web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 230
Most Online Ever: 230
(วันนี้ เวลา 05:53:50)
Users Online
Members: 0
Guests: 172
Total: 172

ผู้เขียน หัวข้อ: My little sweet devil Chapter 1 : ไอดอลผู้หายตัวได้  (อ่าน 4432 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Admin

  • แอดมิน
  • เริ่มติด
  • *****
  • กระทู้: 251
  • I'm sociopath. I don't have feelings.
My little sweet devil Chapter 1 : ไอดอลผู้หายตัวได้
« เมื่อ: 27 ธันวาคม 2013 เวลา 19:14:09 »


Chapter  1  :  ไอดอลผู้หายตัวได้


“โอ้..โชว์คราวนี้จัดอลังการดีนะเนี่ย..”

เสียงใสๆจากคนข้างกายเอ่ยชมก็จริง  หากผู้หญิงตาสีมรกตกลับพ่นลมหายใจฮึดฮัดราวไม่พอใจอะไรสักอย่าง

“ใช่..อลังการสิ  ก็เด็กฉันอยู่บนนั้นซะอย่าง” พูดแล้วก็ยิ้มมุมปากให้กับคนที่หันมาเลิกคิ้วให้  แล้วต่างคนจะต่างหันไปมองหลายชีวิตบนเวทีตรงหน้าแทน

โชว์กำลังดำเนินอยู่  และมันจะหยุดลงไม่ได้แค่ใครคนหนึ่งหายไป...

ไม่ว่ายัยตัวแสบนั่นจะหายไป!

“เพราะฉันมีตัวสำรอง”  รีเบคก้ากัดฟันกรอดขณะมองจ้องไปบนเวทีอย่างโมโห  เธอไม่มีวันหายโกรธเรื่องนี้แน่  ครั้งนี้มันเกินไปแล้ว  นี่มันงานสำคัญใช่ไหม.?

แต่หล่อนก็หายไปจนได้  เลวที่สุด!

ดวงตาสีมรกตทอแสงเป็นประกายร้ายกาจท่ามกลางความสลัวในบรรยากาศของห้องแสดงโชว์  บนเวทีมีหญิงสาวมากหน้าหลายตาผลัดเปลี่ยนเวียนกันมายืนโพสท่าอยู่บริเวณส่วนด้านหน้าสุดของมัน  แต่ละคนก็ต่างมีวิธีนำเสนอสิ่งที่อยู่บนร่างกายของพวกหล่อนได้แตกต่างกัน  โดยจุดประสงค์มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น  คือการทำอย่างไรก็ได้ให้เครื่องแต่งกายที่สวมใส่ดูดีที่สุด 

เมื่ออยู่บน..แคทวอล์ก..

พวกหล่อนเหมือนนางแมวที่กำลังล่อหลอกให้คนหลงเพ้อไปกับความงดงามในฉากหน้านี้  หากอันที่จริงถ้าใครไปด้านหลังเวทีจะพบกับความชุลมุนวุ่นวายที่แทบจะไม่อยากเชื่อว่า  มันเป็นสถานที่เดียวกัน  เธอเองกว่าจะลากนางแบบในสังกัดออกมาอวดโฉมอย่างคนอื่นได้  ก็แทบตายทั้งๆที่หล่อนเป็นไอดอลแท้ๆ

ไอดอลที่ไม่มีความรับผิดชอบ!

“คุณคริสตินสวยสุดยอดเลยเนอะ  ฉันรอดูเค้าเดินชุดสุดท้ายอยู่” 

คนข้างเธอพูดแทรกแสงแฟลชเสียงดนตรีเข้าหูมา  รีเบคก้าหันไปยิ้มพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้  ก็ไม่อยากให้หล่อนผิดหวังหากรู้ความจริงที่เธอซ่อนเอาไว้  พอหล่อนหันไปทางอื่น  เธอก็หันไปข่มฟันกรอดๆ ใจจริงอยากจะเต้นเร่าๆอยู่ตรงนี้หากไม่อายคนและไม่กลัวคนรู้ความลับ  สมองหวนคิดกลับไปยังห้องแต่งตัวด้านหลังเวทีเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา

ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว...

“หมายความว่ายังไงนะ  ยัยนั่นหายไปเหรอ!”  รีเบคก้าตวาดแว๊ดใส่คนตรงหน้าทั้งที่หล่อนอุตส่าห์คาบข่าวสำคัญมาบอก  และเพราะเสียงอันดังของเธอเอง  คนทั้งหมดในห้องนี้จึงหันมามองพวกเธอเป็นตาเดียว  แม้พวกเขาจะกำลังวุ่นวายกันอยู่

“เอ่อ..ไม่มีอะไรค่ะ  ไม่มีอะไร..”  ผู้จัดการสาวรีบปฏิเสธยิ้มแหยๆให้บรรดาเจ้าของสายตาพวกนั้น  พอพวกเขาหันจากไปทำเรื่องของตัวเองต่อ  เธอก็หันกลับมาทำตาเขียวปั๊ดใส่ผู้หญิงคนเดิมและลากหล่อนให้เดินไปด้วยกันยังห้องแต่งตัวนางแบบพิเศษที่ความจริงเธอกับใครบางคนควรจะอยู่ในนั้นนานแล้ว..

แค่หล่อนไม่มาเท่านั้น !

“แล้วรู้ไหมว่าหล่อนไปไหน.!” กระซิบกระซาบถามราวกลัวใครจะได้ยินทั้งที่อยู่ในห้องส่วนตัว  ก็กลัวคนมาแอบฟัง  สาวร่างสูงกว่ามองหน้าซีดกลับมา  ส่ายหน้าให้เธอถอนหายใจเฮือก

“รีเบคก้า..  ฉันขอโทษแทนพี่ด้วย  แต่ช่วยไม่ได้นะ  เค้าหายไปจริงๆ”  อิงกริดจับมือเล็กมากุมไว้คล้ายจะปลอบ  หากคำปลอบของเธอคงไม่เป็นผลสำเร็จ  อีกคนยังดูกลุ้มอกกลุ้มใจอยู่  ไม่รู้จะทำยังไงดี  จึงหลุดปากพูด

“มีอะไรให้ช่วยไหมล่ะ  ฉันจะไถ่โทษให้เค้า..”

หญิงสาวเบื้องหน้าทำตาวาวอย่างที่เธอรู้สึกได้ถึงสัญญาณไม่ดี  อิงกริดเริ่มเหงื่อตก  “นี่เธอคงไม่คิดที่จะ.....”

ในใจเธอภาวนาให้หล่อนไม่พยักหน้ารับข้อเสนอ  หากพระผู้เป็นเจ้าคงไม่รับฟัง  รีเบคก้าชี้มือไปที่ชุดที่แขวนอยู่ในห้อง  มันกำลังอ้าแขนรอบางคนมาสวมใส่ตั้งนานแล้ว  แต่นั่นคงไม่ใช่เธอใช่ไหม...

“ถอดเสื้อผ้าออกอิงกริด  เดี๋ยวนี้!” 

“อะไรรีเบคก้า  อย่านะ!”  อิงกริดฉุดตัวเองกลับมาจากการถูกกระชากเสื้อผ้าออกจากตัว  เธอไม่เห็นด้วยกับผู้จัดการหัวใส  และเพราะแรงแย่งยื้อกันอย่างเอาเป็นเอาตาย  ไม่มีใครยอมแพ้ใคร  สุดท้ายพวกเธอทั้งคู่ก็ลงไปกองทับกันกับพื้น  โดยมีสาวตัวเล็กกว่านั่งทับเธอทั้งตัว  หัวใจเธอสั่นกับตำแหน่งอันตรายนี้  หากผู้หญิงอีกคนกลับมองไม่เห็นมัน  หล่อนยิ้มร้ายกาจและพูดลอดไรฟันออกมา

“ถ้าไม่อยากให้เราโดนฟ้องเรียกค่าเสียหายจนหมดตัว  ช่วยใช้ความเป็นแฝดของพวกเธอให้เป็นประโยชน์ด้วย..อิงกริด   โมเลย์  ไม่ใช่สิ..  คริสติน..”

........................................

“นี่คุณผู้จัดการคิดอะไรอยู่คะ.?”

   รีเบคก้ากระพริบตาดึงสติกลับมาสู่ปัจจุบัน  แล้วหันไปส่ายหน้าให้กับคนถาม  “นิดหน่อยค่ะ  ไม่มีอะไรสำคัญ”

“อ้อค่ะ  งั้นดูโชว์กันต่อนะ”

“ค่ะ”  ผู้จัดการสาวถอนหายใจโล่งเมื่อแก้ตัวได้สำเร็จ กระพริบตาอีกครั้งเมื่อคิดได้ว่าโชว์ชุดสุดท้ายกำลังจะเริ่ม  เธอมองไปทันเวลาพอดี

   “ว้าว..  คุณคริสตินสวยมากจริงๆด้วย!”  สาวข้างตัวคนเดิมตะโกนปลาบปลื้ม  เธอยิ้มให้หล่อนแต่ไม่ลืมความจริง  และไม่ลืมมองไปรอบๆตัว

   จะมีใครสักคนไหมที่เอะใจว่า  นางแบบในชุดฟินนาเล่ตรงหน้า  ไม่ใช่ผู้หญิงคนเดิม  หล่อนไม่ใช่..คริสติน..

   ไม่ใช่ไอดอลที่แท้จริงของพวกเขา!

   แล้วหล่อนไปไหนกันยะ!

................................................. 

ฉันไม่ใช่หุ่นเชิดของเธอ..  จำไว้ด้วยนะ..ยัยผู้จัดการตัวแสบ..

ริมฝีปากสวยสีชมพูอ่อนๆตามธรรมชาติเผยยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ  ใบหน้าขาวปราศจากเครื่องสำอางที่บางครั้งก็คันเพราะแพ้  เพราะลืมเอาของตัวเองไปด้วยเวลาที่ต้องใช้มัน  แต่ตอนนี้ก็ช่างมันเถอะ  เธอกำลังปลอดโปร่ง..

แม้เพียงไม่กี่ชั่วโมง  อาจไม่ถึงชั่วโมงที่ได้อยู่แบบนี้ก็ยังดีกว่าไม่มีเวลาแบบนี้เลย  พอเถอะ  เลิกคิดถึงมัน

ถึงตอนกลับไปจะโดนยัยตัวเล็กนั่นยำเละก็ยอม..

หญิงสาวถอนหายใจพยายามผ่อนคลายอารมณ์ตัวเอง ดวงตาคู่สวยมองผ่านเลนส์สีเข้มของแว่นบนใบหน้า  หวังมองหาจุดหมายที่ใจต้องการ 

อากาศที่นี่ดีจริงๆ..  เธอรำพึงในใจอย่างมีความสุข  ตั้งแต่ย้ายมาทำงานที่โตเกียวยังไม่เคยได้มาเดินเล่นตรงนี้เลย  ก็เคยว่างซะที่ไหน  ยัยบ้านั่นหางานให้ฉันทำตลอดเวลา..  เห็นฉันเป็นเครื่องจักรหรือไงนะ 

ร่างสูงโปร่งส่ายหน้าไปมาพยายามสะลัดความคิดที่ทำให้อารมณ์เสียออกไปจากหัว  มืองามยกขึ้นกระชับหมวกไหมพรมบนศีรษะ  ขยับแว่นกันแดดให้เข้าที่  วันนี้เธอแน่ใจว่า  แต่งตัวได้ไม่ให้เป็นจุดสนใจมากแล้ว  ก็แค่เสื้อวอร์มสวมทับเสื้อยืด  กางเกงวอร์ม  รองเท้าผ้าใบ  และก็มีผ้าพันคอเพิ่มเข้ามาเพราะอากาศมันหนาว  หรือเพราะเธอตัวสูงผิดปกติผู้หญิงญี่ปุ่น..

ก็ฉันไม่ใช่ญี่ปุ่นไงเล่า..

มิน่าล่ะ  ว่าแล้ว..  หลายคนจึงมองเธอด้วยสายตาประหลาด  ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน  แล้วจะเอายังไงดี.. 

ดวงตาสีฟ้าดอกไอริสหรี่ลงอย่างข่มใจไม่ให้กลัวกับสิ่งที่ยังไม่เกิด  เธอมองผ่านเลนส์แว่นดำไปยังพวกเขาเหล่านั้นที่ยังมองอยู่  บางคนเดินผ่านเธอมาและหยุดมองจนเธอเดินผ่านไป  บางคนผ่านเธอไปแล้วก็ยังเหลียวหลังมามอง  ชักไม่ใช่สัญญาณที่ดีเสียแล้ว  แถมผู้หญิงที่ยืนกันเป็นกลุ่มก็ซุบซิบบางอย่างกันเสียอีก  โทษทีเถอะแม่คุณ..  ฉันไม่ใช่ตัวประหลาดนะ!

ถอนหายใจอีกครั้งยาวๆ  หญิงสาวรีบเดินจ้ำออกจากสวนสาธารณะที่ว่าจะมาเดินเล่นพักผ่อนนี้ทันที  บางทีวันนี้อาจจะไม่ใช่วันของเธอที่นี่..

แต่ถึงอย่างนั้น...

อิงกริด..  โชคดีนะตอนที่พี่ไม่อยู่แบบนี้...

เพราะพี่จะไปที่อื่นแล้วล่ะน้องสาว...

...........................

งานแสดงโชว์บนแคทวอล์กจบลงไปด้วยดีโดยนางแบบที่เธอหามาแทนตัวจริงไม่ได้ตกส้นสูงหัวทิ่มคะมำหงายบนเวทีให้อายคนดู 

ก็ใช่สิ  นี่ไม่ใช่งานแรกที่หล่อนทำแทนพี่สาวสักหน่อย..

“โชว์จบแล้ว  ขอตัวก่อนนะคะ”  รีเบคก้าโค้งศีรษะอย่างสุภาพให้คนที่คุยกับเธอมาตลอดงาน  แม้จะเป็นคนต่างชาติที่เข้ามาทำงานที่นี่  เธอก็ไม่ลืมใช้วัฒนธรรมของพวกเขา  หญิงสาวผู้นั้นโค้งให้เธอกลับมาตามมารยาทเหมือนกัน  และพอเดินลับหลังหล่อนมาได้  เธอก็แทบจะกรี๊ดอยู่คนเดียว

“สำเร็จๆ  ฉันทำสำเร็จไปอีกงาน!”  ร่างบางรีบจ้ำไปหลังเวที  เธอต้องไปรับผู้หญิงคนนั้นให้ทัน  และก็เจอหล่อนหน้าหงิกลงมาพอดี 

“ฉันไปเปลี่ยนชุดนะ”  อิงกริดเมินหน้าหนี  เธอคิดจะเอาตัวรอดจากที่นี่ทันทีที่จบงาน  ร่างโปร่งเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า  เธอกำลังจะเช็ดเครื่องสำอางออกจากใบหน้าอย่างสบายใจ  และคงสบายใจกว่านี้หากไม่มีบางคนที่ยืนเกาะประตูห้องมอง  “มองอะไรแบบนั้น   ฉันทำไม่ดีหรือไง.?”

“เปล่าๆ ดีมากต่างหาก  เธอเจ๋งสุดๆ”  รีเบคก้าเข้ามาจูบแก้มสาวที่นั่งหน้ากระจก  ลากเก้าอี้อีกตัวมาช่วยหล่อน  หากก็ถูกมองหน้าอย่างสงสัยคล้ายคนมองกำลังระแวง 

“มองอะไรล่ะ  ก็แค่อยากช่วย”  ผู้จัดการสาวใช้สำลีชุบน้ำยาล้างเครื่องสำอางมาปาดบนใบหน้าเนียนของสาวในสังกัด  พยายามทำมันอย่างตั้งใจและเหมือนไม่มีอะไรแอบแฝง  น่าเสียดายที่คนที่รู้จักกันมาแสนนานไม่เชื่อเธอ  หล่อนมองอย่างระแวงตลอดเวลา  สุดท้ายเธอก็ยอมแพ้

“โอเค..  เรายังมีงานอื่นต่อ”

“งานอื่น!”  อิงกริดทำหน้าช็อค  อีกสาวยิ้มแห้งๆกลับมาก่อนเข้ามาคล้องคอกอด  ออดอ้อนตามแบบฉบับตัวเองที่มักจะทำให้เธอใจอ่อนเสมอ

“เฮ้อ..  ฉันเหนื่อยแล้วนะ”

“เอาน่าๆ  คิดว่าทำเพื่อเราก็ได้  นะๆอิงกริด”  รีเบคก้าพยายาม  มองตาอีกสาวราวลูกสุนัขขี้อ้อน  เจ้าหล่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนพยักหน้าให้อย่างเสียไม่ได้  แต่ถึงหล่อนจะไม่เต็มใจ  เธอก็จะให้รางวัล..

“โอเค..  งั้นให้จุ๊บหนึ่งที  แลกกัน” 

“งั้นค่อยน่าทำให้หน่อย..”  นางแบบจำเป็นหัวเราะก่อนเป็นฝ่ายถูกปิดปากด้วยจูบเร็วๆจากผู้จัดการส่วนตัวร่างเล็กที่ชอบทำเป็นเล่นกับเธอเรื่องนี้เสมอ  รีเบคก้าชอบใช้มารยาเวลาอยากจะได้อะไรสักอย่าง  แต่เธอก็หลงกลหล่อนอยู่เรื่อยเหมือนกัน  ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำอะไรต่อ  หล่อนก็ลุกพรวดเดินหนีไปคว้ามือถือขึ้นมาคุยซ้ำหันหลังให้

อิงกริดถอนหายใจส่ายหน้า  ยิ้มบางๆให้กับคนบ้างานตรงมุมห้อง  และหันมองกระจกเงาตรงหน้าอีกครั้ง  เธอรำพึง..

“ฉันไม่น่าเกิดมาหน้าเหมือนเธอเลย  ให้ตายเถอะคริสติน”

......................................... 

...ป่านนี้อิงกริดจะโดนอะไรบ้างนะ...

ดวงตาสีฟ้าไอริสมองเหม่ออย่างว่างเปล่า  แม้ว่าทิศทางเบื้องหน้าของเธอจะมีความสวยงามของบ่อน้ำพุอยู่ตรงจุดนั้น  หรือจะเพราะเธอยังมีเรื่องให้ห่วงใยภายในใจอยู่  หรือกำลังรู้สึกผิดที่..หนีงาน   

“แต่ช่างเถอะ  ยัยเด็กนั่นคงจะยอมอ่อนข้อให้เธอบ้างล่ะน่า..  พวกเธอสนิทกันนี่..”  เสียงนุ่มๆพึมพำออกมาเบาๆ มือเรียวขยับแว่นซึ่งมีเลนส์สีดำเข้มเล่นไปมาในอากาศ  ร่างโปร่งนั่งบนเก้าอี้ไม้มองนู่นมองนี่ไปเรื่อยๆ ในที่สุดเธอก็ได้จุดที่สามารถนั่งเล่นได้อย่างสงบเสียที  หวังว่าคงไม่มีใครมากวนใจอีกนะ

ขี้เกียจจะหนีแล้ว..

คริสตินมองซ้ายมองขวาอย่างระวัง  เมื่อไม่เห็นว่ามีคนสนใจมองมาทางเธอแล้วก็ถอนหายใจโล่งอก  มืออีกข้างที่ว่างหยิบหมวกไหมพรมออกจากศีรษะ  ให้อิสระกับเส้นผมยาวๆซึ่งถูกกักเก็บเอาไว้  มันอึดอัดสิ้นดี  หากในที่สุดเวลานี้  มันก็มีโอกาสได้ออกมาโชว์สู่สายตาคน  เส้นผมสีบลอนด์ประกายเงินสยายพลิ้วไปตามแรงลมเป็นประกายรับกับแสงตะวันยามสาย  เจ้าของมันรู้สึกสบายใจขึ้น  มันโล่งหัวที่สุด  แต่จะได้นานสักเท่าใด

เพราะสวรรค์ไม่เคยเข้าข้างเธอ  จึงได้เจอกับเสียงที่ดังแว่วมาเข้าหู..

“เฮ้..เธอ..  เห็นผู้หญิงคนนั้นมั้ย..  ฉันว่าคุ้นๆนะ  ผมสีเงินด้วย!” 

ความรู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลายสบายใจของเธอถูกหยุดเพียงเท่านั้น  คริสตินรีบดันแว่นดำกลับเข้าใบหน้า  พร้อมด้วยหมวกที่เพิ่งถอดไปก็จับกลับมาใส่หัว  ดวงตาสีฟ้าไอริสมองผู้หญิงคู่นั้นที่มองตนอยู่ไม่ละสายตาเพราะเธอรู้ว่าพวกหล่อนพูดอะไร  ถึงไม่ใช่คนญี่ปุ่น  ความอยู่มานานก็ทำให้เธอเข้าใจความหมาย  เธอกำลังจะโดนจับได้แล้ว

ร่างโปร่งลุกพรวดจากเก้าอี้ไม้และกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากจุดเสี่ยงนั่นทันที  ไม่มีเหลียวหลังไปมองอีก  หากความรีบร้อนกลัวว่าคนจะจับได้  ก็ทำให้เธอสร้างปัญหาให้ตัวเองเพิ่มเมื่อเดินไปชนใครคนหนึ่งเข้าอย่างจัง  ฝ่ายนั้นกระเด็นลงไปนั่งก้นจ้ำกับพื้น  ร้องโอดโอย..

“โอ้ยอะไรกันเนี่ย..”

และเสียงสำเนียงประหลาดที่ไม่ใช่แบบที่เธอได้ยินประจำในโตเกียวก็ทำให้หญิงสาวชะงัก  และเธอเห็นดวงตาของหล่อนตอนที่แว่นดำอันใหญ่ใบหน้าหล่นลงมาที่ปลายจมูกโด่งๆ หล่อนตาสีน้ำเงิน  สวยเหลือเกิน..

หากเธอก็ไม่มีเวลาสนใจความงามนั้นนานนัก  แว่วหูได้ยินเสียงโวยวายตามหลังมา  คริสตินรีบคว้ามือหญิงสาวที่นั่งกับพื้นให้วิ่งไปด้วยกัน

“เดี๋ยวคุณ!  เราจะไปไหน!”  เจ้าหล่อนโวยขึ้นมาอย่างตกใจ  หากเธอก็ตอบไปได้คำเดียว  และไม่สนใจอะไรอีกเลย

“ฉันไม่รู้  แต่ฉันต้องไป  และเธอต้องไปด้วย  คนสวยตาสีน้ำเงิน!”



..................................................


เปิดตัวนิยายใหม่อีกแล้ว  ฮ่าๆๆๆ   :14:  :14:

ได้ข่าวว่า เรื่องเก่ายังไม่จบสักเรื่อง  แต่ทำไงได้  ก็มันอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างอ่ะค่ะ อิอิ

คือ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรีไรท์มาจากเรื่องที่เป็นฟิคเก่าค่ะ มันเลยอาจจะดูคุ้นๆตาบางคนที่เคยอ่านฟิคของเราบ้าง  ก็อยากให้รู้ว่า คนเดียวกันเขียนนะคะ ไม่ได้ก้อปใคร ฮา..

เรื่องนี้เป็นเรื่องในวงการบันเทิงบ้างค่ะ จากที่มีมาหลายวงการแล้ว เหอๆๆ  (บางทีก็คิดชื่อนางเอกไม่ค่อยออกแระ  หลายเรื่องจัด)

ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ  และสัญญาว่า จะไม่ทิ้งเรื่องที่เขียนอยู่เก่าหรอก อิอิ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่ะ   :70bff581: :70bff581:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 ธันวาคม 2013 เวลา 20:03:41 anhann »




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.