะ “ขำอะไร.. เรื่องจริงนะ และฉันจำได้แม่นเลยว่า แม่นั่นไม่ชอบมาซุปเปอร์มาร์เก็ต หล่อนจะไปแต่แผนกเครื่องสำอาง เสื้อผ้าแบรนด์ดัง กับแผนกไอที ที่นี่เหรอ..? ไม่เด็ดขาด หล่อนบอกว่าเหม็น”

“นั่นเป็นเรื่องเก่าแล้วค่ะ เพราะเรื่องใหม่คือ ราเชลชอบมาช้อปปิ้งในซุปเปอร์แบบนี้มาก โดยเฉพาะเวลามากับอิซซาเบล” แอนนาเบลล์ใช้สายตาชี้ให้คู่สนทนาดู ตอนนี้ราเชลกับลูกสาวกำลังคุยกันกระหนุงกระหนิง ถึงจะดูเหมือนหล่อนพูดอยู่คนเดียวก็ตาม เมื่อลูกยังพูดไม่ได้ ได้แต่อ้อแอ้ไม่เป็นภาษา แต่หล่อนก็ดูจะพยายามที่จะหยิบนู่นหยิบนี่มาโชว์ให้เขาดู และพูดไปเรื่อยๆ เห็นแล้วอยากจะบอกเลยว่า..น่ารักเป็นบ้าเลย..

“เฮ้..นี่ก็อีก.. ราเชล กิลเบอร์กที่ฉันรู้จักเคยเล่นกับเด็กที่ไหนกัน หล่อนเคยบอกฉันว่า รำคาญ พูดกันไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ แล้วนี่มันอะไรกัน” มอลลี่พูดเหมือนงงมาก ก็ไม่ค่อยได้เจอราเชลพร้อมลูกเท่าไหร่ ตัดสินใจหันไปมองหน้าสาวข้างๆ ราวกับจะบอกว่า เธอช่วยอธิบายทีสิ ฉันไม่เข้าใจ... แอนนาเบลล์ยิ้มกลับมาอย่างล่วงรู้ความคิด

“เรื่องมันเกิดตั้งแต่ที่เค้าเห็นลูกสาวฝาแฝดของดาเรนกับนิกกี้ไงคะ เคยเล่าให้คุณฟังแล้วนี่นา.. นับตั้งแต่ตอนนั้น ราเชลก็เป็นแบบที่คุณเห็น”

“โอ้.. แต่ฉันว่า หล่อนเปลี่ยนไปมากๆตั้งแต่เจอเธอนะแอนนาเบลล์” เพื่อนสนิทของราเชลคนเก่าบอกยิ้มจริงใจ หากคนฟังยังทำท่าเหมือนไม่แน่ใจว่านี่เป็นคำชมหรืออะไรกันแน่ จนกระทั่ง “ฉันว่า..ฉันต้องขอบใจเธอนะที่เปลี่ยนให้ผู้หญิงคนนี้เป็นแบบนี้”

“นี่คุณชมฉันเหรอคะ.?” ถามอย่างไม่เชื่อ คนที่ชอบเบื่อที่จะชมใครตรงๆจึงทำแววตาไม่พอใจให้ เธออมยิ้ม รู้ดีว่ามอลลี่ก็แค่ฟอร์ม “ฉันคงต้องขอบคุณ คุณต่างหากนะคะ ที่ทำให้ฉันได้เจอเค้า” แอนนาเบลล์บอก อีกสาวก็หัวเราะอย่างอดไม่ได้ เธอหัวเราะบ้าง “ถ้าคุณกับเค้าไม่คิดเกมส์เพี้ยนๆขึ้นมาวันนั้น วันนี้คงไม่มี”

“เธอคิดว่า ฉันทำถูกแล้วเหรอ” มอลลี่ย้อนถาม คนถูกถามส่ายหน้า

“ไม่ถูกเลยค่ะ ร้ายกาจมากๆ คุณสองคนร้ายกาจ ทำอะไรไม่เคยคิดถึงใจคนอื่น” คนร่างบางพูดไปถลึงตาขุ่นเคืองไปด้วย คนที่ยืนมองเลยรู้สึกขนที่ต้นคอลุกพรึ่บ “คุณคิดมั้ยว่า ถ้าไม่ใช่ฉันวันนั้น แต่เป็นผู้หญิงคนอื่น เพื่อนของคุณจะเป็นยังไง ราเชลจะเป็นยังไงคะมอลลี่” จี้ถามเพราะอยากรู้ คนถูกถามก็อ้ำอึ้งตอบมา

“ไม่รู้สินะ แต่ฉันขอเดาว่า ถ้าคืนนั้นไม่ใช่เธอ แต่เป็นนิโคล แมคคอลลี่ ราเชลก็จะโดนหักแขนหักขาและจับโยนใส่หน้าฉัน หรือไม่ก็อาจจะโดนจับแต่งงานตั้งแต่วันนั้นเลย ผู้หญิงคนนั้นน่ากลัว” สาวอวบทำท่าสยอง เพราะรู้จักผู้หญิงคนที่ว่าพอสมควร นิโคลเป็นสาวน่ากลัวตัวจริง ไม่เหมือนสาวคนตรงนี้หรอก ออกจะแสนดี ถึงตอนนี้จะดูเหมือนพยายามสร้างภาพนางมารออกมาบ้างก็ตาม แต่ยังไง เนื้อแท้ของเธอก็อ่อนโยน ช่างดูแล ฉันรู้นะแอนนาเบลล์..

“คุณก็ว่าไปนั่น.. คุณนิกกี้ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นเสียหน่อย เธอออกจะน่ารัก และถึงจะดุ แต่ก็ดุอย่างมีเหตุผลนะคะ”

“โอ้..เธอว่างั้นเหรอ..” มอลลี่ย้อน ทำท่าไม่เชื่อ อีกคนพยักหน้ากลับมาและเธอส่ายหน้ากลับไป “ช่างเถอะ ใครจะยังไงก็ช่าง ตอนนี้ฉันรู้แค่ว่า ยัยราเชลโชคดีที่คืนนั้นหล่อนตาดีไปเจอเธอ และเธอต้องคิดนะ ว่าฉันพูดถูกแล้ว”

แอนนาเบลล์อมยิ้มกับคำสรุปที่ดูจะเอาแต่ใจไปสักนิดของผู้หญิงตรงหน้า และเธอก็เข้าใจธรรมชาติของหล่อนดีเลยไม่คิดจะโต้แย้ง และหันไปสนใจปะป๊าหน้าสวยกับลูกสาวของตัวเองแทน ราเชลกับอิซซาเบลดูเหมือนจะเป็นนักช้อปตัวยง เผลอแป๊บเดียว ในรถเข็นของก็มีของอยู่เกือบเต็ม และของบางอย่างก็ดูจะไม่จำเป็นกับเด็กในวัยนี้เลย ไม่ได้การล่ะ มากไปแล้ว..

“คุณมอลลี่คะ ไหนๆก็มาแล้ว ไปทักสองสาวหน่อยนะคะ ราเชลคงดีใจที่ได้เจอคุณ” หม่ามี๊ตัวเล็กรีบหาทางปลีกตัวไปหาสามีกับลูกสาว และดูเหมือนอีกคนจะเข้าใจ หล่อนพยักหน้าและเดินตามหลังเธอมาอย่างไม่แย้ง และพอไปถึงที่ เธอก็ขอตัวลูกมาอุ้มทันที “ราเชล.. ขออิซซี่ให้ฉันค่ะ” ราเชลดูเหมือนจะงงที่เธอเข้าไปขัดจังหวะหล่อนกับลูก แต่เธอมีวิธี “ดูสิคะว่าฉันเจอใคร” หล่อนกระพริบตาและมองไปข้างตัวเธอแทน แล้วจึงยอมส่งทารกน้อยให้เธอในที่สุด หวงจริงๆ

“ไฮ..มอลลี่ เธอมาที่แบบนี้เป็นด้วยเหรอ” ราเชลทักเพื่อนและเข้าไปพูดคุยกัน เม้าท์กันตามประสาไม่ได้เจอกันมานาน ระหว่างนี้หม่ามี๊คนเก่งจึงขอใช้โอกาสที่หล่อนไม่ได้มอง จัดการกับของที่เกินจะใช้งานได้สำหรับครอบครัวให้กลับไปอยู่ที่ชั้นวางของมันตามเดิม เธอต้องรีบทำให้เสร็จก่อนที่ปะป๊าของอิซซาเบลจะหันมาเห็น เดี๋ยวเป็นเรื่อง ไม่อยากต้องเถียงกันในซุปเปอร์ฯ

หากแต่ระหว่างที่รีบทำงาน บางนาทีเธอบังเอิญหันไปมองผู้หญิงตัวสูงผมบลอนด์ พิจารณาหล่อนและหันมามองลูกสาวในอ้อมอก และอยู่ๆก็ยิ้มอย่างไม่เข้าใจตัวเอง ความจริงแล้วเธอขำกับโชคชะตา ไม่อยากเชื่อเลยว่า เธอมีลูกกับหล่อนจริงๆ แต่เด็กคนนี้ใช่ไหมที่เป็นเครื่องยืนยัน..

อิซซี่.. เรื่องของปะป๊ากับหม่ามี๊อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญนะคะ แต่เรื่องที่เราสองคนมีหนูแบบนี้.. พวกเราตั้งใจมากๆ และเราก็รักหนูมากๆเลย.. แอนนาเบลล์บอกกับลูกสาวด้วยสายตาที่มองเขาและจูบที่เธอวางไว้ที่กระหม่อมเด็กน้อย และเธอคิดว่า เธออาจจะร้องไห้ก็ได้กับความรู้สึกนี้ รักลูกมากเหลือเกิน มันตื้นตัน.. แต่น้ำตาเธอก็ออกมาไม่ได้ เมื่อได้ยินเสียงบางคนโวยวายเข้าหูให้อารมณ์เปลี่ยน

“เบลล์! พริงเกิ้ลไปไหน.. ฉันใส่เอาไว้ตรงนี้” หันมาเจอราเชลทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กโดนแย่งขนม เธอมองค้อนหล่อน ลืมอารมณ์ซึ้งๆเมื่อครู่ไปสิ้น ชี้มือไปชั้นวางแทน หล่อนทำท่าเหมือนจะร้องไห้ทันที ไม่แคร์กับสายตามอลลี่ที่ยืนมองอยู่ ซ้ำยังจะเอื้อมมือไปหยิบมันกลับมาด้วย และมือบางก็เข้าไปตีมือหล่อนทันที

“ห้ามซื้อค่ะ อาหารขยะห้ามเอาเข้าบ้านนะราเชล เราตกลงกันแล้ว” หล่อนทำตาโตใส่เธอ เหมือนไม่เชื่อว่าเธอพูดจริง “และเท่าที่ฉันจำได้นะ คุณเองที่เป็นคนบอกว่า จะงดอาหารพวกนี้ แม็คโดนัลด์ก็เหมือนกัน”

“แต่มันแค่มันฝรั่งนะเบลล์ อาหารขยะตรงไหน” ราเชลเถียงเหมือนเด็ก มองไปที่เพื่อนสนิทที่ยืนข้างๆ แต่ผิดหวังทันที มอลลี่ไม่แค่จะไม่ช่วย หล่อนยังหัวเราะเหมือนกำลังสะใจ หน๊อยแน่ะ! ปะป๊าหน้าสวยไม่ยอมแพ้ หาทางสู้โดยคิดจะให้ลูกเข้าข้างตัวเอง “อิซซี่ก็ทานได้.. ชอบด้วย!”

หากแต่คราวนี้บอกเลยว่า เธอคิดผิดที่ให้เด็กทารกช่วยออกเสียงโหวตเมื่อเห็นแววตาโกรธๆจากหม่ามี๊ร่างบาง และมันก็บอกได้เลยว่าเธอจะเจออะไร ราเชลเหงื่อตกทันที นี่แม่หรือเมีย.?

“คุณว่าอะไรนะ อิซซี่ชอบ?” คนโดนถามพูดไม่ออกแต่หาทางออกให้ตัวเองได้ไวจากความเป็นคนหัวไว สาวผมบลอนด์รีบบอกลาเพื่อนซี้และพารถเข็นของเข็นหนีไป ไม่สนใจกับเสียงหัวเราะของเพื่อนสาวจอมทรยศที่ไปเข้าข้างคนอื่น เอาไว้ค่อยแก้แค้นคืนวันหลัง ฝากไว้ก่อนมอลลี่..

“ราเชลนี่จริงๆเลย.. เผลอไม่ได้” แอนนาเบลล์ยืนบ่นขณะมองตามหลังสาวบลอนด์ที่เดินหนีไป เธอก้มลงพาลูกน้อยใส่ในรถเข็นประจำตำแหน่งและส่งขวดนมให้เขา ป้องกันอาการงอแงที่โดนปะป๊าทิ้งหนีเอาตัวรอดไปแล้ว เธอกระพริบตากับคำวิจารณ์ที่เข้าหูมาจากคนใกล้ๆ ที่ลืมไปว่าหล่อนยังอยู่

“สรุปว่า ตอนนี้ฉันได้ราเชลคนใหม่มาเป็นเพื่อน ว้าว..สุดยอด” มอลลี่ยิ้มให้กับสายตาสงสัยของคนฟัง แต่ก็เลือกที่จะไม่อธิบาย ก้มลงหอมแก้มเจ้าตัวเล็กที่กำลังกินนมจากขวดและบอกลาสองแม่ลูกไป หัวเราะอีกครั้งเมื่อเดินห่างพวกเขามาไกลแล้ว แล้วก็พึมพำ “เป็นเลสเบี้ยนแล้วผิดเหรอ.. เรื่องนั้นใครจะแคร์.. แค่เธอเปลี่ยนมาเป็นคนน่ารักแบบนี้ได้ มีลูกน่ารักแบบนี้ได้ ฉันยอม..”

.............................................


ปัง! เสียงของบางอย่างกระแทกโต๊ะไม้ พาให้คนที่นั่งทำงานเงยหน้าขึ้นมา มองหน้าคนทำอย่างสงสัยสลับกับของที่ตอนนี้ตั้งอยู่บนโต๊ะตระหง่าน มันคือกระป๋องมันฝรั่งยี่ห้อดัง พริงเกิ้ล..

“หมายความว่าไง..ราเชล” ซอนย่าถาม ไม่เข้าใจว่ากระป๋องพริงเกิ้ลมาเกี่ยวอะไรกับห้องทำงาน หรืองานโฆษณาชิ้นใหม่ แต่ที่ได้กลับมาคือท่าทางยักไหล่อย่างไม่แคร์ ประหลาดใจมากขึ้นเมื่อผู้หญิงตรงนั้นหยิบมันมาเปิดกินพร้อมหยิบปากกามาเซ็นต์งาน ไม่พูดไม่จา

ท่านรองประธานหรี่ตามองท่านรองอีกคน เธอไม่เคยเห็นราเชลเอาขนมมากินเวลาทำงาน หรือเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องจดบันทึก “หิวเหรอ.? ไม่ได้กินข้าว.?” ถามอย่างเดาสุ่ม คนที่ยุ่งทั้งงานทั้งกินก็เงยหน้ามาส่ายหน้าให้

“ไม่ได้หิว แค่อยากกิน แค่อยากกิน มีปัญหาป่ะคิตตี้ หรืออยากกินบ้าง” ราเชลยื่นกระบอกมันฝรั่งให้อีกคน แต่หล่อนขมวดคิ้วมองไม่ส่งมือมารับ จึงนำมันกลับมา “ดีไม่เปลือง กว่าจะได้มา มันลำบากนะ” บอกพร้อมสีหน้าจริงจังและล้วงเอาแผ่นมันฝรั่งกรอบมาใส่ปากเคี้ยวต่อท่ามกลางการถูกมองอย่างแปลกใจ แต่ใช่ว่าจะแคร์ จนกระทั่งหล่อนพูดบางอย่าง

“อยู่บ้านไม่ได้กินหรือไง ฉันแน่ใจว่า ไม่เคยเห็นเธอกินอะไรตอนทำงาน หรือนี่เป็นเรื่องใหม่”

มองดวงตาที่สงสัยของซอนย่าแล้วก็เห็นท่าว่าจะไม่ดี ไม่อยากให้หล่อนรู้ความลับว่า ไอ้แค่มันฝรั่งกรอบนี่แหละที่เธออดอยากปากแห้งไม่ได้กินมัน เดี๋ยวหล่อนจะเอามาล้อไม่จบ ไม่อยากตกเป็นเป้าความสนุกของหล่อน ราเชลรีบเก็บของกินและคว้าขวดน้ำที่นำมาพร้อมกันตอนเข้ามา มาเปิดกระดกดื่ม ไม่ลืมว่ามันต้องคอแห้งเวลากินของแบบนี้ ใช่สิ ไม่งั้นเบลล์จะห้ามไม่ให้เอาให้ลูกกินหรือไง..

“อ้าว ถามแค่นี้ถึงกับเลิกกินเลย.. กำลังจะบอกพอดีเลยว่า เมื่อก่อนเจ้าพริงเกิ้ลเนี่ยเป็นของชอบของเบลล์เหมือนกัน แปลกใจที่เธอไม่เก็บไว้กินกับเค้า”

สาวบลอนด์กระพริบตางงกับคำบอกเล่าของเพื่อนที่ความจริงแล้วก็เป็นญาติห่างๆและนามสกุลแตกต่าง และคราวนี้ซอนย่าก็พูดเหมือนไม่ได้มีความนัยอะไรซ่อนอยู่ ไม่ได้จะเยาะเย้ยเธอที่ไม่รู้เรื่องที่หล่อนรู้ เรื่องของผู้หญิงที่เธอรักที่สุดนอกจากลูกและแม่ของตัวเอง

“แอนนาเบลล์ชอบกินเหมือนกัน.?” ถามย้ำเพราะต้องการคำตอบ อีกสาวพยักหน้ารับหนักแน่น “โอ้.. ไม่ยักรู้เลยแฮะ.. เซอร์ไพร์สนะเนี่ย” พึมพำอยู่คนเดียว แต่ความใกล้และความเงียบในห้องนี้อีกคนจึงได้ยินมันไม่ยาก และซอนย่าก็ดูจะฉลาดพอที่จะปะติดปะต่อเรื่องได้เอง เดาออกว่าเธอเป็นอะไรหรือเกิดอะไรขึ้น

“เฮ้.. ฉันเดาว่า เค้าห้ามไม่ให้เธอกิน”

ราเชลนิ่งไปสักพักแล้วก็พยักหน้า หล่อนยิ้มเหมือนถูกแจ็คพ็อตและเธอไม่ชอบเลย “ก็แค่ไม่อยากให้ลูกเห็นแล้วอยากกินบ้างน่ะ” พูดโพล่งออกไปแก้เก้อ ยังไม่อยากเสียฟอร์มกับอดีตศัตรู และสิ่งที่หูได้ยินก็พาให้หันไปสนใจ

“ใช่ เพราะเด็กเล็กๆอย่างนั้น ถึงจะมีฟันแล้วหนึ่งหรือสองซี่ หรือเค้าจะสามารถอมมันไว้ก่อนแล้วค่อยกลืนเข้าปาก แต่ยังไงสารอาหารก็ไม่เหมาะสมสำหรับเค้า ยังจะเป็นอันตรายด้วย ไม่แปลกเลย ถ้าเบลล์จะไม่ให้เธอซื้อเข้าบ้าน”

“แต่ฉันก็กินแอบๆลูกก็ได้นี่นา อย่างเวลาที่เค้าหลับ ทำนองนั้น และเค้าคงไม่ได้อยากจะกินมันเท่าไหร่นักหรอก ไม่ใช่ของเด็ก และอีกอย่าง ถ้าเบลล์ชอบมัน เค้าก็ควรให้ฉันซื้อ เค้าก็จะได้กินด้วย หรือฉันพูดไม่ถูกล่ะ”

“นั่นเพราะเบลล์ยังต้องให้นมลูกอยู่ เค้ายังให้อยู่ใช่ไหม..” ซอนย่าถาม อีกสาวพยักหน้าอย่างไม่ต้องคิด “เพราะยังให้นมลูกอยู่เลยกลัวไงล่ะ”

ราเชลส่ายหน้าไม่เข้าใจ ยังงงอยู่ดี “แล้วไง.? มันไม่ใช่ของอันตรายอะไรขนาดนั้น ก็แค่มันฝรั่งกรอบ”

“ก็เค้าคิดมาก” พูดแบบนี้ คนที่สนทนากันอยู่ก็พยักหน้าเข้าใจแต่ยังไม่วายจะกวนประสาทกลับมา

“รู้สึกว่า เธอรู้จักเบลล์ดีกว่าฉันอีกนะ ถามจริง.. เธอรู้มั้ยว่าลอร่าชอบกินอะไร หรือไม่ชอบอะไร” สาวบลอนด์ท้าทายด้วยคำพูดและสายตา คนฟังดูตกใจเท่าที่มองจากแววตา แต่ก็กลบเกลื่อนมันได้ดีด้วยใบหน้านิ่งเฉยตามปกติ

“แน่นอนสิ ฉันรู้.. ถามทำไม.. ยังคิดอยู่หรือว่า เบลล์มีลูกแล้ว ฉันก็ยังจะคลั่งรักเค้าอยู่เหมือนเดิม” ซอนย่าถาม และไม่อยากเชื่อว่าจะให้อีกคนพยักหน้า เธอถอนหายใจเหนื่อย “ก็ใช่.. ฉันรักเค้าอยู่ แต่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เค้าแต่งงานแล้ว กับเธอ มีลูกกับเธอ และฉันเองก็แต่งแล้วเหมือนกันกับคนที่ฉันรักเค้าจริงๆ และอีกไม่นาน ฉันกับลอร่าก็จะมีน้องมาเล่นกับอิซซี่”

ราเชลยิ้มพอใจกับคำที่ได้ฟัง หากแต่ท่าทางกับคำพูดกลับทำให้อีกคนคิดไปอีกอย่าง “ฟังเข้าท่านะ ขอให้ทำได้จริง”

“พูดแบบนี้แสดงว่าไม่เชื่อ.?”

คนโดนย้อนส่ายหน้า ยิ้มน้อยๆ แล้วหยิบกระป๋องมันฝรั่งมาเปิดกินใหม่ ทำราวกับไม่สนใจคนที่อยู่ด้วยที่นี่อีกต่อไปแล้ว แต่หูเธอยังได้ยินเสียงหล่อนบ่นงึมงำ ซอนย่าท้าเธอให้รอดูว่าหล่อนพูดจริงและเธอแค่ยิ้มกลับไป ไม่ได้พูดตอบ จากนั้นหันมานั่งเหม่อ คิดเรื่องของตัวเองขณะเคี้ยวมันฝรั่งอย่างเพลิดเพลิน

เฮ้อ..ยังมีอีกกี่เรื่องที่ฉันไม่รู้เกี่ยวกับเธอนะเบลล์ ทำไมไม่เคยบอกฉันเลย.. หรือไม่ไว้ใจ.? แต่อะไรก็ช่าง.. ก่อนอื่นนะเย็นนี้ฉันจะกลับไปป้อนมันฝรั่งนี่ให้เธอกิน ไม่ว่าเธอจะว่ายังไง..





...................................


 :45:



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.