Chapter 9 : สู่ปัญหา
“โอ้...ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่า วันนี้จะได้เห็นท่านประธานที่นี่” เซเลนก้าวเข้ามาพร้อมเสียงทักทายที่ไม่ต้องมองหน้าก็บอกได้ว่า มันช่างเป็นเสียงที่ก่อกวนความต้านทานของจิตใจ และมันก็บ่อยมากที่คนฟังอย่างเธอไม่สามารถจะขัดขืนสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ต้องการ โดยเฉพาะเมื่อหล่อนเข้ามาบีบนวดที่บ่าให้ นอกจากมันจะรู้สึกผ่อนคลายแล้ว มันยังทำให้รู้สึกอย่างอื่นอีกด้วย
เซเลนแม้จะไม่ใช่คนสวยมากจนถึงขั้นที่เรียกได้ว่าสะดุดตา แต่หล่อนก็มีเสน่ห์อย่างน่าประหลาดและหาตัวจับได้ยาก ไม่เช่นนั้นเธอคงจะไม่ตกหลุมพรางของหล่อนตั้งแต่แรก
“ทำไมไม่ไปรอที่ห้องประชุมล่ะ..” แคลย้อนถามอย่างเย็นชาและก้มหน้าทำงานต่อไปอย่างไม่สนใจว่าคนฟังจะรู้สึกอย่างไร เพราะเธอรู้สึกเหนื่อยเกินไปที่จะแคร์ความรู้สึกของใครในตอนนี้
“ก็อยากเจอคุณก่อนนี่คะ” เสียงที่ตอบกลับมามันคล้ายเสียงครวญครางมากกว่าเสียงพูด แคลรู้สึกมันได้ และเธอก็คงจะพอใจที่ได้ยินอะไรแบบนี้ ถ้าเธอรู้สึกว่าตัวเองพร้อม แต่ตอนนี้ไม่ใช่
“ก็เจอแล้วนี่นา.. ก็ไปรอฉันที่นั่นก่อนได้มั้ย..ฉันยังทำงานไม่เสร็จ”
“โธ่..ใจร้ายจังนะคะ ยังมีเวลาตั้งเกือบชั่วโมง กว่าจะถึงเวลาประชุม เรามาหาเรื่องสนุกๆทำก่อนดีมั้ยคะ”
อารมณ์แห่งตัณหาและแรงปรารถนาอย่างแรงกล้ามีอยู่ในเต็มพื้นที่ในดวงตาสีเทาคู่นี้ แคลไม่ปฏิเสธเลยว่า เธอรู้สึกดีที่มีคนมองเธอด้วยสายตาต้องการและโหยหา และเธอคงจะช่วยตอบสนองตัณหาให้พวกเขาได้ หากเธอไม่ได้กำลังต้องการจะทำสิ่งนี้กับคนอื่นอยู่
“ฉันเหนื่อย..เซเลน” เธอตอบด้วยน้ำเสียงธรรมดา และไม่คิดว่าจะไปทำร้ายจิตใจใคร จึงแปลกใจที่ได้ยินเสียงฟึดฟัดอย่างไม่พอใจดังออกมาจากคนตรงหน้าที่เข้ามาใช้สองมือประคองใบหน้าของเธอเข้าไปหา มองตากัน
“ของเล่นใหม่ของคุณ.. ทำให้คุณหมดแรงที่จะเล่นกับฉันแล้วเหรอคะ เก่งนะ..เห็นเป็นเด็กแบบนั้น” เซเลนไม่คิดจริงๆว่าเธอกำลังเล่นกับไฟอยู่ และไฟกำลังลุกโหมขึ้นเผาไหม้มือเธอเสียแล้ว เมื่อสาวตัวสูงผุดลุกขึ้นกะทันหันและผลักตัวเธออย่างแรง จนเซถลาไปนั่งลงกับเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆ โชคดีเหลือเกินที่มันอยู่ใกล้ เธอจึงไม่ต้องไปนั่งหมดท่าอยู่กับพื้น ให้ต้องนึกสมเพชตัวเองมากกว่านี้ แต่เธอก็ตกใจที่แคลลี่ยกมือขึ้นชี้หน้าเธออยู่ตรงนี้ ดวงตาสีเลือดนั่นเปล่งประกายน่ากลัว
“อย่าพูดถึงดิออนแบบนั้นนะ.. เขาไม่ใช่ของเล่นของฉัน.. เขาไม่เหมือนเธอ”
“ทำไมจะไม่เหมือนล่ะ.. ถ้าเขานอนกับคุณ มันก็เหมือนกัน”
แคลลี่ยืนตัวสั่นด้วยความโมโห และเธอก็โผเข้าไปบีบคอผู้หญิงที่นั่งอยู่กับเก้าอี้นั่นอย่างขาดสติ “ไม่เหมือน.. เพราะฉันรักเขา และฉันไม่ได้รักเธอ”
นาทีหนึ่งที่สติของเธอกลับคืนมา จนได้เห็นว่าผู้หญิงตรงหน้ากำลังจะตายคามือเธอเมื่อเธอบีบคอเขาจนแน่น แต่เมื่อแคลเริ่มปล่อยมือออกเพราะความตกใจที่เห็นดวงตาของเซเลนเริ่มจะถลนออกมาจากเบ้า เธอก็ต้องเสียใจกับความใจดีอันนี้ เมื่อตอนนี้นางปีศาจในร่างมนุษย์เพศหญิง ได้เป็นฝ่ายเข้ามาจู่โจมเธอแทน หล่อนเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนไม่ทราบได้ แต่ก็สามารถเหวี่ยงตัวเธอให้ไปนอนหงายอยู่บนโซฟาตัวยาวของบริเวณที่รับแขก
เสียงอุทานอย่างตกใจของแคลหายขาดไป เมื่อริมฝีปากถูกประกบไว้ให้คำพูดที่จะพูดถูกกลืนหายลงไปด้วย นับว่าเป็นคราวเคราะห์ของเธอที่ตอนนี้ร่างกายค่อนข้างจะอ่อนไหวจากการที่ทำอะไรไม่เสร็จนั่น มันจึงเป็นการง่ายที่จะยอมพลีกายให้อีกฝ่ายได้สมใจกับตัวเธอ สมองของแคลเริ่มเบลอไปทุกทีที่รู้สึกถึงปลายลิ้นที่กำลังเล็มไล้ไปตามกกหูและลำคอ เธอไม่รู้จะห้ามตัวเองได้อย่างไรที่จะไม่ตอบสนอง เมื่อหน้าอกถูกลูบคลำแบบนี้ และแน่นอนเลยว่า เซเลนรู้ดีถึงจุดอ่อนของเธอ จากการเป็นคู่นอนกันมาหลายปี ไม่น่าแปลกใจที่หล่อนจะทำได้ ทำให้เธอสมยอม และตอนนี้มันก็เป็นเธอที่พลิกตัวขึ้นมาสานต่อความหฤหรรษ์อันเร่าร้อนนี้ต่อด้วยตัวเอง
เสียงครวญครางของหญิงสาวเบื้องล่างออดอ้อนให้เธอปรนเปรอสัมผัสสวาทให้ และเธอก็พร้อมจะทำให้อย่างเต็มใจ เพราะไม่เคยขัดได้กับเสียงที่รัญจวนใจแบบนี้ นิ้วเรียวยาวสร้างความมหัศจรรย์ให้ได้เสมอ เธอทำให้ผู้หญิงคนนี้ต้องออกแรงจิกลงกับแผ่นหลังของเธอด้วยมือข้างที่ว่างอยู่ขณะที่ร่างกายของหล่อนกลัดเกร็งรอเวลาการปลดปล่อยครั้งสุดท้าย ไคลแมกซ์..
แคลรู้สึกได้เลยว่า สะโพกของเธอขยับเข้าหาร่างที่อยู่เบื้องล่างหนักขึ้นถี่ขึ้น เธอก็กำลังต้องการมันเหมือนกัน และก็ไม่ต้องรอนานเกินไป สิ่งที่ไม่ต้องร้องขอก็ได้มาทันทีและทันใจ ตอนนี้เธอกำลังควบขี่สิ่งนั้นอยู่อย่างเมามัน เสียงของเธอและเสียงของหญิงสาวเบื้องล่างประสานกันไปทั้งห้อง เสียงเสื้อผ้าที่เสียดสีกัน จากนั้นทุกอย่างก็จบลงตรงที่เธอนอนหอบอย่างเหน็ดเหนื่อยซบหน้าอยู่กับหน้าอกของคนด้านล่างที่ก็หอบหายใจแรงไม่แพ้เธอ
“เซเลน...” เธอเรียกชื่ออีกคนเหมือนคนเพ้อมากกว่า และสิ่งที่ได้มาคือการที่มีมืออุ่นๆมาลูบที่ศีรษะให้ มันรู้สึกสบายตัวและสบายใจ เธอคิดถึงแม่.. คุณแม่ที่เธอสูญเสียไปตั้งแต่ยังเล็ก และต่อมาก็เป็นคุณพ่อที่ตรอมใจตามไป น้ำตาเธอไหลลงมาอาบแก้มขาวอมชมพู แต่ก็รู้สึกว่ามีปลายนิ้วมาปาดมันออกให้และกระซิบคำพูดปลอบใจ
“หลับซะนะคะ..คนดี.. ฉันจะอยู่ตรงนี้และจะปลุกคุณ เมื่อถึงเวลา..”
และเธอก็ทำได้เพียงปิดเปลือกตาอยู่แบบนั้น พยักหน้ารับอย่างว่าง่ายกับเจ้าของอกอุ่นๆที่คุ้นเคย
...ไม่มีใครรู้ใจคุณดี มากเท่าที่ฉันรู้หรอกค่ะ..แคล...
แคลตื่นขึ้นมาทันเวลาประชุมพอดี เพราะเซเลนทำตามสัญญา หล่อนปลุกเธอขึ้นมาและช่วยแต่งตัวให้ แต่งหน้าอีกเล็กน้อย เพื่อลบร่องรอยของประสบการณ์ที่เพิ่งผ่านมันไปด้วยกัน แต่เธอขอให้หล่อนออกไปก่อน นำหน้าเธอไปรอที่ห้องประชุม เพราะไม่อยากให้ใครสงสัยไปมากกว่านี้ ว่าเธอมีอะไรพิเศษกับเลขา แม้ว่าคนทั้งบริษัทก็รู้ดีในเรื่องนี้ แต่นั่นมันเมื่อก่อน ก่อนที่เธอจะมั่นใจว่า เธอจะไม่ถอนหมั้นกับคู่หมั้น ตอนนี้เธอไม่ต้องการให้เรื่องนี้เป็นที่ฮือฮาขึ้นมาอีกจนกระทั่งไปถึงหูดิออน เพราะทุกวันนี้เธอก็แทบจะเข้าหน้าเขาไม่ได้อยู่แล้ว และยิ่งถ้าเขามารู้ว่าเธอมีนิสัยมั่วไปทั่วแบบนี้ มันจะเกิดอะไรขึ้น ถูกต้อง..เธอจะไม่ได้แต่งงานกับคนที่รัก
โอ้..รักเหรอ..? นี่ฉันรักเด็กคนนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน.. เธอถามตัวเอง ก่อนจะสั่นศีรษะน้อยๆให้ความคิดฟุ้งซ่านนี้หลุดออกไป เธอต้องมีสมาธิที่จะทำงาน มีประชุมสำคัญในวันนี้ แต่พอคิดจะเดินออกจากห้อง ความเจ็บที่ช่องท้องก็เกิดขึ้นจนต้องหยุดชะงักและยืนนิ่งๆพิงผนังห้อง
ยืนนับตัวเลขในใจรอให้อาการมันหาย และคิดว่าคงไม่นาน มันเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งที่เธอปล่อยตัวเองให้หลงไปกับเซ็กส์ จนลืมทะนุถนอมตัวเองไป เธอมักจะปลดปล่อยมันออกไปอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่เก็บกดมันเอาไว้มากและจากเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดเวลากับดิออน มันก็ทำให้เรื่องมันจะต้องออกมาในรูปแบบนี้ และมันไม่เหมือนเมื่อหลายปีก่อนตอนที่เธออยู่กับแฟนเก่า
เซเลนไม่เหมือนเขาเลยสักนิด ผู้หญิงคนนั้นมักจะปฏิบัติกับเธอราวกับเธอเป็นเจ้าหญิงของเขา ในเวลาที่แลกเปลี่ยนความรักกัน เขาก็จะไม่ยอมปล่อยให้เธอได้ทรมานตัวเอง เขาเป็นคนรักและคู่นอนได้วิเศษจริงๆ
คิดถึงเขาขึ้นมา น้ำตาก็พาลจะไหลออกมาทันที ..แต่เธอทิ้งฉัน.. ฉันเกลียดเธอ..
แคลลี่สะบัดตัวออกมาจากผนังห้องและเดินออกไปอย่างไม่สนใจและไม่กลัวว่าตัวเองจะเดินได้น่าเกลียดแค่ไหนเวลานี้ แต่มันคงไม่มีใครสังเกตได้ เพราะร่างกายจะช่วยเหลือเธอไปได้อย่างอัตโนมัติ และเธอก็สามารถเข้าสู่ห้องประชุมได้อย่างปลอดภัย
ประธานบริษัทหันไปแจกจ่ายรอยยิ้มทรงเสน่ห์ให้กับบรรดาสมาชิกผู้เข้าร่วมประชุมเมื่อก้าวเข้ามาในห้อง คนทั้งห้องแต่ละคนก็ต่างส่งยิ้มกลับมาด้วยท่าทางเก้อเขิน แคลลี่เดินไปนั่งลงประจำที่ของเธอที่หัวโต๊ะตามปกติ ไมมีหน้าที่เข้ามาแจกแฟ้มเอกสารการประชุมให้เหมือนทุกครั้ง หล่อนกลับมาหลังจากที่จัดการส่งคนไปที่คฤหาสน์สวอนส์แทนตัวเองแล้ว ประธานสาวยิ้มน้อยๆให้น้องสาวบุญธรรมไปเหมือนที่เคยทำมา แต่ทว่าในครั้งนี้แปลกใจที่ไมไม่ยิ้มตอบกลับเธอ หล่อนเมินหน้าหนีไปทางอื่น แคลลี่ได้แต่ทำหน้าตาไม่เข้าใจเพราะไม่มีเวลาที่จะถาม แต่ระหว่างที่ทุกคนกำลังสนใจอยู่กับผู้ที่กำลังพรีเซ้นงานอยู่ที่บอร์ดหน้าห้อง เธอก็ต้องตกใจที่ได้เสียงใครบางคนกระซิบอยู่ด้านหลัง เพราะมันคือคำตอบของความสงสัยของเธอ
“ทีหลังคุณแคลจะทำอะไร.. เกรงใจคู่หมั้นบ้างนะคะ รู้มั้ยคะว่า..คนที่อยู่หน้าห้องอย่างฉัน.. สามารถได้ยินทุกอย่างในนั้นได้..ทั้งหมด”
แคลลี่ค่อยๆหันไปอย่างกล้าๆกลัวๆ เธอกลัวกับสายตาของดวงตาสีม่วงที่รู้ทันแบบนี้ แต่อย่างไรก็ยิ้มให้เสมอ ขยับมือสวยของเธอเอื้อมไปดึงมือไมที่นั่งอยู่ใกล้ๆมากุมไว้และบีบมันเบาๆและใช้เสน่ห์ของดวงตาให้เป็นประโยค หวังให้หล่อนยอมรับฟังคำของเธอสักครั้ง
“รู้แล้วจ้ะ..น้องสาว.. ต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้ว..สัญญา”
ไมกลับมายิ้มให้และมองเธออย่างเชื่อใจเหมือนที่เคยเป็นมา แคลรู้สึกสบายใจขึ้นและยิ้มได้อย่างสุขใจ แต่รอยยิ้มของเธอก็เหมือนจะหายไปทันทีที่เธอหางตาไปมองเห็นว่ามีใครคนหนึ่งกำลังมองหน้าเธออยู่ด้วยสายตาที่บอกได้เลยว่า...เป็นสัญญาณไม่ดี...
และประโยคหนึ่งที่เธอจำได้ขึ้นใจก็ดังขึ้นมาในหัวของเธอ...
Children should not play with Fire, Kally.
--The bodyguard--
ขณะที่แคลเดินเข้ามาในห้องนอน มันเป็นเวลาที่ค่อนข้างดึกแล้ว วันนี้เป็นวันที่เธอรู้สึกเหนื่อยเป็นพิเศษ เมื่อมันมีทั้งงานยุ่งๆตามปกติ มีประชุม พบลูกค้าและอะไรอีกตั้งมากมายในบริษัทที่เธอต้องไปจัดการในฐานะท่านประธานที่ขาดรองประธานช่วยเหลือ แต่ยังดีที่ว่าเธอยังมีน้องสาวอุปถัมภ์ที่ช่วยแบ่งเบาภาระงานที่บริษัทให้ ไม่เช่นนั้นเธอคงจะเหนื่อยกว่านี้แน่ แต่วันนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องงาน ที่ทำให้เธอเหนื่อย มันมีเรื่องอื่นด้วย
คู่นอนแสนเซ็กซี่ทำให้เธอแทบเดินไม่ไหว ทั้งที่คิดว่าจะไม่ทำตัวแบบนั้น เลิกหาเศษหาเลยกับใครที่ไหนอีก กลับมาเป็นคนหนักแน่นและรักเดียวใจเดียว มีแค่คนคนเดียวอยู่ในหัวใจและยอมยกร่างกายทั้งหมดให้กับเขา เธอก็กลับทำไม่ได้ หรือของแบบนี้มันคงจะเลิกกันไม่ได้ง่ายๆจริงๆ หรือเธอต้องค่อยเป็นค่อยไป ให้เวลามัน แต่ปัญหามันคงไม่ได้อยู่กับเธอแค่คนเดียว มันเกี่ยวกับเซเลนด้วยว่า หล่อนจะยอมหรือไม่ที่จะปล่อยให้เธอได้เป็นอิสระ และมีชีวิตอยู่แต่กับคู่หมั้นคนนี้
ดวงตาสีแดงมองกวาดไปรอบๆห้องนอนที่เธอไม่คุ้นตา แน่นอนเลยว่ามันไม่ใช่ห้องของเธอ แต่นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้มันกำลังจะใช่และคงใช่อย่างเต็มที่ ถ้าเธอได้มีโอกาสที่จะได้แต่งงานกับเจ้าของห้อง
แคลลี่มองไปที่เตียงนอน ดิออนนอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ เธอไม่อาจจะห้ามใจไม่ให้เดินเข้ามามองใกล้ๆไม่ได้ แต่ก็พยายามที่จะเดินให้เบาๆที่สุดเท่าที่จะทำมันได้ และสิ่งที่เห็นก็ทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว เด็กสาวหน้าตาสวยคมกำลังนอนหลับตา หล่อนดูไร้เดียงสาเท่าอายุแล้วในเวลานี้ เพราะท่าทางที่นอนกอดหมอนข้างอย่างสบายใจ ไม่แน่ว่า ดิออนคงลืมไปแล้วว่า คืนนี้หล่อนจะไม่ได้อยู่ในห้องนี้คนเดียว แต่คงไม่ใช่ในเมื่อประตูไม่ได้ลงกลอน คงรู้ว่าเธอจะกลับมา
ร่างสูงก้มลงพอให้สามารถได้กลิ่นของคนที่นอนอยู่นั่น แคลลี่สูดลมหายใจเข้าอย่างเต็มที่ เพราะรู้ดีว่ากลิ่นกายของเด็กสาวคนนี้น่าเสพติดมากขนาดไหน หอมอย่างน่าประหลาด เธอหลงใหลมัน จากนั้นก็ต้องหักห้ามใจให้ก้าวถอยหลังออกมา และเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
มือสวยปล่อยให้น้ำจากฝักบัวชำระล้างตัวตัวเอง ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แต่ก็ต้องเสียใจที่เห็นอะไรที่ไม่ต้องการจะเห็นเมื่อยามหลับตา ภาพของเธอกับใครหลายคนที่ร่วมทำเรื่องแบบนั้นด้วยกัน ผุดขึ้นมาเป็นความทรงจำที่ฉายออกมาเหมือนภาพในหนัง
คู่นอนมากหน้าหลายตาแทบไม่ซ้ำคน จนมาเจอกับเซเลน หล่อนก็เป็นคนสุดท้ายที่ได้สัมผัสตัวเธอในตอนนี้ และเพิ่งทำไปสดๆร้อนๆ
ภาพที่ย้อนกลับมาให้เห็นนั้น มันยืนยันถึงความสกปรกของตัวเธอที่แม้จะงดงามขนาดไหนก็ต่างพร้อยไปด้วยร่องรอยของใครๆมากมาย และคนสุดท้ายจริงๆจะคือใคร..เธอถามตัวเอง ดิออนเหรอ..?
แคลลี่สั่นศีรษะไปมาแรงๆจนน้ำที่เกาะอยู่ตามเส้นผมที่ยาวจรดกลางหลังกระเซ็นไปทั่วและยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
..เป็นไปไม่ได้ หล่อนเกลียดฉันจะตายไป.. เธอก้มหน้ายืนอยู่ในน้ำที่ไหลรดศีรษะ ปล่อยให้มันช่วยชำระล้างตัวเธอต่อไป แม้จะรู้ว่า ไม่มีทางที่มันจะสะอาดได้อีกแล้ว มันตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ เธอถามตัวเองอีกครั้ง
และแล้วดวงตาสีแดงเข้มดั่งก้อนเลือดก็เปิดขึ้นมาใหม่ พร้อมกับหมัดที่กระแทกไปเต็มแรงที่ผนังห้องน้ำ ออกแรงส่งไปกับมันอีกหลายต่อหลายครั้ง หวังระบายความโมโหกับคำตอบที่เธอตอบตัวเอง โดยไม่สนใจเลยว่า มันทำให้เธอได้เห็นของเหลวสีเดียวกันกับสีตาของตนไหลออกมาพร้อมกับสายน้ำที่ไหลรินลงสู่พื้น
...ฉันเป็นแบบนี้เพราะเธอ.. เพราะเธอคนเดียว...