web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 289
Most Online Ever: 440
(28 เมษายน 2024 เวลา 03:05:22 )
Users Online
Members: 0
Guests: 6
Total: 6

ผู้เขียน หัวข้อ: จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 5  (อ่าน 1118 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลำเนา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 68
จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 5
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013 เวลา 10:25:50 »
ตอนที่ 5

มอเตอร์ไซด์สีดำคันใหญ่จอดที่หน้าร้านขนมไทยของนิมาซึ่งลงมายืนอยู่ข้างๆ ทิพย์ตามลงมาพร้อมกับช่วยถอดหมวกกันน็อคให้กับนิมาซึ่งกำลังนึกขอบคุณในความน่ารักและการดูแลเอาใจใสกับเรื่องเล็กๆ น้อยเหล่านี้

“ขอบคุณค่ะ” นิมาบอกขอบคุณทิพย์

“หอมแก้มอีกสักข้างดีไหม แทนคำขอบคุณ ลำเอียงนะคะ หอมขวาแต่ซ้ายยังเลย แก้มมันจะอิจฉากันนะคะ ระหว่างแก้มซ้ายกับแก้มขวา” ทิพย์อมยิ้มมองสบตานิมาที่ยิ้มอายๆ

“ติดไว้ก่อนนะคะ คนเยอะแถวนี้ นิ่มอายเป็นนะคะ คุณทิพย์” นิมาบอก

“คิดดอกเบี้ยนะคะ” ทิพย์ยิ้มทะเล้นให้

“ได้ๆ ดอกเบี้ยเท่าไหร่ก็ไปคิดมาค่ะ ตกลงว่าอยากทานอะไรคะ เช้านี้”

“อะไรก็ได้ค่ะ แต่ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ เดี๋ยวจะกลับมาขอทานอาหารเช้า กลางวัน เย็น รวมสามมื้อเลยค่ะ แล้วก็จะมาช่วยขายขนมทั้งวันเลยนะ ไม่รู้ว่าเจ้าของร้านจะรำคาญหรือเปล่านะคะ” ทิพย์แกล้งถาม

“สวยขนาดนี้ มาช่วยขายขนม คงขายดีแน่ๆ ค่ะ มีหวังหนุ่มเต็มร้านแน่นอนเลย” นิมาอมยิ้ม

“กลัวว่าจะไปไล่ลูกค้าเข้าให้ล่ะสิคะ” ทิพย์พูดขึ้นพร้อมใบหน้านิ่งๆ

“อ้าวทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะคะ นิ่มก็แย่สิ” นิมาทำท่าสงสัย

“ก็เกรงว่าจะไปเผลอหวงเจ้าของร้านเข้าให้น่ะคะ นอกเสียจากว่าเจ้าของร้านจะอนุญาตให้หวงได้” ทิพย์พูดทีเล่นทีจริง

“นี่ถ้าเป็นชายหนุ่มพูด นิ่มคงคิดว่ากำลังถูกหนุ่มๆ จีบอยู่แน่ๆ ค่ะ” นิมายิ้มแก้มแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย

“ก็กำลังจีบอยู่ค่ะ แต่พอดีเป็นผู้หญิง ไม่รู้จะรับไว้พิจารณาบ้างไหม” ทิพย์แกล้งขยับไปกระซิบใกล้ๆ

“ต้องขอดูก่อนว่าน่ารักขนาดไหน คุณทิพย์ก็ชอบแหย่นะคะ” นิมาไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้ากำลังบอกอะไรเป็นนัยกับเธอ

“พูดจริงนะคะ ไม่ได้แกล้งแหย่ เรื่องความน่ารักจะพยายามนะคะ ถ้าคุณนิ่มจะให้โอกาส” ทิพย์นึกขำตัวเองที่กล้าพูดออกไปตรงๆ คนที่ได้ยินกำลังจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยของเธอเหมือนกำลังจะค้นหาความจริงกับสิ่งที่พูดออกมา

“สองสามชั่วโมงที่ผ่านมานี่ก็น่ารักมากอยู่แล้วนะคะ ไม่ต้องพยายามก็ได้เป็นคุณทิพย์ที่เป็นตัวของตัวเองให้นิ่มเห็นที่เป็นอยู่นี่ก็น่ารักพอแล้วค่ะ” นิมาบอกสิ่งที่เธอคิดให้ทิพย์ซึ่งกำลังยิ้มอายๆ ได้รับรู้

“ขอบคุณค่ะ” สัมผัสเล็กๆ จากริมฝีปากอุ่นๆ ของทิพย์ทาบทับไปที่ริมฝีปากสีชมพูของนิมาหลังจากคำขอบคุณ เจ้ามดดำถูกขับออกไปแล้ว แต่นิมายังคงยืนมองตามสาวร่างระหงกับมอเตอร์ไซค์สีดำคันนั้นจนลับตา รอยยิ้มยังคงปรากฏอยู่บนใบ หน้าของนิมา ริมฝีปากอุ่นๆ ของทิพย์ยังคงไม่จางไปไหนสัมผัสเล็กๆ นั้นยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของนิมา

“ร้ายมากเลยคุณทิพย์ นิ่มแค่หอมแก้ม แต่คุณทิพย์” นิมานึกขำตัวเองที่มัวแต่ตกตะลึงกับจูบอันแผ่วเบาจากทิพย์

เสียงโทรศัพท์ภายในร้านดังขึ้นนั่นช่วยดึงนิมากลับมาจากความคิดคำนึงถึงสาวสวยที่เพิ่งขับมอเตอร์ไซค์ออกไปเมื่อสักครู่ นิมาเดินยิ้มเข้ามาในร้านและรีบเข้าไปรับโทรศัพท์ในทันที

“สวัสดีค่ะ” นิมาทักทายปลายสาย

“เสียงใสมากเลยนะ น้องสาวของพี่” นารินแกล้งแซวนิมาในทันทีที่ได้ยินเสียงใสๆ ของน้องสาวของเธอเอง

“เสียงนิ่มก็ปกตินะคะ” นิมาพูดแก้ตัวให้กับตัวเอง

“ใสจริงๆ กลับมานานหรือยังเรา” นารินถามน้องสาวของเธอ แต่อันที่จริงแล้วที่โทรมาก็ด้วยความเป็นห่วงมากกว่า

“เพิ่งถึงค่ะ กำลังจะไปอาบน้ำและเตรียมอาหารเช้า พี่นามีอะไรหรือเปล่าคะ” นิมาถามเพราะปกติพี่สาวของเธอจะไม่ค่อยโทรหาเธอนัก

“ก็เป็นห่วง กลัวน้องสาวหนีตามใครไปน่ะสิ” นารินหัวเราะเล็กๆ เสียงเล็ดลอดเข้ามาในโทรศัพท์ ซึ่งนิมาเริ่มรู้แล้วว่าพี่สาวของเธอโทร
มาทำไม

“ขอบคุณค่ะ พี่นา ใครเขาจะยอมให้แม่ค้าขนมอย่างนิ่มหนีตามล่ะคะ”

“ก็เจ้าของมอเตอร์ไซค์คันดำเมื่อเช้านี้อย่างไรล่ะคะ น่ารักไหม พี่หมายถึงเจ้าของรถน่ะ ไอ้เจ้าคันดำนั่นก็สวยใช้ได้อยู่” นารินแกล้งแซวน้องสาวของเธอด้วยคำถามที่ถามถึงความน่ารักของคนที่มารับนิมาออกไปจากร้านเมื่อตอนเช้า

“น่ารักค่ะ” นิมาอมยิ้มหวนไปนึกถึงสัมผัสเล็กๆ เมื่อสักครู่ และแอบคิดไปว่าถ้าพี่สาวของเธอรู้ว่าน้องสาวถูกเจ้าของมอเตอร์ไซค์คันดำจูบไปเมื่อสักครู่ไม่รู้จะว่าอย่างไรบ้าง

“ตอบเสียงหนักแน่นมากเลยนะ เอาไว้ค่อยกลับไปซักฟอกที่บ้าน พี่ดีใจนะที่นิ่มดูมีความสุข หายห่วงแล้วน้องสาวกลับมาถึงบ้านเรียบร้อย ไปได้แล้วจ๊ะเตรียมอาหารเช้าให้คนน่ารักได้แล้วนะ เดี๋ยวหิวตายพอดี” นารินหัวเราะเสียงดังก่อนที่จะวางสายไป

นิมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและเตรียมอาหารเช้าไว้พร้อมสำหรับคนที่บอกกับเธอว่าจะมาช่วยขายขนม และตอนนี้ลูกค้าก็เริ่มเข้ามาบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่มากนักเพราะว่ายังเช้าอยู่ นิมามัวแต่ทำโน่นทำนี่ไม่ทันเห็นว่ามีคนเดินมาอยู่ใกล้ๆ แล้ว

“รับพนักงานเพิ่มสักคนนะคะ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยมากนัก” ทิพย์ยิ้มหลังจากได้พูดออกไป คนที่หันมาดูท่าทางตกใจเล็กน้อยแต่ก็ยิ้มออกเมื่อเห็นว่าเป็นคนที่เธอรอทานอาหารเช้าด้วย

“พนักงานมีเยอะแล้วค่ะ อีกอย่างไม่มีเงินจ้างนักเรียนนอกอย่างคุณทิพย์แน่ๆ ค่ะ” นิมาพูดยิ้มๆ พร้อมกับเดินนำไปที่โต๊ะรับประทานอาหาร

“ว่างงานอยู่เลยค่ะ ไม่สงสารทิพย์สักหน่อยหรือคะ ไม่คิดค่าจ้างเป็นเงินก็ได้นะคะ” ทิพย์พูดน้ำเสียงอ้อนๆ ซึ่งทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกว่าหัวใจของเธอกำลังหวั่น ไหวไปกับความน่ารักของคนที่อยู่ตรงหน้า

“คุณทิพย์ทำงานไม่รับเงินเดือนมันจะดูแปลกๆ ไปนะคะ” นิมาแกล้งแหย่

“เงินพอมีเก็บอยู่บ้าง คุณนิ่มก็รับทิพย์ทำงานบ้างเป็นบางวัน วันละสักสองสามชั่วโมง แลกอาหารเป็นมื้อๆ ไปก็ได้ น่าสงสารไหมคะ” ทิพย์ยิ้มทะเล้นมองสบตากับนิมาที่กำลังจ้องมองเธออยู่เช่นกัน ดวงตาทั้งสองคู่เหมือนอยากจะเผยความรู้สึกดีดีที่มีอยู่ในใจให้กันและกันได้รับรู้

“เลี้ยงก่อนลงมือทำงานก็ได้ค่ะ แต่มื้อนี้ง่ายๆ ไปก่อนนะคะ” นิมาบอกกับทิพย์ที่กำลังมองไปที่อาหารเช้าที่ถูกจัดเตรียมไว้ ซึ่งประกอบไปด้วย ผัดผักรวมมิตร ไข่เจียว และแกงจืด ทิพย์อมยิ้มเมื่อเห็นอาหารที่จัดวางอยู่ตรงหน้าในตอนนี้

“ขอบคุณค่ะ น่าทานมากเลยนะคะ เหมือนรู้เลยนะ ว่าสาวที่ดูร้ายๆ อย่างทิพย์ไม่ทานเผ็ด” ทิพย์เริ่มตักอาหารใส่ที่จานของนิมาก่อนแล้วจึงตักมาใส่จานของตัวเธอเอง

“ยินดีค่ะ ทานเยอะๆ นะคะ จะได้มีแรงพานิ่มไปวิ่งอีก” นิมาอมยิ้ม

“จริงนะคะ ถ้าพาไปเที่ยวบ้างล่ะได้ไหม” ทิพย์ตั้งตารอคำตอบจากนิมาอย่างใจจดใจจ่อ แต่ก็ต้องรอเก้อเพราะพอดีมีลูกค้าเข้ามาในร้านเสียก่อน

ทิพย์มองดูคนที่กำลังไปต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาพร้อมๆ กันประมาณสองสามราย นิมาต้อนรับขับสู้ประหนึ่งว่าลูกค้าเป็นญาติหรือเป็นเพื่อน มีการพูดคุยทักทายถามทุกข์สุขกันบ้างกับบางรายที่ท่าทางจะเป็นลูกค้าประจำของร้าน รอยยิ้มสวยๆและความสดใสของเจ้าของร้านได้สร้างรอยยิ้มสวยๆ ให้คนที่เป็นลูกค้าด้วยเช่นกัน ทิพย์นั่งมองดูนิมาขายของจนเพลิน นิมาหันมามองทางทิพย์แล้วส่งยิ้มสวยๆ ให้ก่อน ที่จะเดินไปส่งลูกค้าที่หอบขนมกลับไปเยอะเอาการอยู่

“ข้าวไม่พร่องเลยค่ะ” นิมาพูดขึ้นหลังจากมองดูข้าวในจานของทิพย์

“รอเพื่อนทานค่ะ ตอนไปเรียนอยู่ต่างบ้านต่างเมืองทานข้าวคนเดียวเสียเป็นส่วนใหญ่ค่ะ พูดเสียยืดยาวเอาสั้นๆ ก็คือ รอคุณนิ่มนั่นเอง” สองสาวหัวเราะขึ้นพร้อมๆ กัน

“ถ้าอย่างนั้นก็ทานต่อค่ะ” นิมาบอก

“คำถามยังไม่ได้รับคำตอบเลยนะคะ” ทิพย์พูดขึ้นทันทีเพราะเกรงว่าคนที่จะตอบคำถามของเธอจะลืมไปเสียก่อน

“อยากไปเที่ยวไหนบ้างล่ะคะ” นิมาถามเพราะเธอยังไม่รู้ว่าทิพย์ชอบอะไรอย่างไรบ้าง

“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ คุณนิ่มรู้ไหมห้าปีแล้วที่ทิพย์ไม่ได้กลับมาเมืองไทยเลย บ้านเราเปลี่ยนไปเยอะมาก คงต้องหาโอกาสขับรถตระเวนดูถนนหนทางบ้างไม่ อย่างนั้นไปไหนมาไหนคงหลงแน่ๆ”

“เริ่มด้วยมื้อค่ำ ริมแม่น้ำไหมคะ” นิมายิ้มแปลกๆ และรู้สึกแปลกๆ กับตัว เองด้วยเช่นกันที่กล้าเอ่ยชวนทิพย์สำหรับอาหารมื้อค่ำ

“กุ้งแม่น้ำ กับน้ำจิ้มเปรี้ยวๆ เค็มๆ แต่ไม่เผ็ด” ทิพย์ทำตาโตเมื่อพูดขึ้น

“ท่าทางจะทานเก่งนะคะ แต่ทำไมหุ่นถึงได้ดีขนาดนี้คะ” นิมาถาม

“ออกกำลังกายค่ะ ตามใจปากบ้าง เลือกทานบ้างสลับกันไป คุณนิ่มชอบคนที่ดูสุขภาพดีหรือเปล่าคะ” ทิพย์ยิ้มกับคำถามของตัวเอง

“เข้าใจถามนะคะ แต่นิ่มไม่ตอบขอผ่าน” นิมาหัวเราะเล็กๆ เมื่อเห็นทิพย์ทำหน้ามุ่ย

“โห เบื่อคนรู้ทัน นึกว่าจะหลวมตัวเสียอีกค่ะ” ทิพย์หัวเราะ

“คุณทิพย์ลองไปคิดดูก่อนก็ได้ค่ะ ว่าอยากไปที่ไหน นิ่มจะได้พาไปถูก”

“ได้ค่ะ ว่าแต่ขนมท่าทางจะขายดีนะคะ ทิพย์สงสัยคนซื้อไปทำอะไรกันคะเยอะแยะ แต่ละคนเข้ามาถ้าทานเองทิพย์ว่าคงได้สักอาทิตย์สองอาทิตย์แน่ๆ”

“ถ้าเยอะๆ เหมือนลูกค้าคนสุดท้ายที่ซื้อไปก็ซื้อไปทำบุญที่วัดค่ะ ก็มีบางคนก็จะซื้อเป็นของฝากผู้ใหญ่ ฝากเพื่อน ฝากญาติค่ะ” นิมา
อธิบายกับทิพย์ซึ่งกำลังพยักหน้าแสดงความเข้าใจ

“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้คุณนิ่มพอจะมีเวลาว่างหรือเปล่าคะ ทิพย์จะอุดหนุนขนมแล้วไปทำบุญไปด้วยกันนะคะ นะ” ทิพย์ทำสายตาอ้อนๆ มองสบตากับนิมา

“ยินดีค่ะ นิ่มชอบอยู่แล้วเรื่องทำบุญ” นิมาบอกพร้อมรอยยิ้มสวยๆ เพราะไม่คิดว่าทิพย์จะชวนเธอไปทำบุญที่วัด

“น่ารักจริงๆ ชักอยากกอดแล้วสิ” ทิพย์ยิ้มทะเล้นมองสบตากับนิมาที่ไม่ได้พูดอะไรแกล้งทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน

“นิ่มขอตัวก่อนนะคะ” นิมาลุกเดินไปทางด้านหลังร้าน ทิพย์รู้สึกว่าบางทีอาจจะพูดเล่นจนมากเกินไป

ทิพย์เดินตามมาทางที่นิมาเดินมาเมื่อสักครู่ และมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องๆ หนึ่งซึ่งเห็นนิมาเดินเข้าไป ทิพย์ลังเลอยู่ว่าควรจะเคาะประตูดีหรือไม่ เพียงครู่เดียวเธอก็ตัดสินใจเคาะประตูเบาๆ

“เชิญค่ะ” นิมาคิดว่าคนที่มาเคาะประตูเป็นเจ้าหน้าที่ของร้าน

“ขอโทษค่ะ คุณนิ่มโกรธทิพย์หรือคะ” ทิพย์ถามขึ้นทันทีหลังจากเข้ามาภาย ในห้องซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นห้องทำงานส่วนตัวของเจ้าของร้าน ห้องไม่ได้ใหญ่มากนักมีเพียงโต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ และเอกสารจำนวนไม่มากนักที่วางอยู่บนโต๊ะ

“ขอโทษนิ่มเรื่องอะไรคะ” นิมาถาม

“ก็เรื่องที่ทิพย์พูดว่าอยากจะกอดคุณนิ่ม” ทิพย์ทำหน้าจ๋อยๆ เพราะเข้าใจว่านิมาคงไม่พอใจในสิ่งที่เธอพูด

“เปล่าสักหน่อยค่ะ”

“แล้วคุณนิ่มเดินหนีมาทำไมกันล่ะคะ”

“เดินมาหยิบของให้คุณทิพย์” นิมาชูพระองค์เล็กที่ร้อยเข้ากับเชือกสีดำซึ่งไว้สำหรับห้อยคอ

“ให้ทิพย์หรือคะ แล้วทำไมต้องรีบมาเอาตอนนี้ด้วยล่ะคะ ตกใจหมดนึกว่าโกรธเรื่องขอกอดเสียอีก” ทิพย์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หลังจากแอบเป็นกังวลอยู่ได้สักครู่

“ขอให้พระคุ้มครองนะคะ อย่าขับรถเร็วนักนะ” นิมาแอบกระซิบบอก

“ที่ให้พระเพราะเป็นห่วงใช่หรือเปล่าคะ” ทิพย์พูดยิ้มๆ

“คงอย่างนั้นค่ะ” นิมาไม่ได้ตอบตรงๆ เลี่ยงที่จะตอบว่าใช่หรือไม่ใช่

“อยากขอบคุณอนุญาตไหม” ทิพย์พูดเสียงอ่อยๆ

“แบบไหนคะ” นิมาถาม

“กอดค่ะ ทิพย์อยากถูกคุณนิ่มกอด แล้วก็อยากกอดคุณนิ่มด้วย”

“ยินดีค่ะ” สองสาวกอดกระชับกันแนบแน่น ทิพย์จูบเบาๆ ไปที่หัวไหล่ของนิมาที่กำลังยิ้มกับสัมผัสเล็กๆ นั้นอยู่ในอ้อมกอดของทิพย์

“สวมสร้อยให้ด้วยได้ไหมคะ ไหนๆ ก็ให้พร ให้พระคุ้มครองแล้วนะคะ” ทิพย์มองสบตานิมาที่พยักหน้าแทนคำตอบ

นิมายืนพิงโต๊ะทำงานโดยโต๊ะนั้นอยู่ทางด้านหลังของเธอ ทิพย์โน้มตัวเข้าไปใกล้ๆ เพราะว่าเธอสูงกว่านิมาคนที่จะช่วยสวมสร้อยให้จะได้ไม่ลำบากนัก ทิพย์วางมือทั้งสองข้างไปที่โต๊ะและโน้มตัวเข้าใกล้นิมามากขึ้นจนเหมือนจะได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน นิมารู้สึกว่า
กำลังตกอยู่ในวงล้อมของคนที่เธอกำลังจะสวมสร้อยให้ รอยยิ้มสวยๆ กับดวงตาวาววับกำลังจับจ้องไปที่ดวงตาของนิมาที่ไม่ยอมมองสบตาด้วย

“สวมจากทางด้านหลังถนัดกว่านะคะ” นิมาออกอุบายเพื่อเธอจะได้หลุดออกจากวงล้อมของทิพย์ที่อมยิ้มเพราะรู้ทันคนที่กำลังหลบสายตาของเธอ

“ตรงนี้ก็ได้ค่ะ คุณนิ่มก็เอาแขนอ้อมไปผูกให้ด้านหลังก็ได้ ทิพย์รู้ทันนะคะ อย่ามาใช้อุบายหลอกกันเสียให้ยากเลยค่ะ” ทิพย์อมยิ้มเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าทำหน้างอใส่

“ชักเชื่อแล้วว่าเป็น ยัยตัวร้าย” นิมาพูดขึ้นแกล้งทำหน้าดุใส่ก่อนที่จะขยับเข้าใกล้ทิพย์เผื่อที่จะผูกเชือกที่คอด้านหลังให้กับทิพย์

“ทำไมมือต้องสั่นด้วยล่ะคะ แอบคิดอะไรกับทิพย์อยู่หรือเปล่านะ” ทิพย์พูดแหย่นิมาซึ่งตอนนี้รู้สึกหมั่นไส้คนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เธอ ทิพย์ขยับเข้าใกล้อีกหลังจากที่นิมากำลังเอื้อมมือไปช่วยผูกเชือกสำหรับใช้แทนสร้อยคอ ท่าทางของนิมาในตอนนี้เหมือนกำลังโอบกอดรอบคอทิพย์ไว้ หัวใจของทิพย์ก็คงรู้สึกหวั่นไหวไม่ต่างไปจากคนที่ยืนตัวสั่นเล็กน้อยใกล้ๆ เธอ แต่มันก็เป็นความรู้สึกดีดีที่บอกผ่านการตื่นเต้น
เมื่อได้อยู่ใกล้กันมากขนาดนี้ ทิพย์เบียดตัวเข้าหานิมาและโอบเอวนิมาไว้ นิมาจึงโอบรอบคอของทิพย์ไว้เช่นกัน จุมพิตแผ่วเบาค่อยๆ ทาบทับไปที่ริมฝีปากเรียวบางสีชมพูของนิมาที่กำลังค่อยๆ กระชับอ้อมกอดของตัวเอง

“วางแผนไว้อีกล่ะสิคะ” นิมาถาม

“เปล่าเลยค่ะ หัวใจสั่งมา แล้วหัวใจคุณนิ่มล่ะ ไม่บอกอะไรบ้างเลยหรือคะ” ทิพย์ถามพร้อมรอยยิ้มสวยๆ

“ก็บอกค่ะ แต่อยากแกล้งคนแผนสูง” นิมาหัวเราะเล็กๆ

“ไม่สงสารหรือคะ”

“ไม่ต้องมาอ้อนเลยค่ะ” นิมาอมยิ้มแก้มเป็นสีแดงระเรื่อ ทิพย์ค่อยๆ จุมพิตนิมาอีกครั้ง และครั้งนี้ทำให้หัวใจของเธอพองโตเป็นอย่างมากเพราะสัมผัสตอบรับอันอ่อนโยนของนิมากำลังทำให้หัวใจของเธอล่องลอยจนไม่รู้ว่าไปอยู่ ณ แห่งหนใด

“จูบคุณนิ่ม หวานกว่าขนมตั้งเยอะนะคะ” ทิพย์ยิ้มทะเล้นให้

“ยังจะมาทำหน้าเป็นอีกนะคะ” นิมายิ้มอายๆ

“จ่ายค่าจ้างแพงขนาดนี้ รับรองได้ค่ะ จะช่วยขายขนมให้ยอดทะลุเป้าเลยวันนี้ ขอบคุณนะคะ ที่ยอมให้ยัยตัวร้ายเข้าใกล้คุณใจดีมาก
ขนาดนี้

“คุณใจดี” นิมาทวนคำพูดที่ได้ยินทิพย์เรียกเธอ

“ใช่ค่ะ ต่อไปนี้เป็นคุณใจดีของยัยตัวร้ายก็แล้วกันนะคะ” ทิพย์ยักคิ้วล้อ นิมาที่นึกขำกับท่าทางทะเล้นๆ นั้น

“ขอบคุณเช่นกันค่ะ ที่นำรอยยิ้มมาให้นิ่ม ขอกอดก่อนออกไปได้หรือเปล่าคะ” นิมาแกล้งขอแต่ไม่รอคำตอบเธอเข้าสวมกอดทิพย์ไว้
แนบแน่น ทิพย์ก็กระชับอ้อมกอดของเธอพอให้นิมาได้รับสัมผัสอันอบอุ่นจากเธอด้วยเช่นกัน




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.